บสย. จัด ‘TCG Stakeholders Day 2025’ – ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย’ ชื่นชม บสย. ยกระดับช่วยเหลือ SMEs ทุกมิติ

บสย. จัดกิจกรรม “TCG Stakeholders Day 2025 : ความเห็นของท่านสำคัญกับ บสย.” ประจำปี 2568 ถ่ายทอดบทบาท พันธกิจ ต่อยอดความสำเร็จตอบโจทย์ค่านิยม วิสัยทัศน์องค์กร กำหนดแผนยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 12 แผนงาน ด้าน “ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย” ชื่นชมการทำงาน บสย. เดินหน้ายกระดับช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อ แก้ Pain Point ให้ SMEs ควบคู่เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดประชุม “TCG Stakeholders Day 2025 : ความเห็นของท่านสำคัญกับ บสย.” เชิญ 69 หน่วยงาน 9 กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กว่า 200 คน ประกอบด้วย 1.ลูกค้าและผู้ประกอบการ 2.คู่ค้า -สถาบันการเงิน 3.ผู้กำหนดนโยบายและงบประมาณ 4.ผู้ถือหุ้น 5.พันธมิตรและคู่ความร่วมมือ 6.ผู้ส่งมอบ 7.สื่อมวลชน 8.ชุมชน/สังคม และ 9.บุคลากร บสย. ร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting ถ่ายทอดความสำเร็จการดำเนินพันธกิจ บทบาท และภารกิจของ บสย. นับตั้งแต่เปิด บสย. ก้าวสู่ปีที่ 34 เพื่อให้เกิดการสื่อสารระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับ บสย. ทำให้ได้รับทราบถึงความต้องการ ความคาดหวัง การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และแผนระยะยาวของ บสย. รวมถึงออกแบบกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ นำไปสู่เป้าหมายด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ตอบโจทย์ร่วมกันทุกภาคส่วนอย่างสมดุลและยั่งยืน

โดยผู้บริหารระดับสูง บสย. ประกอบด้วย กรรมการและผู้จัดการทั่วไป และรองกรรมการผู้จัดการ สายงานต่างๆ ได้แถลงถึงผลดำเนินงาน วิสัยทัศน์ และทิศทางการขับเคลื่อนองค์กร ในปี 2568 ภายใต้ค่านิยม TCG Fast & First รวดเร็ว รอบคอบ ที่หนึ่งในใจ SMEs และวิสัยทัศน์ “เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงเงินทุนและโอกาสให้แก่ SMEs เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน (SMEs’ Gateway) เชื่อมโยง SMEs และ สถาบันการเงิน และกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder) พร้อมให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนกลยุทธ์ 4P 1D คือ Product Partnership Platform Planet และ Debt Management ควบคู่กับการดำเนินพันธกิจ (Mission) 5 ด้าน ได้แก่ 1.พัฒนาศักยภาพ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อยเพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน และองค์ความรู้ทั้งระบบ 2.ผลักดัน SMEs และผู้ประกอบการรายย่อยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยนวัตกรรมทางการเงิน 3.เชื่อมโยงเครือขายธุรกิจครบวงจรสำหรับ SMEs และผู้ประกอบการรายย่อย 4.ยกระดับขีดความสามารถองค์กรเพื่อการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากอย่างบูรณาการ 5.ส่งเสริมการดำเนินงานที่โปร่งใสในทุกระดับองค์กรอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ บสย. ได้กำหนดขอบเขตการดำเนินงานด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ปี 2568 ในกรอบการดำเนินงาน 4 ด้าน ดังนี้ 1.การพัฒนาศักยภาพของบุคลากร 2.พัฒนาระบบ 3.ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี และ 4.ยกระดับขีดความสามารถในการบริหารจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ พร้อมกำหนดแผนยุทธศาสตร์ด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อเป็นแนวทางดำเนินงานด้านการบริหารจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ให้สอดคล้องกับนโยบายและทิศทางการดำเนินงานขององค์กร มุ่งให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และสานประโยชน์ในทุกภาคส่วนตามพันธกิจอย่างเป็นรููปธรรม ภายใต้ 12 แผนงานได้แก่

1.การทบทวนกรอบการกำกับดูแลและการติดตามรายงานผลด้านการมุ่งเน้นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 2.การขยายฐานลูกค้าเป้าหมาย Non-bank กลุ่มอื่นๆ 3.แผนพัฒนาความยั่งยืน 4.แผนงานสรรหา Lead จากการร่วมมือกับคู่ค้าและพันธมิตร 5.แผนงานพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs (Financial Literacy) 6.ผนงานยกระดับผู้ประกอบการ SMEs ให้ได้รับสินเชื่อ 7.แผนงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ ESG 8.แผนการสร้างความสัมพันธ์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียประจำปีระดับฝ่าย (25 ฝ่ายงาน) 9.แผนงานปิด/ลดช่องว่าง (Gaps) ของทรัพยากรและระดับความสามารถขององค์กรในการดำเนินงานด้านการมุ่งเน้นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 10. แผนงานการพัฒนาระบบดิจิทัล สนับสนุนการดำเนินงานด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 11.แผนงานจัดการความรู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และ 12.แผนงานการพัฒนาปรับปรุงกระบวนการด้านการมุ่งเน้นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญ

นายสิทธิกร กล่าวว่า บทบาทหลักของ บสย. จะเข้าไปแก้ Pain Point ให้ SMEs ใน 3 เรื่อง คือ “ขาดหลักทรัพย์ค้ำประกันสินเชื่อ” และ “ขาดคนค้ำประกันสินเชื่อ” โดยออกหนังสือค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อให้ผู้กู้ที่ขาดหลักประกันใช้ยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน อีกบทบาทสำคัญคือ เป็น “ที่ปรึกษาทางการเงิน” เตรียมความพร้อม SMEs ในการขอสินเชื่อ เพิ่มศักยภาพ SMEs ให้มีความรู้ ความเข้าใจในด้านการเงิน และการบริหารหนี้ ซึ่งปัจจุบัน บสย. มีมาตรการช่วย SMEs ลูกหนี้ที่ถูกจ่ายเคลม (จ่ายค่าประกันชดเชย) ลด ปลดหนี้ แก้หนี้ยั่งยืน ผ่านมาตรการ “บสย. พร้อมช่วย” หรือมาตรการ 3 สี จุดเด่นคือ ยืดหนี้ยาวสูงสุด 7 ปี ช่วย SMEs “ผ่อนน้อย เบาแรง” “ตัดเงินต้น ก่อนตัดดอก” ดอกเบี้ย 0% ช่วยให้ลูกหนี้อยู่รอด อยู่ได้ และกลับไปเป็นลูกหนี้ปกติได้ง่ายขึ้น ตลอดจนช่วย “ปลดหนี้” ให้ SMEs ด้วยการ “ลดต้นสูงถึง 30%” พร้อม “ปลดดอก” ต่อลมหายใจให้ SMEs สามารถกลับมาเดินหน้าต่อได้
ตลอดเวลาที่ผ่านมา บสย. เดินหน้ายกระดับ Transforms องค์กรในด้านต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการช่วยเหลือ SMEs ใน 4 มิติหลัก ได้แก่ 1. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของ SMEs ทุกกลุ่ม ตลอดจนพัฒนาช่องทางการให้บริการที่หลากหลาย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 2. การพัฒนาเครื่องมือโมเดลวิเคราะห์ความเสี่ยงในรูปแบบข้อมูลทางเลือก (Alternative Credit Scoring Model) พัฒนาผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อในรูปแบบ RBP (Risk-Based Pricing) คิดค่าธรรมเนียมตามระดับความเสี่ยงของ SMEs โดยนำเครื่องมือ Credit Scoring มาใช้ในการพิจารณาค้ำประกันสินเชื่อ 3. การใช้ประโยชน์จาก Big Data นำฐานข้อมูลการค้ำประกันสินเชื่อตลอดระยะเวลา 33 ปี มาวิเคราะห์ข้อมูลในมิติด้านต่างๆ เพื่อพัฒนาโอกาสในการช่วยเหลือ SMEs ให้มากยิ่งขึ้น ร่วมกับ Stakeholders ที่เกี่ยวข้องทุกกลุ่ม และ 4. ด้านการใช้ Digital Disruption เป็นแรงขับเคลื่อนองค์กร เพื่อพัฒนาระบบงาน และบริการใหม่ๆ ทางการเงินบน Virtual Banking
การประชุม “TCG Stakeholders Day 2025 : ความเห็นของท่านสำคัญกับ บสย. ในปีนี้ ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ต่างชื่นชมการทำหน้าที่ และบทบาทของ บสย. ในทุกมิติทั้งด้านการค้ำประกันสินเชื่อ การปรับโครงสร้างหนี้ การให้ความรู้ทางการเงิน และบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรผ่านโครงการต่างๆ เพื่อพัฒนาและต่อยอด SMEs สู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน.