กรมศุลฯโชว์ล้ำ ‘ระบบไร้เอกสาร (TCES)’ ในงานเสวนา WTO Public Forum 2024

กรมศุลกากรร่วมเสวนาในการประชุม WTO Public Forum 2024 ที่กรุงเจนีวา สวิสเซอร์แลนด์ ประกาศเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันทางการค้า ก้าวสู่ศุลกากรในยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมโชว์ “ระบบศุลกากรไร้เอกสาร” ใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงานรัฐและภาคเอกชน พัฒนาอย่างครอบคลุมทั้ง 7 ส่วน

เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 นายนิติ วิทยาเต็ม รองอธิบดีกรมศุลกากร เป็น “ผู้แทนกรมศุลกากร” เข้าร่วมการประชุม WTO Public Forum 2024 และร่วมเสวนาในหัวข้อLeveraging Digitalization in Customs for Inclusive Trade” ร่วมกับ Mr. Ian Saunders เลขาธิการองค์การศุลกากรโลก Ms. Angela Ellard รองผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก และ Ms. Valerie Picard หัวหน้าคณะกรรมาธิการด้านการค้าหอการค้านานาชาติ เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในงานศุลกากร พร้อมปรับปรุงพิธีการศุลกากรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อมและรายย่อย ณ เมืองเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส

นายนิติ เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กรมศุลกากรดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ “องค์กรศุลกากรชั้นนำ ที่มุ่งส่งเสริมความยั่งยืนของเศรษฐกิจและความปลอดภัยของสังคม ด้วยนวัตกรรมและบริการที่เป็นเลิศ” ได้เผยแพร่ ความสำเร็จในการปรับใช้ระบบเทคโนโลยีดิจิทัล ด้วยระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์ของไทย (Thai Customs Electronic System: TCES) ซึ่งเป็น ระบบศุลกากรไร้เอกสาร ที่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยใช้ มาตรฐานของ ebXML ผ่านระบบ National Single Window (NSW) และ พัฒนาอย่างครอบคลุมทั้ง 7 ส่วน ได้แก่ การบริการศุลกากร การตรวจปล่อยสินค้า การจัดการขนส่ง การจัดการความเสี่ยง การบริหารข้อมูล สิทธิประโยชน์ รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยซึ่งระบบนี้ช่วยยกระดับการทำงานและการบริการด้านศุลกากรอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น ข้อจำกัดด้านงบประมาณ การสร้างความตระหนักรู้ไปสู่ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และการทำงานร่วมกันระหว่างหลายแพลตฟอร์มดิจิทัล

สำหรับ ประเด็นการสนับสนุน MSMEs กรมศุลกากรได้ออกแบบระบบดิจิทัล เช่น ระบบตรวจคัดเลือกและประเมินผลผู้ประกอบการระดับมาตรฐานเออีโอ (AEO) ซึ่งช่วยให้ MSMEs ได้รับสิทธิประโยชน์ในการทำการค้าระหว่างประเทศที่มีความปลอดภัย ระบบพิธีการศุลกากรพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) และ ระบบติดตามพิธีการศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tracking) ที่เปิดโอกาสให้ MSMEs สามารถเข้าถึงตลาดการค้าระหว่างประเทศได้มากขึ้น และยังมีส่วนในการเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างประเทศอีกด้วย

รองอธิบดีกรมศุลกากร กล่าวอีกว่า กรมศุลกากรกำลังวางแผนโครงการ Big Data เพื่อยกระดับการให้บริการและการจัดการข้อมูลในอนาคต นอกจากนี้ กรมศุลกากรยังมีบทบาทสำคัญในการผลักดันการเชื่อมโยงข้อมูลในระดับภูมิภาคที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าส่งออกภายใต้ ASEAN Single Window (ASW) ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ อาทิ หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าของอาเซียน (ATIGA e-Form D) และ ข้อมูลใบขนสินค้าอาเซียน (ASEAN Customs Declaration Document: ACDD) เป็นต้น เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการดำเนินงานด้านศุลกากรในระดับภูมิภาค ต่อไป.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password