คมนาคมแจงกลางสภาฯ ถนนสาย กส.4023 กาฬสินธุ์ ติดไฟสว่างโร่แล้ว 3.7 กม. จ่อเพิ่มปี’68 อีก 3.6 กม.
“มนพร เจริญศรี” ลุกชึ้แจงกลางสภาผู้แทนราษฎรฯ ย้ำ! “ถนนสาย กส.4023” จังหวัดกาฬสินธุ์ ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างแล้ว 3.7 กม. เตรียมติดตั้งเพิ่มเติมปี 2568 กว่า 3.6 กม. เพื่อความปลอดภัยในการสัญจรของพี่น้องประชาชน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มอบหมายให้ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงและตอบกระทู้ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ในประเด็นไฟฟ้าส่องสว่างถนนทางหลวงชนบท สาย กส.4023 แยก ทล.2116 – อำเภอฆ้องชัย กมลาไสย, ฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ ระยะทาง 16.2 กิโลเมตร (กม.) โดยปัจจุบันได้ดำเนินการติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างบริเวณชุมชน จุดเสี่ยง จุดอันตราย ระยะทางรวม 3.7 กม. เรียบร้อยแล้ว ในอนาคตได้จัดทำแผนติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างเพิ่มเติมในปีงบประมาณ 2568 เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับความสะดวกปลอดภัยในการเดินทาง
นางมนพร กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน จึงได้มอบให้กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ดำเนินการติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง และอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยในบริเวณชุมชน ทางโค้ง ทางร่วมทางแยก และจุดเสี่ยงอันตราย เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน สำหรับถนนสาย กส.4023 แยก ทล.2116 – อำเภอฆ้องชัย กมลาไสย, ฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ มีปริมาณการจราจร 1,463 คัน/วัน แนวถนนผ่านพื้นที่ 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลฆ้องชัยพัฒนา เหล่ากลาง และธัญญา โดย ทช. ได้ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างไปแล้ว ระยะทางรวม 3.7 กม. และในปีงบประมาณ 2568 มีแผนติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างเพิ่มเติมอีก 3.635 กม. งบประมาณ 5.500 ล้านบาท ช่วงตำบลเหล่ากลาง – บ้านเหล่าใหญ่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอรับการจัดสรรงบประมาณ คาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จในปี 2568
โดย จังหวัดกาฬสินธุ์มีถนนในความรับผิดชอบของ ทช. 72 สายทาง รวมระยะทางประมาณ 1,112 กม. ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างไปแล้ว 7,171 ต้น คิดเป็นระยะทาง 215 กม. ซึ่งในปีงบประมาณ 2567 จะติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างเพิ่มเติม 1,063 ต้น ระยะทาง 32 กม. และในปีงบประมาณ 2568 มีแผนจะติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างอีก 955 ต้น ระยะทาง 29 กม. ซึ่งที่ผ่านมา ทช. ได้ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างบนถนนในความรับผิดชอบทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยจัดลำดับความสำคัญในภาพรวมสายทางแต่ละจังหวัดให้สอดคล้องกับกรอบงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร ซึ่งจะทยอยดำเนินการติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างเพิ่มเติมให้ครบถ้วนต่อไป
นอกจากนี้ ทช. ยังได้ตระหนักถึงปัญหาการโจรกรรมอุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่างเสมอมา จึงได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าว พร้อมทั้งได้ประชาสัมพันธ์บทลงโทษให้ผู้นำชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชนในพื้นที่ทราบ และร่วมสอดส่องดูแลทรัพย์สินของทางราชการ พร้อมช่องทางการแจ้งเหตุผิดปกติ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน.