KBank เดินหน้าโครงการ WATT’S UP แพลตฟอร์มเช่า EV Bike ครบวงจรในแอปเดียว
แบงก์กสิกรไทย ร่วมกับไปรษณีย์ไทย และเอช เซม มอเตอร์(HSEM) นำร่องโครงการ WATT’S UPแพลตฟอร์มให้เช่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าหรือ EV Bike แบบครบวงจรสามารถจอง และจ่ายเงินได้ภายในแอปเดียว เริ่มใช้กับพนักงานไปรษณีย์ไทย 3 สาขาเพื่อหนุนการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดมลภาวะจากฝุ่น PM2.5
ดร.กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยเดินหน้าสร้าง Green Ecosystem ผ่านโครงการ GO GREEN Together ซึ่งมีการสนับสนุนการใช้ EV Bike อย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ธนาคารมีโครงการให้เช่า EV Bike หลากหลายแบรนด์ใน K PLUS Market ซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มไรเดอร์กว่า 6,000 ราย เป็นการสะท้อนความต้องการใช้ EV Bike ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จึงต่อยอดพัฒนาโครงการ WATT’S UP ซึ่งเป็น e-Marketplace แพลตฟอร์มให้เช่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร จอง-จ่าย-จบครบในแอปพลิเคชันเดียว โดยมีรุ่นรถให้เช่าหลากหลายชำระเงินสะดวกหลากหลายช่องทางรวมถึง K PLUS และนำแบตเตอรี่มาสลับ ณ ตู้สลับแบตเตอรี่ที่รองรับแอปพลิเคชัน WATT’S UP ได้ตลอดระยะเวลาการเช่า ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในแหล่งชุมชนทั่วกรุงเทพฯ จำนวน 10 ตู้ และอยู่ระหว่างขยายพื้นที่ให้ครอบคลุมมากขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานหลังจากเปิดให้ประชาชนทั่วไป
สำหรับความร่วมมือแรกของโครงการ WATT’S UP กับพันธมิตรแถวหน้าระดับประเทศอย่างไปรษณีย์ไทย และ HSEM บริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่อันดับต้นๆ ของไทย เพื่อร่วมกันผลักดันให้การเข้าถึงการใช้ EV Bike เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นและนำไปสู่การใช้อย่างแพร่หลาย เนื่องจากการใช้ EV Bike 1 คันต่อสัปดาห์เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 1.5 ต้น และการใช้ EV Bike 1 ล้านคันเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 80 ล้านต้นต่อปี สามารถลด PM2.5 ได้มากกว่า 760 ตัน และลดก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 748,000 ตัน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนให้ประเทศไทยเดินหน้าสู่ Net Zero ได้ตามเป้าหมาย และธุรกิจสามารถลดค่าใช้จ่ายค่าน้ำมันลงได้ถึง 25%
นายนเรศ ไชยวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานระบบไปรษณีย์และปฏิบัติการนครหลวง บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ของไทยมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง ไปรษณีย์ไทยในฐานะผู้ให้บริการขนส่งและโลจิสติกส์ของประเทศ มีการนำจ่ายถึงครัวเรือนโดยใช้ยานยนต์สันดาปไปรษณีย์ไทยจึงมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนผ่านระบบงานของไปรษณีย์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทางเลือกให้มากขึ้น เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทยความร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยและ HSEM ในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการเปลี่ยนผ่านโดยมีแนวทางการนำรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเข้ามาใช้ในระบบ ซึ่งไม่เพียงจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของไปรษณีย์ไทยแล้ว ยังเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมตามแนวทาง ESG อีกด้วย
ด้านนายวันชัย ลี้นะวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอช เซม มอเตอร์ จำกัด หรือ HSEM ผู้ผลิตถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยหลักการทำงานภายใต้แนวคิด ESG เอช เซม มีความแน่วแน่และตั้งใจเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมสีเขียว โดยร่วมเป็นผู้ช่วยในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คืนอากาศบริสุทธิ์ให้สังคมและสิ่งแวดล้อมและมีความมั่นใจว่าความร่วมมือกันในครั้งนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนที่จะกระตุ้นให้การใช้ EV Bike เพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน
สำหรับความร่วมมือภายใต้โครงการ WATT’S UP แพลตฟอร์มเช่า EV Bike จอง-จ่าย-จบครบในแอปเดียว จะนำร่องใช้งานที่ไปรษณีย์ไทย 3 สาขา ได้แก่ สาขาจตุจักร สาขาสามเสนใน และสาขานนทบุรี โดยพนักงานไปรษณีย์ที่เป็นเจ้าหน้าที่ขนส่งขับขี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า HSEM และนำมาสลับแบตเตอรี่ได้ตลอดการใช้งาน โดยไม่ต้องชาร์จไฟเอง ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้การขับขี่มีความสะดวกและคล่องตัวยิ่งขึ้น สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด ลดมลภาวะ และลดค่าใช้จ่ายจากการใช้พลังงานเชื้อเพลิง ทั้งนี้ จะนำความเห็นจากกลุ่มผู้ใช้งานมาพัฒนาโครงการให้รองรับการเปิดให้บริการแก่ประชาชนทั่วไปภายในต้นปี 2567.