มุมนี้…STRATEGY-X (ep.2) ตอน : เชื่อใจไทย…อย่าเชื่อสายจีน
>>OO>> การเมืองไทย อยู่บนความสนใจของนานาชาติ…ทั้งใกล้ไกล! เพื่อนบ้านอาเซียน…โดยเฉพาะ เมียนมาและลาว เฝ้าเกาะติดการเลือกตั้งครั้งใหญ่ในไทย ก่อนย้อนมองตัวเอง! กับ ความรู้สึกยินดี แกมอิจฉา…คนไทยได้สิทธิ์เลือกอนาคต ผ่านการเลือก ส.ส. แล้วให้ ส.ส.ไปเลือกนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาล เพื่อมาบริหารประเทศ ตามแนวทางที่ได้หาเสียง…สร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่ชาติบ้านเมือง ทำให้คนในประเทศอยู่ดีกินดี มีอนาคตที่ดี ต่างจากบ้านเมืองเขา ฉะนั้น เราคนไทย…จงภูมิใจกับสิทธิ์ขั้นพื้นฐานนี้ ร่วมรักษา ปกป้อง และต่อต้าน “อำนาจพิเศษ” ที่อาจถูกก่อกระแสขึ้นมาเพื่อฉุดประเทศไทยเข้า “หลุมดำ” ทางการเมืองรอบใหม่…หลากหลาย สื่อตะวันตก พูดเป็นเสียงเดียวกัน! ฝ่ายประชาธิปไตยหัวก้าวหน้า…ได้รับชัยชนะเหนือ กลุ่มอนุรักษ์นิยม ที่ได้รับการสนับสนุนจาก “กองทัพ” และแม้ “เพื่อไทย” ที่เคยได้รับฉันทามติมากสุด! จากคนไทยในทุกครั้งของการเลือกตั้ง จะพลาดท่า…พ่ายแพ้ให้กับ “ก้าวไกล” แต่ 2 พรรค…ล้วนเป็นฝ่ายประชาธิปไตยเหมือนกัน กระนั้น จำนวนเสียงที่รวบรวมจาก อดีตพรรคฝ่ายค้านและพันธมิตรพรรคเกิดใหม่ ราว 310 เสียง อาจไม่เพียงพอต่อหลักประกันในการจัดตั้ง “รัฐบาลชุดใหม่” และยังไม่แน่ว่า “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” จะนั่งแท่น “นายกฯคนที่ 30” ได้หรือไม่? เหตุเพราะยังมี “เศษซากเผด็จการ” 250 ส.ว. นักวิชาการบางคน และสื่อบางค่าย คอยสกัดขัดขวาง…เจตนารมณ์ของคนไทยส่วนใหญ่ จึงไม่น่าแปลกใจหากได้เห็น…กลุ่มแพ้เลือกตั้ง จะรวบรวมเสียงอีกฝั่งมาสู้ และหวัง “มือ” จาก 250 ส.ว. มายกหนุน
>>OO>> ฟังเสียงจาก “แกนนำเพื่อไทย” ไล่ตั้งแต่…อุ๊งอิ๊ง – แพทองธาร ชินวัตร, เศรษฐา ทวีสิน “2 แคนดิเดทนายกฯ” จนถึง หมอชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคฯ บอกตรงกัน…หนุน “ก้าวไกล” เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่คิดแข่งจัดตั้งฯ เหมือนที่ นักวิชาการและสื่อกลุ่มนั้น พยายาม “เต้าเรื่อง” ปูทาง…สร้างความชอบธรรมให้กับ “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” หันดู “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” บนเวทีแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ประกาศความพร้อมทำหน้าที่ “นายกฯคนใหม่”…แต่จะไปถึงจุดนั้นไม่ได้ หากไม่เร่งรีบดำเนินการ 3 ภารกิจ ตามฉันทามติของคนไทย หนึ่ง…เจรจาจัดตั้งรัฐบาล, ยอมรับต่อสายตรงถึง “อุ๊งอิ๊ง” รวมถึง “แกนหลัก” อดีตพรรคฝ่ายค้านฯ ก่อนจะสร้าง “นิมิตรหมายใหม่” ในทางการเมือง นั่นคือ นำทุกพรรคมาลงนามเซ็น MOU สร้างแนวทางและหลักประกันในการบริหารประเทศร่วมกัน สอง…ตั้งทีมงาน (คณะทำงานร่วมทุกพรรค) เพื่อเปลี่ยนผ่านรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิพล และ สาม…เดินสายพบประชาชน ภาคประชาสังคม ข้าราชการ และภาคธุรกิจ ทำความเข้าใจในนโยบายของพรรคฯ หวังว่า…3 ภารกิจนี้ จะราบรื่น!
>>OO>> หลายฝ่ายเริ่ม “ส่อง” ประวัติว่าที่นายกฯคนใหม่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” และส่วนใหญ่พอใจกับโปรไฟล์ที่มี นอกจากอาจได้เป็น “นายกฯอายุน้อยสุด – ในวัย 42 ปี” ระดับการศึกษาและการใช้ภาษาอังกฤษ ยังอยู่ในระดับ…ไม่อาย “ผู้นำชาติใด” วัยเด็ก…เรียนจบ ม.ปลาย จากนิวซีแลนด์ ก่อนบินกลับมาเรียนต่อ ป.ตรี BBA ภาคภาษาอังกฤษ ม.ธรรมศาสตร์ จบเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง จากนั้น…ต่อ ป.โท เมืองนอก อีก 2 ใบ… การเมืองการปกครอง สาขาการบริหารภาครัฐ John F. Kennedy School of Government ฮาร์วาร์ด และ การบริหารธุรกิจ Sloan สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ขณะที่ คุณพ่อ (พงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์) เคยเป็นที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ และเป็น หลานลุงของ “ผดุง ลิ้มเจริญรัตน์” อดีตเลขาฯ มท.1 ในยุคนึง ถือได้ว่า…“พิธา” อยู่ในครอบครัวนักการเมือง คนหนึ่ง! ด้าน “สายมู” เอง…ยังแอบนำเอาดวงของ “พิธา” มา “ส่อง” ทั้งดูวันเดือนปีเกิด “5 ก.ย.2523” เทียบเวลาตกฟาก บ้างหยิบเอา ไพ่ยิบซี มาทำนาย หลายเสียง…บอกทำนอง “ไม่ง่าย” มีโอกาสเจออุปสรรคจากฝ่ายต่อต้าน ที่งัดเอาทุกปมมาขวางเส้นทางการเมือง! บางราย…โดยเฉพาะ หมอดูไพ่ยิบซี “มงคล รอดเที่ยงธรรม” ผ่าดวง “นายกฯ” ของ “พิธา” เทียบไม่ได้กับของ “อุ๊งอิ๊ง” ที่ดีเกินคาด ได้รับแรงหนุนจากทุกฝ่าย ทุกสี จนแฟนคลับ “ด้อมส้ม” ออกอาการค้อนแล้วค้อนอีก ทำนอง…จะวางสนุ้ก “พิธา” กันหรืออย่างไร?
>>OO>> กับบางคำแนะนำ?…“สยบ ส.ว. – ด้วยกล้วยเครืองาม” แลกกับ “70 มือ” ยกหนุน “แคนดิเดทนายกฯ” ฝั่งประชาธิปไตย ในวันโหวตรวม 2 สภาฯนั้น เรื่องนี้…จะไม่เกิดกับ “ก้าวไกล” แน่! แต่กับ บางพรรคและบางคน…อาจไม่แน่? ใครที่มีฟาร์มกล้วยล้นหลาม ต่อให้อยู่แดนไกล…ก็ทำลาย “ค่านิยม” ของ “คนขายฝัน” ในฝั่ง ส.ว.