“หัวหน้าเท้ง” สวนฉายา “เท้งเต้ง” ของนักข่าวสภาฯ ประกาศต้นปีหน้า พร้อมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลสุดเข้มข้น พ่วงเสนอ 6 ชุดกฎหมายเปลี่ยนประเทศ ทั้งด้านการศึกษา สิ่งแวดล้อม ปลดล็อกที่ดิน การปฏิรูปกองทัพ หรือแม้แต่เรื่องเศรษฐกิจ และปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ชี้! เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ ระบุ! ขอไม่เทียบกับ “พิธา”  หรืออดีตแกนนำคนไหน ยอมรับกระแสนิยมมีขึ้นมีลง

ภายหลัง ผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา ประกาศตั้งฉายาของทั้ง สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา โดยเฉพาะฉายาของ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กับฉายา “เท้งเต้ง” ด้วยเหตุผลที่เจ้าตัวไม่ได้โชว์ผลงานได้อย่างโดดเด่นเทียบกับเท่ากับลูกพรรคหลายคน “ดูเคว้งเท้งเต้ง” แม้กระทั่ง การทำงานในฐานะ “พรรคร่วมฝ่ายค้าน” ก็ยังดูเสมือนไม่มีแนวร่วม จนถูกมองเป็นฝ่ายค้านโดดเดี่ยว แต่ไม่โดดเด่น เน้นรุกเสนอกฎหมายมากกว่าตรวจสอบฝ่ายบริหาร จนถูกปรามาสในทำนอง “สภาฯ ไร้ฝ่ายค้าน”

กับบทบาทของ “หัวหน้าพรรคฯ มือใหม่” เอง ก็เป็นไปในแบบที่ขาดเสน่ห์ ไร้บารมีผู้นำ เทียบชั้นไม่ได้กับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เพราะแม้แต่ป้ายหาเสียง นายก อบจ. ในหลายๆ จังหวัด ก็มีแต่ภาพของนายพิธา ในฐานะ “ผู้ช่วยหาเสียง” มากกว่าภาพของ “หัวหน้าฯเท้ง” จึงไม่แปลก หากเจ้าตัวจะได้รับฉายาว่าเป็น “เท้งเต้ง” ลอยไปลอยมา ในปีนี้…

ล่าสุด นายณัฐพงษ์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ในช่วงต้นปี 2568 ที่จะถึงนี้ ฝ่ายค้านพรรคประชาชนพร้อมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับทุจริตคอร์รัปชั่น หรือเห็นว่ามีการทุจริตเชิงนโยบาย พรรคฯพร้อมที่จะเป็นตัวกลาง เป็นปากเป็นเสียงให้กับพี่น้องประชาชน สามารถส่งข้อมูลมาให้กับพรรคฯ หรือ สส.ในพื้นที่ก็ได้ พรรคฯพร้อมจะทำงานการเมืองอย่างตรงไปตรงมา อาสารับใช้พี่น้องประชาชน ทั้งนี้ บริบทการตรวจสอบ หรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่เบาแน่นอน สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในอดีต คือ ฝ่ายค้านทำงานสร้างสรรค์เชิงรุก พรรคฯมีข้อเสนอกฎหมายมากที่สุดในรัฐสภา ร่างกฎหมายอื่นที่มีประโยชน์ต่อประชาชน เราก็พร้อมที่จะโหวตให้

ทั้งนี้ นอกจากจะอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว พรรคประชาชนยังมีทิศทางชัดเจนในการเสนอปณิธานพรรคฯในปี 2568 โดยจะเสนอชุดกฎหมายเปลี่ยนประเทศมากกว่า 6 ชุด ทั้งการศึกษา สิ่งแวดล้อม ปลดล็อกที่ดิน การปฏิรูปกองทัพ หรือแม้แต่เรื่องเศรษฐกิจ และปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ

สำหรับความเป็นห่วงเรื่องกระแสนิยม ที่มีการเปรียบเทียบกับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่มีความเป็นห่วงแต่อย่างใด กระแสความนิยมมีขึ้นมีลงเป็นธรรมดา ตนเองตอบชี้แจงหลายเวทีแล้วว่า ไม่อยากเปรียบเทียบกับอดีตแกนนำคนไหน เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า สนามเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะถึงในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 จะเป็นอีกหนึ่งสนามที่พรรคประชาชนได้พิสูจน์ให้เห็น ขอโอกาสพี่น้องกับประชาชนให้เราเข้าไปบริหาร อบจ.เพื่อแสดงผลงานให้เป็นที่ประจักษ์.