สิงห์ เอสเตท จ่ายปันผล 0.02 บ. – จ่อเปิด 5 โครงการบ้านเดี่ยวหรูกว่าหมื่นลบ.ในปี 65
บอร์ด “สิงห์ เอสเตท” อนุมัติจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้น 0.02 บาท หรือ 42% ของกำไรสุทธิ หลังปีนี้รับสัญญาณดี เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว ดันกำไร 500 ล้านบาท ลั่นแค่ปีเดียวหลังปรับโครงสร้างธุรกิจ ลูกค้าแห่จองบ้านเดี่ยว “ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส พัฒนาการ” มูลค่าเฉียด 3 พันล้านบาท พร้อมทยอยเปิดตัวโครงการใหม่อีก 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่าหมื่นล้านบาท
บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) โดย นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา ประธานกรรมการ, ดร.ชญานิน เทพาคำ ประธานกรรมการบริหาร, นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยคณะกรรมการบริษัทฯ จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 เมื่อ 28 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา โดยมีวาระสำคัญเพื่อ รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2565 พร้อมลงมติอนุมัติจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น
นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.02 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลสูงถึง 42% ของกำไรสุทธิ การจ่ายปันผลในครั้งนี้ เป็นผลมาจาก ผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญภายในเงื่อนเวลาที่เร็วกว่าที่บริษัทฯ คาดการณ์ไว้ โดยในปี 2565 บริษัทฯ สร้างรายได้รวมเติบโตกว่า 62% พร้อมรายงานกำไรสุทธิสูงถึงประมาณ 500 ล้านบาท
ความสำเร็จนี้เป็นเครื่องยืนยันความสามารถของบริษัทฯ ในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วและเต็มประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจที่พักอาศัยประเภทบ้านแนวราบสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น ภายหลังจากการปรับโครงสร้างทางธุรกิจได้เพียง 1 ปี บริษัทฯสามารถเปิดตัวบ้านเดี่ยวโครงการแรกภายใต้ชื่อ โครงการศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส พัฒนาการ (SIRANINN Residences Pattanakarn) มูลค่าโครงการกว่า 2,900 ล้านบาท และได้รับการตอบรับจากลูกค้าเกินความคาดหมายด้วยยอดโอนกรรมสิทธิ์สูงกว่า 830 ล้านบาทภายในสองเดือนหลังจากเปิดตัวโครงการ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่น และการยอมรับในคุณภาพบ้านแบบสิงห์ เอสเตท นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการรุกตลาดโครงการบ้านแนวราบอย่างเต็มรูปแบบเพื่อเจาะตลาดกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
ในปี 2566 นี้ บริษัทฯ จะทยอยเปิดตัวโครงการใหม่อีก 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะพร้อมโอนกรรมสิทธิ์และหนุนรายได้ของบริษัทฯ ในช่วงปลายปีนี้ เสริมทัพด้วยผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากทุกหน่วยธุรกิจที่คาดว่าจะสร้างรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธรุกิจโรงแรมในปี 2566 นี้ ซึ่งถือว่าเป็นปีแรกของการฟื้นตัวอย่างเต็มรูปแบบของภาคการท่องเที่ยวทั่วโลก และโรงแรม ในทุกประเทศที่บริษัทฯ ดำเนินกิจการอยู่สามารถเทรดได้เต็มที่ ซึ่งจะผลักดันรายได้และผลกำไรจากธุรกิจโรงแรม ที่ดำเนินงานผ่าน SHR ให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด
“จากปัจจัยสนับสนุนข้างต้น บริษัทฯ มีความมั่นใจที่จะขับเคลื่อนผลการดำเนินงาน สู่เป้าหมาย All-time High ทั้งรายได้และกำไรในทุกพอร์ตธุรกิจ ภายใต้แรงส่งสำคัญจากกลยุทธ์ S EXCELS มุ่งสู่ความเป็นเลิศในทุกมิติ โดยบริษัทฯ วางเป้าให้รายได้รวมของบริษัทฯเติบโตขึ้นอีก 34% สู่ 16,700 ล้านบาท ยังผลไปถึงการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่จะเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญด้วยเช่นกัน” นางฐิติมา กล่าว.