“สุดารัตน์” ชี้ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ยังมีจุดอ่อน ได้ไม่คุ้มเสีย แนะ แจกเป็นเงินสดให้คนจนดีกว่า
“สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ชี้ดิจิทัลวอลเล็ตยังมีจุดอ่อน ได้ไม่คุ้มเสีย ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจแบบพายุหมุนได้ แนะหากยืนยันจะแจก ควรแจกคนยากจน และจ่ายเป็นเงินสด
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึงนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทของรัฐบาลว่า ยังมีจุดอ่อน ได้ไม่คุ้มเสีย และจะไม่มีใครรับผิดชอบต่อความเสียหายของนโยบาย ที่ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจแบบพายุหมุนได้ เพราะเงิน 500,000 ล้านบาท คือเงินกู้ และเป็นภาษีอากรของประชาชน
แม้จะมีการเลี่ยงบาลี โดยกันเงินจากเงินเหลือจ่าย จากงบประมาณปี 2567 ทั้งที่ยังไม่ได้มีการใช้จ่ายจริง จนจะคำนวณได้ว่าเหลือจ่ายเท่าใด และยังเป็นการตั้งงบประมาณเกินดุลเกินกว่ารายได้ ก็ต้องมีการกู้ และยังต้องกู้จากธนาคาร ธกส. จึงถือเป็นภาระของประชาชนชั่วลูกชั่วหลาน
อีกทั้งโครงการดังกล่าว ก็ยังมีเสียงสะท้อนจากประชาชน ที่นโยบายไม่ได้แตกต่างจากนโยบายคนละครึ่ง ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เปลี่ยนจากการทยอยแจก เป็นการให้เงินก้อน และนำไปแลกเป็นสินค้า แต่ประชาชน ต้องการเงินสด เพราะประชาชนที่ขายของตามตลาด หรือขายตามทางเท้า ต้องการกระแสเงินสด ที่สามารถได้เงินเข้าบัญชีได้ทันที เพื่อหมุนไปซื้อสินค้ามาขายต่อ แต่เมื่อใช้เงินดิจิทัลก็ต้องนำไปแลกเป็นของอีกครั้ง จึงกลายเป็นว่า นโยบายคนละครึ่งดีกว่าเงินดิจิทัล
ดังนั้น ถ้ารัฐบาล ยังยืนยันที่จะแจก ควรแจกไปที่คนยากจน และจ่ายเป็นเงินสด เพื่อให้มีสภาพคล่องในการใช้จ่าย และไม่หมุนเพียงรอบเดียว และไปจบที่บริษัทห้างร้านใหญ่ ๆ จึงขอให้รัฐบาลพิจารณาอย่างรอบคอบ.