ได้ไม่ยาก ว่าแต่ “กล้วย” ระดับ 8 หลักกลางๆ จ่ายทั้ง 70 มือ นั้น ก็ต้องเอา “เก้าอี้ตัวเดียว” มาแลกด้วย! ว่าแต่ “พ่อส้ม – แม่ส้ม และลูกส้ม” รับเงื่อนไขนี้ได้ป่ะล่ะ???? จะว่าไป…หาก “พิธา” ไม่นั่งเก้าอี้นายกฯรอบนี้…อาจเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ ดูจากอายุ…ยังเหลือพื้นที่ให้นั่งรอบถัดไปได้สบายๆ ที่สำคัญ…กระทรวงเกรด A กับภารกิจที่เคยหาเสียงเอาไว้ ต้องยึดให้หมด! แล้วอย่าลืม “ป๊า – เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” แห่ง…“เสรีรวมไทย” กับเก้าอี้ รองนายกฯควบ รมว.กลาโหม ด้วยล่ะ เพื่อที่เป้าหมาย…ลดไซส์กองทัพ อัพเกรดเทคโนโลยี “จิ๋วแต่แจ๋ว” และเลิกเกณฑ์ทหาร หันมารับสมัครทหารอาชีพอย่างเดียว…จะได้สัมฤทธิ์ผล หรือไม่อีกทาง? ก็ยอมพลิกลิ้น กลืนเลือด…ดึงเอาบางพรรคฯที่เคยลั่นวาจา…“ไม่ร่วม!” มาร่วมโหวตแลกรวมจัดตั้งรัฐบาล ก่อนในอีก 3-4 เดือนข้างหน้า เปิดปฏิบัติการ “ปรับ ครม.” ไล่ออก…ตามหลัง! แต่เรื่องพรรค์นี้…อาจถูกมองลบ! ในแง่ “จริยธรรมทางการเมือง” ได้เช่นกัน
>>OO>> พักเรื่อง การเมืองในประเทศ แล้วเมียงมอง การเมืองนอกประเทศ ที่เริ่มรุกใส่…บ้านเมืองไทยแบบรัวๆ กันบ้าง! ใครจะคาดคิด…2 ประเทศข้างบ้าน “ลาว – กัมพูชา” กำลังจะถูกกลืนกิน…กระทั่ง อาจกลายเป็น “มณฑลใหม่” ของมหาอำนาจมังกรจีน ลำพังการตั้ง “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ให้กับนักธุรกิจและนักลงทุนจีน ก็ไม่แปลกอะไร แต่การออกกฎหมายเอื้อต่างชาติ แล้วกดขี่ “คนในชาติ” อันนี้…มันเกินไปไหม??? ร้ายกว่านั้น…2 สกุลเงินตราของชาติ อย่าง…กีบลาว และเรียลเขมร ต่างถูกด้อยค่าจนไม่เหลือค่าอันใด! ทุกวันนี้…เงินหยวนจีน กลายเป็นสกุลเงินหลักของ 2 ประเทศนี้ไปเสียแล้ว ผลตามมาคือ…เศรษฐกิจของประเทศและอำนาจซื้อของคนท้องถิ่นตกต่ำอย่างรุนแรง! หลายคนต้องหลบหนีเข้าเมือง…หวังมาตายดาบหน้าในเมืองไทย และพร้อมจะ สร้างความฉิบหายรอบใหม่กับคนไทยและประเทศไทย และ รัฐบาลชุดใหม่…ต้องเรียนรู้และรับมือให้ได้! ที่สำคัญต้องตระหนักกับสถานการณ์นี้ แล้วหันมาส่งเสริมและสนับสนุนคนไทยเป็นเจ้าของกิจการให้มากขึ้น แข่งขันกับทุนผูกขาด ที่บางแห่งก็เป็น “นอมินี” หรือไม่ก็อวยจีนเกินเหตุ ทั้งนี้…เพื่อสร้างและเพิ่มกำลังการผลิต และมูลค่าเพิ่มให้สูงยิ่งขึ้น!
