กรีดเลือดก็เป็นสีฟ้า!! ปชป.คึกคัก “อภิสิทธิ์” คัมแบ็คเวทีปราศรัย ช่วย “ชนินทร์” หาเสียงบางพลัด
กองเชียร์ปชป.คึกคัก!!! “อภิสิทธิ์”คัมแบ็คขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงบางพลัดช่วย “ชนินทร์” ลั่นแม้ไม่ลงเลือกตั้งก็ไม่ไปไหน กรีดเลือดเป็นสีฟ้า ด้าน”ชนินทร์”อ้อนมั่นใจเป็นทางเลือกที่ไม่ต้องรอพิสูจน์เปิดนโยบายเศรษฐกิจช่วยมดตัวเล็ก ไม่มีนโยบาย ใช้เงินปชช.ล่อซื้อเสียงปชช. ออกนโยบายเกทับ 3 พัน 5 พัน
วันที่ 29 มี.ค.2566 เวลา 16.00 น. ที่ สวนสาธารณะใต้สะพานพระรามแปด ฝั่งธนบุรี นายชนินทร์ รุ่งแสง ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตบางกอกน้อย บางพลัด พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จัดเวทีปราศรัยหาเสียง เปิดนโยบายช่วยเศรษฐกิจฐากราก โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคปชป. มาช่วยหาเสียงด้วย ซึ่งถือเป็นการปราศรัยครั้งแรก นับตั้งแต่มีประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร นอกจากนี้ ยังมี นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตหลักสี่-จตุจักร นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. และ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล และอดีตส.ส.กทม. พร้อมว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตต่างๆในกทม. มาร่วมเป็นกำลังใจและฟังการปราศรัย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมาก
โดยในช่วงต้นของการหาเสียง พล.ต.ต.วิชัย ย้ำชัดเจนว่าประชาธิปัตย์ไม่เอากัญชาเสรี ไม่เอายาเสพติด และจะปราบทุจริตซึ่งเป็นวิกฤตของชาติ ส่วนนายสุชัชวีร์ เน้นในเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคแรก และพรรคเดียวที่เสนอแก้ปัญหาน้ำท่วมแบบเบ็ดเสร็จให้กับคนกรุงเทพ และไม่มีพรรคใดแก้ไขเรื่องนี้เลย แสดงว่าเขาไม่ได้ฟังชาวกรุงเทพฯ รวมทั้งเรื่องฝุ่นละอองขนาดเล็กPM2.5
ด้านนายชนินทร์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย คิดนโยบายจากการไปฟังความคิดเห็นจากประชาชน จึงมั่นใจว่าจะแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด โดยเฉพาะเรื่องปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของคนรากหญ้า ที่เดือดร้อนมาตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดโควิด พรรคมุ่งมั่นที่จะทำให้ความรวยกระจาย ไม่กระจุก และตั้งใจเสริมสร้างกองทัพมดให้เข้มแข็ง ก่อนหน้านี้ได้ประกาศไปแล้วถึงนโยบายธนาคารชุมชน ชุมชนละ 2 ล้านบาท ลดค่าไรเดอร์เหลือไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ของราคาสินค้า ลดหย่อนภาษีให้แก่ร้านค้าชุมชน กองทุนไอเดีย เพื่อช่วยคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ในการทำธุรกิจ วันนี้ขอนำเสนอนโยบายใหม่เพิ่มเติม คืออาสาสมัครพารวยทุกชุมชน ที่จะทำหน้าที่ช่วยดูแลให้คำปรึกษาในทุกเรื่องแก่ผู้ที่จะประกอบอาชีพทำธุรกิจในชุมชน ตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจไปประสบความสำเร็จคือ รวยแบบยั่งยืน นอกจากนี้ ยังขอเสนอนโยบายจัดโซนนิ่งปลอดร้านสะดวกซื้อ เพื่อร้านขายของชำในชุมชนจะต้องสามารถดำเนินการค้าขายไปได้ไม่แพ้ร้านค้าที่มาจากนายทุนใหญ่ด้วย
