สรรพสามิต เผยผลการปราบปรามเม.ษ.67 จับสินค้าผิดกฎหมายได้ 2,794 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 87.60 ลบ.
กรมสรรพสามิตเผยผลการปราบปรามประจำเดือนเมษายน 2567 จับสินค้าผิดกฎหมายได้ 2,794 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 48.48 ล้านบาท และประมาณการค่าปรับ 87.60 ล้านบาท จำนวนคดีสุรามากที่สุด ตามด้วยยาสูบ
ดร.นิตยา โสรีกุล รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยผลการปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตทั่วประเทศผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมถึงการดำเนินงานของศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์ว่า เดือนเมษายน 2567 (ระหว่างวันที่ 1 – 30 เมษายน 2567) พบมีการกระทำผิด จำนวน 2,794 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 48.48 ล้านบาท และประมาณการค่าปรับ 87,604,253.43 บาท โดยแยกเป็น
1. สุรา จำนวน 1,516 คดี ค่าปรับ 12.01 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 3.25 ล้านบาท จำนวนของกลาง 11,483.698 ลิตร
2. ยาสูบ จำนวน 961 คดี ค่าปรับ 25.55 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 84.14 ล้านบาทจำนวนของกลาง 214,777 ซอง
3. น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 119 คดี ค่าปรับ 2.13 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 1.43 แสนบาท จำนวนของกลาง 52,911.740 ลิตร
4. สินค้าอื่น ๆ จำนวน 198 คดี ค่าปรับ 8.78 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 5.8 หมื่นบาท
ดร. นิตยา กล่าวว่า ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา กรมสรรพสามิตได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก เพื่อทำการปราบปรามผู้กระทำผิด ซึ่งส่งผลให้สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ในหลายพื้นที่ อาทิ
- เจ้าหน้าที่สรรพสามิต สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ภูเก็ต ได้บูรณาการร่วมกับชุดเฉพาะกิจกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยฝ่ายปกครองจังหวัดภูเก็ต ศุลกากร และตำรวจภูเก็ต ร่วมกันเข้าตรวจค้นพื้นที่ร้านอาหารสัตว์และโกดังภายในเมืองภูเก็ต พบของกลาง ประกอบด้วย บุหรี่ซิกาแรต ขนาดบรรจุ ซองละ 20 มวน จำนวน 87,986 ซอง สุราแช่ชนิดไวน์ จำนวน 117 ขวด น้ำยาเติมบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 500 ขวด บุหรี่ไฟฟ้า (ชนิดสูบได้เลย) จำนวน 7,200 ชิ้น
- เจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่อุบลราชธานีและสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่อุบลราชธานี สาขาพิบูลมังสาหาร ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.) กองทัพเรือ ร่วมกันเข้าตรวจค้นรถขนส่งสินค้าต้องสงสัยที่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี หลังจาก
ได้มีการติดตามขบวนการลักลอบขนบุหรี่มิชอบด้วยกฎหมายมาหลายเดือน ประกอบกับสายข่าวแจ้งว่า
จะมีการขนบุหรี่มิชอบด้วยกฎหมายจำนวนมากจากที่พักสินค้า เพื่อส่งจำหน่ายให้ลูกค้า พบของกลางคือ
บุหรี่ซิกาแรตมิชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 13,830 ซอง - เจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่จันทบุรี ได้บูรณาการร่วมกับสถานีตำรวจภูธรบ้านแปลง ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 และชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 4 กองทัพเรือ ร่วมกันจับกุมบุหรี่ซิกาแรตมิชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 11,990 ซอง
- เจ้าหน้าที่สรรพสามิต จากสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม กรุงเทพมหานคร ได้บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) สกัดจับและตรวจค้นรถยนต์ต้องสงสัยพบบุหรี่ต่างประเทศมิชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งสิ้น 16,700 ซอง
ดร. นิตยา กล่าวเพิ่มว่า ด้วยการยกระดับการทำงานเชิงรุก โดยมีการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก เพื่อปราบปรามและจับกุมขบวนการผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ตามนโยบายของ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต ทำให้สามารถจับกุมผู้กระทำผิดพร้อมของกลางเป็นจำนวนมาก โดยกรมสรรพสามิตได้ให้ความสำคัญในการปราบปรามและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดที่ขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษี
โดยได้มีการยกระดับการปราบปราม สืบค้นในทุกช่องทาง รวมถึงทางออนไลน์ โดยศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์ของกรมสรรพสามิต และการบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานภายนอก พร้อมทั้งมีการขยายผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชนในการบริโภคสินค้าที่ได้มาตรฐาน และยังเป็นการสร้างความชอบธรรมให้เกิดขึ้นต่อผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต ตามยุทธศาสตร์ของกรมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยภาษีสรรพสามิต มุ่งเน้นสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล สร้างมาตรฐานสากล เดินหน้าประเทศไทยสู่ความยั่งยืน
หากพี่น้องประชาชนทราบเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต สามารถแจ้งที่กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสายด่วน 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออีเมล์ excise_hotline@excise.go.th โดยกรมสรรพสามิตจะไม่เปิดเผยข้อมูลผู้แจ้งเบาะแส.