>>OO>> สำหรับ มังกรจีน…ที่ “นักธุรกิจเลือดจีน” ในไทยหลายคน หลายตระกูล นักวิชการบางคน และสื่อบางค่าย กำลังเชียร์สุดๆ ออกนอกหน้าในทุกวัน! ถึงขั้น แนะให้…รัฐบาลไทย “พัฒนาประเทศ” ในสไตล์และตามแนวทางของจีน พร้อมยกอ้าง…จีนกำลังจะแซงหน้าสู่ความเป็น “มหาอำนาจเศรษฐกิจโลก” แทนสหรัฐฯในไม่ช้านี้ แต่อีกมุมหนึ่ง…นักวิชาการอิสระของไทย “เดชา นฤนารถ” กลับมองเห็นต่าง? ชี้ว่า… เศรษฐกิจจีนไม่ได้ดี สินค้าจีนส่งขายทั่วโลกไม่ได้เหมือนกัน แผนเส้นทางสายไหม…การค้าโลกใหม่ ไม่สมหวัง ล่าสุด รัฐบาลอิตาลี ถอนตัวออกไปแล้ว หลังถูกเอาเปรียบด้านการค้า จนขาดดุลฯย่อยยับ แล้วกับ ประเทศไทยเอง…ก็เสียหายแบบไม่ธรรมดา! เราขาดดุลการค้ากับจีนปีละกว่า 6 แสนล้านบาท แลกกับสินค้าห่วยๆ ที่บ้างก็ เป็นภัยต่อชีวิตและพิษต่อสิ่งแวดล้อมของไทย ทั้ง…ปุ๋ยเคมีราคาแสนแพงแต่มีคุณภาพต่ำ และเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาถูกสุดๆ เพียงแค่จะระบาย “แบตเตอรี่เกรดต่ำ” มาทิ้งยังเมืองไทย! ต่างจาก ชาติตะวันตกและพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็น…สหรัฐ ยุโรป โดยเฉพาะ ญี่ปุ่น ที่ไม่เพียงพร้อมจะ ถ่ายทอดเทคโนโลยีในทุกอุตสาหกรรมที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย แต่ยังพร้อมจะขาดดุลการค้าให้กับไทยในทุกปี สิริรวมเบ็ดเสร็จ…ไม่น้อยกว่า 8 แสนล้านบาท
>>OO>> กลับมาที่จีนกันต่อ “เดชา นฤนารถ” ยกเอาข้อมูลล่าสุด ที่ ธนาคารกลางโลก (World Bank) ออกมาเผยถึงตัวเลข CPI (ดัชนีราคาสินค้าและบริการ) ของจีน ในห้วง 4 เดือนแรกของปีนี้ พบว่า…มีอัตราการเติบโตที่ต่ำกว่าเป้าหมายมาก ตั้งเป้าโต 7% แต่ทำได้จริงแค่ 0.1% สะท้อนภาพ…กำลังซื้อของคนในประเทศจีน…ลดลงอย่างฮวบฮาบ! มีเพียงแค่นั้น….ยังมีข้อมูลใหม่ “มหาเศรษฐีจีน” ทิ้งประเทศ…หนีไปใช้ชีวิตสุดหรูอยู่ในสิงคโปร์ แล้วอาศัย…วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ บินมาเที่ยว กินดื่ม และช้อปปิ้งในไทย เป็นอิสระและสบายกว่ากันเยอะเลย! ผลพวง “มหาเศรษฐีจีน” ทิ้งประเทศ! ยังผลให้การค้าและการลงทุนในจีนเริ่มหดหาย เมื่อภาคการผลิตมีน้อยลง ย่อมกระต่ออัตราการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น พูดง่ายๆ คนจีนกำลังไม่มีงานทำ! สินค้าจีน…ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมหรือการเกษตร ต่างได้รับผลกระทบไม่ต่างกันนัก! สินค้าผลิตได้น้อยลง แต่ดันมีราคาขายแพงขึ้น ทำให้อำนาจซื้อลดลง สิ่งนี้…ย่อมกระทบต่อวิถีชีวิตของคนจีนในประเทศ! เรื่องส่งออก…ไม่ต้องพูดถึง แค่ให้คนจีนในประเทศ…ได้มีกินมีใช้อย่างเพียงพอ ก็ไม่ง่ายแล้ว และเมื่อโลกหมุนเข้าสู่ “วงล้อ” ของ “เอลณิญโญ่” รอบใหม่…เริ่มต้นปีนี้ และจะยังคงอยู่ต่อไปอีกไม่น้อยกว่า 2 ปี เหมือนที่ “บิ๊กๆ” จากฟาก SCG ออกมาเตือนรัฐบาล เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้…ก็ยิ่งจะเป็น…สัญญาณทำให้เศรษฐกิจ ทั้งของจีนและทั่วโลก…ทรุดตัวลง! ผสมโรงไปกับ “สงครามยูเครน-รัสเซีย” และเศรษฐกิจโลกถดถอย คงไม่ต้องบอกนะว่า…ภาคการผลิต และการส่งออก รวมถึงเศรษฐกิจจีน…จะเป็นเช่นใด? แล้วอย่างนี้…ยังจะแนะนำให้ “รัฐบาลไทย” เดินตามรอยจีนกันอีกไหมล่ะ!