“พรรคไม่มีนโยบายใช้เงินประชาชนล่อซื้อเสียงประชาชน ด้วยนโยบาย แจก3 พัน 5พัน พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจหรือพรรคที่มีวาระซ่อนเร้น ผมมั่นใจว่าผมเป็นทางเลือกที่พิสูจน์แล้วว่าทำงานให้กับพี่น้องคนทุกรุ่นได้ เรามีทีมงาน สก.ที่จะทำงานควบคู่ไปกับส.ส.เขต ผมและทีมงานทุกคนใส่ใจและรู้งานในพื้นที่จริง โดยเฉพาะสถานการณ์ปัจจุบันเราเพิ่งผ่านพ้นวิกฤตโควิด แต่ยังไม่หลุดพ้นวิกฤตเศรษฐกิจ ผมทำงานมาตลอดแม้จะมีตำแหน่งหรือไม่ตำแหน่ง เกือบ30ปีทางการเมืองของผมอยู่กับพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ผมพร้อมมาดูแลพี่น้อง พร้อมเป็นส.ส. ผมทำทุกอย่างเพื่อพี่น้องได้ยกเว้นความผิดหวัง สุดท้าย ผมพูดจากใจอยากทำงานให้กับพี่น้องให้ชาวบางพลัด บางกอกน้อย การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นบัตร 2 ใบ ใบหนึ่งโปรดเลือกผมเป็นส.ส.เขต และอีกใบหนึ่งโปรดกาให้กับพรรคประชาธิปัตย์” นายชนินทร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายอภิสิทธิ์ได้เดินทางมาถึงในเวลา 17.45 น. โดยเดินมาทักทายนายเฉลิมชัย และประชาชนที่มารอฟังการปราศรัย รวมทั้งได้ถ่ายรูปร่วมกันด้วย จากนั้นเวลา 18.40 น. นายอภิสิทธิ์ ปราศรัยว่า ก่อนอื่นขอกราบขอบคุณที่เดินมาร่วมกิจกรรมของพรรค และให้การต้อนรับชาวประชาธิปัตย์อย่างอบอุ่น มาด้วยความผูกพันธ์กับประชาชน แม้ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่พูดกับทุกคนว่าอยู่กับพรรคและเป็นสมาชิกพรรคเหมือนเดิม สิ่งที่อยากทำอันดับแรกคือกราบขอบคุณที่สนับสนุนพรรคมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน สำหรับนายชนินทร์ เป็นผู้แทนที่นี่ก่อนนายองอาจ เพราะเป็นสก.มาก่อน และได้ดำรงตำแหน่งสำคัญในสภากทม. รอบที่แล้วนายชนินทร์ อยู่ลำดับปาร์ตี้ลิสต์สูงไปเลยไม่ได้เป็นส.ส. แต่พี่น้องในเขตก็ทราบว่านายชนินทร์ไม่ได้ทิ้งพื้นที่ นี่คือความมั่นคงในอุดมการณ์จนทำให้สืบทอดพรรคจากรุ่นสู่รุ่น
“4ปีที่ผ่านมาจะบอกว่ามีคนชวนไปอยู่พรรคอื่น หรือ ไปตั้งพรรคก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะเวลาใครคิดจะมาชวนผม แล้วไปปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี เขาบอกว่าอย่าไปเสียเวลาเลย ไอ้มาร์คกรีดเลือดก็เป็นสีฟ้า ดังนั้นผมไม่ไปไหนแม้ปัจจุบันจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ก็ได้ยืนยันกับผู้บริหารพรรคไปแล้วว่า จะสนับสนุนการทำงานของพรรคตามความเหมาะสมและกำลังที่มี ผมคงไม่อยู่ในฐานะที่จะพูดเรื่องแนวทางของพรรคต่างๆมากมายเพราะไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องเลย แต่บอกได้ว่าสิ่งที่ทำให้ประชาชนมั่นใจกับพรรคประชาธิปัตย์คือความเป็นระบบและความเป็นสถาบัน ไม่ได้พูดหรือท่องมาแต่มันมีการสืบทอดจากรุ่นเก่าสู่รุ่นใหม่ ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า หลายคนอาจจะพูดเรื่องนโยบายว่าแต่ละพรรคพูดอย่างนั่นอย่างนี้หวือหวาตื่นเต้น แต่ตนรู้ว่าคนที่ทำนโยบายในพรรคเราจะถูกบังคับว่า หากจะเสนอนโยบายต้องศึกษาข้อมูลรายละเอียดว่าภาระที่จะเกิดขึ้นต่องบประมาณเป็นอย่างไร พูดแล้วสามารถทำได้ระยะเวลาเท่าไร เมื่อมั่นใจแล้วจึงเสนอออกมา.