“แพทองธาร” โทร.หา”ยิ่งลักษณ์” ทันทีหลังศาลฎีกาฯยกฟ้องในคดีจัดจ้างโครงการโรดโชว์ ชี้ ทำให้ประเทศไทยเสียโอกาส เผย”อาปู” อยากลับบ้านมาช่วยเลี้ยงหลาน แต่ยังไม่มีคุยแผนกลับไทย ขณะ”เทพไท” ชี้กฎหมายไทยยืดหยุ่นได้ตามผู้มีอำนาจ เชื่อ “ยิ่งลักษณ์” ไม่ถูกขังแม้แต่วันเดียว

วันที่ 5 มี.ค.2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยกฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีจัดโรดโชว์ “สร้างอนาคตประเทศไทย ไทยแลนด์ 2020” ว่า หลังจากที่ศาลยกฟ้องแล้ว ตนก็โทรฯไปคุยกับอดีตนายกฯปูทันที ท่านก็ดีใจ ที่ผ่านมารู้สึกสงสารอาปูุ ก็เสียเวลาไปพอสมควร ประเทศเองก็เสียเวลาด้วย ไม่เช่นนั้นก็คงจะได้มีอะไรที่ดีเกิดขึ้นมากมายในช่วงนั้น

ต่อข้อถามว่า ที่มีข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีแพลนจะกลับบ้าน นส.แพทองธาร ยืนยันว่ายังไม่มี และยังไม่ได้คุยเรื่องวันที่จะกลับไทยด้วย แต่แน่นอนในความหวังมีการพูดกันอยู่แล้ว บอกเลยว่าพูดทุกปี เพราะบ้านเราก็ต้องมีความหวัง ตั้งแต่สมัยคุณพ่อแล้ว ถามว่า 17 ปีที่คุณพ่ออยู่เมืองนอกเราก็พูดทุกปีว่าคุุณพ่อจะกลับมาประเทศไทย ก็เช่นเดียวกับอาปู เพราะฉะนั้นเราก็ให้ความหวังซึ่งกันและกัน

ส่วนที่มีนักวิชาการวิเคราะห์กันว่าถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับมา ก็อาจจะใช้โมเดลเดียวกับพี่ชาย คือ นายทักษิณ ชินวัตร โดยการเข้าสูขบวนการยุติธรรม การพักโทษ การขออภัยโทษ นั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้คุยในรายละเอียดและคงเหมือนกันไม่ได้ เพราะคนละคนกัน และตอนนี้ก็ยังไม่มีการคุยกับทนายความ ว่าถ้ากลับมาจะกลับด้วยวิธีการแบบไหน เพราะยังไม่แน่ใจว่าเคลียร์หมดทุกคดีหรือยัง “จริงๆก็หวังว่าท่านจะได้กลับบ้านสบายๆ เพราะยังไงก็ไม่สบายเท่าบ้านเราอยู่แล้ว”

ต่อข้อถามว่า เมื่อวานที่โทรฯไปคุยกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ท่านได้พูดอะไรบ้าง หลังจากที่ทราบผลว่าศาลยกฟ้องแล้ว น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ก็พูดกันแบบคนครอบครัว เช่น ท่านก็พูดว่าถ้าได้กลับจริงๆ ก็จะช่วยเลี้ยงหลาน และตนก็บอกว่า ได้เลย กังวลที่ว่าของเล่นที่คุณยายปูซื้อให้จะเยอะเท่านั้นเอง เพราะเวลาเราไปหาท่าน คุณยายปูก็จะเป็นคนซื้อของเล่นให้หลานเยอะมาก เวลากลับมาหลานๆก็จะแฮปปี้ทุกคน ก็แซวกันเรื่องนี้ ไม่มีเรื่องอะไรจริงจัง