>>OO>> จะว่าไปแล้ว…เมืองไทยเราก็มีอะไรดีๆ มากมายให้ผู้คนนอกประเทศอยากจะมาสัมผัส? ดูได้จาก…จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ หลังจากที่ ไวรัสโควิด-19 เริ่มซาตัวลง และทางการไทย “เปิดประเทศ” อย่างเป็นทางการ นับแต่ครึ่งหลังปี 2565 จนถึงปัจจุบัน จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทะลุเพดานขนาดไหน? สร้างรายได้เข้าประเทศมากเท่าใด? คนไทย…สัมผัสและรับรู้กันอยู่แล้ว ปีก่อน…เบาะๆ นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย ราว 11 ล้านคน ปีนี้…คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 22 ล้านคนแน่! นำรายได้สู่ประเทศไทยและธุรกิจไทย ตามเป้าหมาย…มากกว่า 2 ล้านล้านบาท คงไม่ไกลเกินฝัน! อย่างว่า…วัดเคียงวัง ประเพณี วัฒนธรรม อาหาร ฯลฯ และน้ำใจคนไทย…ถือเป็น “อัตลักษณ์ไทย” ที่ชาติข้างบ้าน…ก็เคลมและก๊อปปี้ไปได้ยาก และเป็นสิ่งที่ นักท่องเที่ยวต่างชาติ “ปักหมุด” ให้ไทยกลายเป็น…เป้าหมายปลายทางของการท่องเที่ยว ที่ครั้งนึงในชีวิต…จะต้องมาเยือนและสัมผัสวิถีแห่ง “อัตลักษณ์ไทย” ให้ได้ มาครั้งแรก…ก็มีครั้งต่อๆ ไป สุดท้าย…ควานหาหนทางเพื่อกลับมาใช้ชีวิตยาวๆ ในประเทศไทย สิ่งนี้…เป็นที่ใฝ่ฝันอย่างแรงของชาวต่างชาติ ล่าสุด “บิ๊ก’agoda – Omri Morganshtern” และ Jason Ho นักธุรกิจเชื้อสายเอเชีย ในไทย บอกเอง…กรุงเทพฯ กำลังจะกลายเป็น “ซิลิคอนวัลเลย์” แห่งใหม่ของเอเชีย ด้วยจุดเด่นและความพร้อมมากมาย ไม่เพียง “อัตลักษณ์ไทย” ข้างต้น หาก กรุงเทพฯ ยังเป็นแหล่งหลอมรวมวัฒนธรรมของโลกตะวันตกและออก ได้อย่างลงตัว มีระบบมีโครงสร้างพื้นฐานและการเดินทางขนส่งที่สมบูรณ์แบบ และยิ่ง รัฐบาลไทย มีเป้าหมายนำพาประเทศไปสู่ ยุค 4.0 ส่งเสริมและสนับสนุนให้คนไทยและธุรกิจไทย ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ล้วนเป็นประโยชน์ต่อบรรดา Start up จากทั่วโลก ได้ตบเท้าเข้าไทยเยอะมาก! มีดีอย่างนี้…คงไม่พัฒนาประเทศ ใน “สไตล์จีน” เจ้าสัวชั้นต่ำบางคน? แนะนำหรอกนะ
>>OO>> ของแถม! ก่อนจากกัน ใน ep.2 นี้…ฝาก คนไทยร่วมเชียร์ และส่งแรงใจ ไปถึง…ทีมฟุตบอลชาย U22 ชิงแชมป์ซีเกมส์ รอบชิงชนะเลิศกับ อินโดนีเซีย ณ กรุงพนมเปญ กัมพูชา งานนี้…“บิ๊กหยิม” ยุทธนา หยิมการุณ” ผจก.ทีมชาติไทยฯ หมายมั่นปั้นมือ…จะเอา “แชมป์และเหรียญทอง” กลับประเทศไทยให้ได้ หลังห่างหายมานานถึง 2 สมัย นับแต่ปี 2019 และ 2021 แล้ว ยังไง…เปิดโทรทัศน์ดูถ่ายทอดสดในวันนี้ (16) ได้ที่ช่อง T Sport 7 และ One 31 เริ่มเวลา 19.30 น. เป็นต้นไป…ตามติดกันใหม่กับ ep.3
By : ทีมข่าวยุทธศาสตร์ No.1