สามีนักธุรกิจ เปิดใจ เมียนักการเมือง ถูก มหาหนุ่ม ออกอุบายจนมีสัมพันธ์ ฉาวโฉ่
สามีนักธุรกิจ เปิดใจครั้งแรก เชื่อ เมียนักการเมืองหญิง ถูกพระมหา ห. ออกอุบายหลอกประเคนกาย ขณะ เพจอีซ้อขยี้ข่าว ชี้ พระมหาหนุ่ม ลาสิกขาบทแล้ว ปชป. ตั้งกก.สอบ ถ้าผิดจริง ขับพ้นพรรคแน่
จากกรณีร้อน เพจดัง อีซ้อขยี้ข่าว เปิดคลิปสามีช็อก ตามจับชู้ถึงบ้านพักต่างจังหวัด อึ้งพบ ภรรยาซึ่งเป็นอดีตนักการเมือง และเป็นแม่ของนักแสดงรายหนึ่ง ร่วมห้องกับพระหนุ่มที่เพิ่งรับเป็นลูกบุญธรรม ในลักษณะเปลือยกาย
ก่อนจะเปิดอักษรย่อ อดีตนักการเมืองหญิง วัย 45 ปี ป. เคยลงสมัคร ส.ส. สังกัดพรรคหนึ่ง แต่สอบตก และเจ้าอาวาสหนุ่ม ห. วัย 24 ปี ทำเอาโลกออนไลน์ร้อนระอุ ตามหาให้ควั่กว่าเป็นใครกันนั้น
เมื่อวันที่ 11 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ หนุม กรรชัย เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับสามี ของนักการเมืองหญิงรายนี้
โดย สามี ระบุว่า เอาตรงๆว่าผมจะไปโทษภรรยาแบบ 100% มันก็ไม่ได้ จริงๆแล้ว ในวันนั้น ยอมรับว่าโมโห มันเลือดขึ้นหน้า ถ้าไปเห็นภาพแบบนั้นตำตา จะทำอย่างไร แต่เมื่อผ่านมาได้สักระยะหนึ่ง ผมมานั่งทบทวนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตผมกันแน่ จนผมกลับไปมองเหตุผล
“ซึ่งผมมั่นใจว่า แฟนของผมคนนี้ คู่หมั้นผมคนนี้ไปเชื่อเรื่องราวของวงเวียนกรรม เชื่อเรื่องหมอดู เชื่อเรื่องครูบา เชื่อเรื่องของอดีตชาติ เลยทำให้แฟนของผมคนนี้ไปติดกับพระ ซึ่งพระน่าจะใช้กลอุบายต่างๆนาๆ ไปหลอกลวงแฟนของผม จนแฟนของผมหลงเชื่อ และไปมีสัมพันธ์กัน เพราะแฟนผมเชื่อเรื่องราวเหล่านี้แบบขีดสุด”
สามีระบุ เพิ่มเติมว่า แต่ที่เสียใจที่สุดคือ พระรูปนี้ ไม่ควรจะสึกเอง เพราะพระรูปนี้ควรจะปาราชิก โดนจับสึก และเป็นสมี ไม่ควรจะกลับมาบวชได้อีก อยากจะร้องเรียน สำนักพุทธว่าจะไปจัดการเรื่องนี้อย่างไร รวมถึงหมอดู สำนักสงฆ์ต่างๆนาๆ ที่พยายามไปพูดให้เมียผมติดกับ จนกระทั่งไปประเคนกายแบบนี้
ทั้งนี้ในรายการโหนกระแส สามี เปิดใจว่า ตนอยู่กับอดีตภรรยายที่สุโขทัย ตั้งแต่ปี 2565 แต่ช่วงที่เกิดเรื่องนั้น เป็นช่วงต้นปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ ภรรยาต้องการที่พึ่ง เพราะทำอะไรติดขัดไปหมด หมอดูคนหนึ่งที่เขาเคารพ แนะนำให้ไปตามหาพระรูปนี้ เขาก็ไม่ได้ตามพระรูปนี้
แต่ทั้งสองเจอกันในสื่อโซเชียล เลยได้ติดต่อกัน เรื่องจึงเกิดขึ้นมาในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ระหว่างนั้นตนกับแฟน ก็ร่วมกันทำกิจกรรมทางพุทธศาสนา แต่ในช่วงประมาณ เดือนกุมภาพันธ์ พบว่าอดีตภรรยามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ไปแอบคุยกับใครอยู่ ซึ่งตนก็ไม่คิดอะไร คุยจนค่าโทรศัพท์หมดไปกว่า 6 พันบาท
ตนไม่อะใจและสงสัยอะไรเลย เห็นแฟนคุยกับพระรูปนี้ตลอด ไม่ติดใจเพราะคิดว่าเป็นพระที่เราเคารพ หลังจากที่ตามหาพระรูปนี้เจอ ก็ให้พระรูปนี้มาสวดมนต์ ภาวนาที่บ้าน ที่ห้องพระ มาสวดที่ศาลหลังบ้าน หลายครั้งที่ตนอยู่ในเหตุการณ์แต่ไม่ได้เอะใจ
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า นายเฉชิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ได้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบ กรณีปมนักการเมืองหญิงคนดังกล่าว ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคปชป.เสพเมถุนพระมหาหนุ่ม ให้แล้วเสร็จภายในเวลา3วัน หากพบว่ามีความผิดจริง จ่อขับพ้นสมาชิกพรรค เหตุทำผิดศีลธรรม โดยล่าสุดยังติดต่อเจ้าตัวไม่ได้ ขณะเดียวกันเตรียมเรียกสามีนักธุรกิจถามข้อเท็จจริง
นายราเมศ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นสมาชิกพรรค ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. 2566 จนถึงปัจจุบัน และหลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง สส. ครั้งที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ร่วมทำกิจกรรมทางการเมืองใดๆ กับพรรคฯ และไม่ได้มีตำแหน่งใดๆ ในพรรค ทั้งนี้เราได้พยายามติดต่อสมาชิกพรรครายนี้ 3 ครั้ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และมีความจำเป็นติดต่อกับสามีของหญิงคนดังกล่าวเพื่อสอบถามความจริงด้วย ซึ่งเท่าที่ทราบสามีเป็นนักธุรกิจ เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากพบว่ามีการฝ่าฝืนจริยธรรม และศีลธรรม คณะกรรมการบริหารพรรคก็มีอำนาจในการขับออกจากสมาชิกพรรค
“นี่คือความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นสถาบันทางการเมือง เมื่อมีสมาชิกพรรคกระทำการไม่ถูกต้อง พรรคก็ต้องคัดกรองบุคคล ซึ่งในข้อบังคับพรรคได้ระบุความชัดเจนไว้ว่า สมาชิกพรรคจะต้องปฏิบัติตนอยู่ในกรอบจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม และวางตนเป็นที่เชื่อถือ ศรัทธาของประชาชน ข้อบังคับพรรคยังให้ความสำคัญในเรื่องการเป็นแบบอย่างที่ดีในการเสริมสร้างสถาบันครอบครัว เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับสมาชิก พรรคจึงต้องดำเนินการตามกระบวนการอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าพรรคให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวอย่างแท้จริง” นายราเมศ กล่าว.