รทสช. จ่อยื่นญัตติด่วน จี้ สภาฯ ป้องพฤติกรรม ป่วนขบวนเสด็จ อัด “พิธา” หยุดย่ำยีหัวใจคนไทย
“รวมไทยสร้างชาติ ” เตรียมยื่นญัตติด่วนต่อสภาฯ เร่งหาทางป้องกันปราบปรามพฤติกรรม ป่วนขบวนเสด็จ อัด “พิธา” หยุดใช้วาทกรรมคนรุ่นใหม่ ชี้ “ตะวัน” ทำผิดกฎหมาย ย่ำยีหัวใจคนไทย
วันที่ 11 ก.พ. 2567 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์ข้อความผ่าน ระบุว่า “เรื่องพฤติกรรมไปรบกวนขบวนเสด็จฯ ค่อนข้างชัดเจนว่า ฝ่ายต่างๆ ก็ออกมาประณาม แม้กระทั่งกลุ่มที่ไปยุยงกันเองแต่ต้น ก็แห่กันตัดหางประณามพฤติกรรมดังกล่าว เพราะค่านิยมการให้ร้าย ข่มขู่ ท้าทาย ไม่ให้เกียรติพระบรมวงศานุวงศ์นั้น เป็นการกระทำที่ด้อยค่าสังคม ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสื่อมถอย ประเด็นของผมคือ เจ้าหน้าที่ที่ดูแลความปลอดภัย ถวายการอารักขา ฝ่ายข่าว ส่วนล่วงหน้า ส่วนติดตาม ควรจะทบทวนแผนและแนวทางการปฏิบัติ (Protocol) ให้รัดกุม และเร่งรัดการนำผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว หากไม่แสดงท่าทีให้ชัดเจน จะเกิดแรงปะทะในหมู่ประชาชน ขยายรอยร้าว สร้างความแตกแยกโดยใช่เหตุ
ดังนั้น วันอังคารนี้ผมจะนำประเด็นเข้าที่ประชุมพรรคขอมติ ให้ยื่นญัตติด่วนต่อสภาฯ และให้ สส.รทสช. เสนอเรื่องต่อกรรมาธิการฯ ทุกคณะที่เกี่ยวข้อง ทบทวนมาตรการอารักขาถวายความปลอดภัยฯ รวมถึงแนวทางการป้องกันปราบปรามพฤติกรรม ข่มขู่ ท้าทาย ให้ร้าย ในลักษณะเดียวกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”
ด้านนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการที่ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน ก่อเหตุก่อกวนขบวนเสด็จ ว่า ตนได้ฟังแล้วรู้สึกไม่สบายใจที่ นายพิธา พยายามใช้วาทกรรมคนรุ่นใหม่มาแบ่งแยกคนในสังคม เพราะกรณีนี้ เป็นเรื่องของคนที่ทำผิดกฎหมาย และเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นสิ่งที่ นายพิธา ควรจะออกมาแสดงความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นอดีตนายประกันให้กับ น.ส.ทานตะวัน และเคยอภิปรายสนับสนุน น.ส.ทานตะวันในสภา ควรจะออกมาแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้ กับการกระทำดังกล่าวที่เป็นการกระทำที่ย่ำยีหัวใจคนไทยเป็นจำนวนมาก
“ผมจึงอยากบอกกับนายพิธาว่า ขอให้เลิกใช้วาทกรรมคนรุ่นใหม่กับคนทุกรุ่นได้แล้ว เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ หรือคนรุ่นไหน แต่มันเป็นเรื่องของคนที่ทำผิดกฎหมายและเป็นเรื่องของคนที่ไม่รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ อย่าใช้วาทกรรมมาปลุกระดมคนรุ่นใหม่ เพราะคนรุ่นใหม่อีกจำนวนมากก็ไม่ได้เห็นด้วย และรังเกียจกับการกระทำของ น.ส.ทานตะวัน กับพวกในครั้งนี้”
ส่วนกรณีที่มีแกนนำ และ สส.ของพรรคก้าวไกล ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมดังกล่าว แทนที่นายพิธาจะออกมาประณามการกระทำดังกล่าว กลับออกมาพูดคล้ายแบ่งแยกคนในสังคม ที่จะสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นอีกหรือไม่ จึงขอให้นายพิธาได้กลับไปทบทวนสิ่งที่ตัวเองได้กระทำทั้งการเคยไปประกันตัว นางสาวทานตะวัน และ การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ออกมา ว่ามันเป็นการย่ำยีหัวใจคนไทยที่รักและเทิดทูนสถาบันเป็นจำนวนมากหรือไม่.