ธุรกิจประกันภัยกลับมาแล้ว! – คปภ.หวังใช้แผน 3 ปี ดันเบี้ยฯทะลุ 1 ลล. – ชี้ ‘ดาวรุ่ง’ ผลิตภัณฑ์ประกันภัยปีนี้
เลขาธิการ คปภ. ผุดแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี (2567-2569) เน้นขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยี หนุนอุตสาหกรรมประกันภัยเติบโตมั่นคงและยั่งยืน มั่นใจธุรกิจประกันภัยกลับมาแล้ว! หวังดันยอดเบี้ยประกันภัยรวมแตะ 1 ล้านล้านบาท ณ สิ้นปี 2569 คาดปี 2566 โตกว่า 4% หรือราว 9 แสนล้านบาท ชี้! ผลิตภัณฑ์ประกันภัยดาวรุ่งปีนี้ คือ ประกันรถอีวี และประกันสุขภาพ
นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) แถลงแนวนโยบายและทิศทางการดำเนินงานของสำนักงาน คปภ. ประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 ณ ห้องประชุมอาคารสถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง ชั้น 2 สำนักงาน คปภ. โดยย้ำตอนหนึ่งว่า จากภาพรวมเศรษฐกิจและปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่ดีขึ้น ถือได้ว่า “ธุรกิจประกันภัยกลับมาแล้ว” ทั้งนี้ จากตัวเลขเบี้ยประกันภัยรวม ทั้งในกลุ่มประกันชีวิตและประกันวินาศภัย ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2566 ที่ออกมาพบว่า มีจำนวน 891,621-927,377 แสนล้านบาท หรือเติบโตที่ระดับ 3.99% และ 5.16% ตามลำดับ ทำให้มีค่าเฉลี่ยการเติบโตอยู่ที่กว่า 4% หรือคิดเป็น 2 เท่าของจีดีพี ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. อยากเห็นตัวเลขเบี้ยรับประกันรวมแตะที่ระดับ 1 ล้านล้านบาท ณ สิ้นปี 2569 พร้อมกันนี้ ยังต้องการเห็นอุตสาหกรรมประกันภัยของไทย “มั่นคง มั่งคั่ง สำนักงาน คปภ. มุ่งเน้นสิทธิประโยชน์ของประชาชน”
สำหรับ เป้าหมายในปี 2567 ซึ่งเป็นปีแรกตามแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี (2567 – 2569) ของสำนักงาน คปภ.นั้น ต้องการจะพัฒนาองค์กรตามแผนงานที่วางไว้ 5 ด้าน ประกอบด้วย 1. Urgent mission หรือการยกเครื่องกำกับดูแลความเสี่ยงและการตรวจสอบบริษัทประกันภัย โดยมุ่งสร้างความแข็งแกร่ง มั่นคงและความน่าเชื่อถือ เพื่อตอกย้ำความมั่นใจและสร้างศรัทธาต่อประชาชน 2. Strengthen the industry หรือการสร้างความแข็งแกร่ง มั่นคง และความน่าเชื่อถือให้กับระบบประกันภัย เพื่อตอกย้ำความมั่นใจและสร้างศรัทธาต่อประชาชน
3. Drive the growth : Insurance into everyone หรือผลักดันให้การประกันภัยเป็นกลไกขับเคลื่อนชีวิต เศรษฐกิจ และสังคม ของคนในชาติ “ประชาชนทำประกันภัย ด้วยความเชื่อมั่น บริษัทเติบโตอย่างมั่นคง ประเทศมีความมั่งคั่ง” 4.Thailand to Global : Hub of Insurance หรือ การยกระดับประกันภัยไทยให้ก้าวล้ำ นำสมัย ในระดับสากล และ 5. OIC Human quality, Organization of compettency หรือการสร้างคนให้มีความสามารถอย่างโดดเด่น มีคุณภาพและมีเป้าหมายเดียวกัน คือ การขับเคลื่อนให้ OIC เป็นองค์กรแห่งความภาคภูมิใจของคนไทย
“สำนักงาน คปภ.อยากให้ประเทศไทยก้าวขึ้นไปสู่ความเป็นศูนย์กลางประกันภัยของภูมิภาคอาเซียน โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างศูนย์ฝึกอบรมธุรกิจประกันภัยแบบครบวงจร เพื่อพัฒนาบุคลากร และใช้เป็นสถานที่ศึกษาเรียนรู้ของบุคลากรทางด้านประกันภัย และไม่เฉพาะกับคนไทย หากยังรวมถึงบุคลากรด้านประกันภัยจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย” เลขาธิการ คปภ.ย้ำและว่า หากให้มีการจัดลำดับ TOP 5 เรียงความสำคัญของแผนงานในเชิงนโนบายแล้ว ตนให้ความสำคัญกับแผนงานที่ 5 คือ การพัฒนาบุคลกร (OIC Human quality, Organization of compettency) มากที่สุด เพราะสิ่งนี้จะส่งผลต่อแผนงานอื่นๆ ในเชิงสร้างสรรค์ต่อไป
ส่วน ธุรกิจประกันภัยที่จะเป็น “ดาวรุ่ง” ในปี 2567 นั้น นายชูฉัตร กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่ากรมธรรม์ประกันรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) น่าจะเป็น “ดาวรุ่ง” ของธุรกิจประกันวินาศภัย ส่วน “ดาวรุ่ง” ในฝั่งของธุรกิจประกันชีวิต คือ กรมธรรม์ประกันสุขภาพ ทั้งนี้ เชื่อว่า ภาพรวมเบี้ยประกันภัยในปี 2567 ก็น่าจะอยู่ในระดับ 9 แสนล้านบาทเศษ.