ถามอีกว่า อดีตนายกฯปู ได้แพลนอะไรไว้หรือไม่ ว่าอยากจะกลับประเทศไทยเมื่อไหร่ อย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อาปูเป็นคนที่ดูรายละเอียดอยู่แล้วว่าจะอย่างไร แต่ไม่ได้พูุดเรื่องนี้เลย ไม่ได้พูดเลยว่าจะกลับอะไร ไม่มีเลย ซึ่งคุณพ่อและทุกคนก็แสดงความยินดี ในเรื่องของคดีเท่านั้น แต่ไม่ได้มีวางแพลนใดๆทั้งสิ้น

ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “กฎหมายไทย ยืดหยุ่นได้ ตามผู้มีอำนาจ” วันนี้ (6 มี.ค.)ระบุว่า…มีหลายคนกังวลว่า ถ้าคุณยิ่งลักษณ์กลับไทยกลัวจะเอาแบบอย่างคุณทักษิณไม่ได้ เพราะเงื่อนไขของโทษ และ องค์ประกอบของความเป็นนักโทษแตกต่างกัน เช่น โทษคุณยิ่งลักษณ์สูงกว่าคุณทักษิณคือจำคุก 5 ปี และ อายุของคุณยิ่งลักษณ์ ก็ยังไม่ถึง 60 ปี ไม่เข้าเกณฑ์ผู้สูงอายุ และสุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บไข้ได้ป่วยขั้นวิกฤติเหมือนคุณทักษิณ

ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่ต้องกังวล และน่าเป็นห่วง เพราะหลังจากคุณยิ่งลักษณ์เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะขอพระราชทานอภัยโทษแน่นอน หลังจากนั้น จะมีการบริหารโทษโดยกรมราชทัณฑ์ ซึ่ง กระบวนการยุติธรรมไทย สามารถทำได้และเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ สามารถออกกฎระเบียบรองรับเงื่อนไขที่เกิดขึ้นได้ทุกเงื่อนไข เพราะกระบวนการยุติธรรมไทยยืดหยุ่นได้เสมอ ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจแต่ละยุคแต่ละสมัย ต้องการนำกฎหมายไปเอื้อประโยชน์ให้ตัวเองและพวกพ้องอย่างไร

อย่าไปคิดถึงความยุติธรรมอีกเลย เพราะกระบวนการยุติธรรมไทยล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ตอนที่คุณทักษิณเดินทางกลับสู่ประเทศไทย จนทำให้คนส่วนใหญ่ หันไปเชื่อคำพูดของโจรอย่าง น.ช.เชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด ที่ออกมาเปิดโปงขบวนการยุติธรรมไทย ว่าไม่มีความเป็นธรรม ตั้งแต่ขั้นตำรวจ อัยการ ศาล และ ราชทัณฑ์

ส่วนตัวเชื่อว่าเมื่อคุณยิ่งลักษณ์กลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว จากโทษจำคุก5ปี ก็จะมีการขอพระราชทานโทษเหมือนคุณทักษิณ จะได้รับการลดโทษหรือไม่เป็นพระราชอำนาจ แต่เมื่อได้รับโทษแล้ว กรมราชทัณฑ์ ก็จะบริหารโทษ จะมีระเบียบรองรับ เหมือนครั้งหนึ่งเคยช่วยนักโทษวีไอพี โดยการออกระเบียบต้องจำคุกเพียง 1 ใน 3 ของโทษ เมื่อได้รับการพักโทษแล้ว จึงประกาศยกเลิกคำสั่งนี้ไป

กรณีของคุณทักษิณก็เช่นเดียวกัน ใช้ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ปี 2560 ใช้หลักเกณฑ์ในการพักโทษพิเศษ ซึ่งไม่เคยใช้เงื่อนไขนี้มาก่อนเลย แต่ก็สามารถทำได้ เพราะฉะนั้นถ้าคุณยิ่งลักษณ์กลับมาประเทศไทย รับประกันได้ว่า จะมีระเบียบออกมารองรับคุณยิ่งลักษณ์ จนไม่ต้องถูกคุมขังแม้แต่วันเดียว และจะอยู่สุขสบาย มีสิทธิ์พิเศษเหนือนักโทษทั่วไปอย่างแน่นอน.