“อาคม” ร่วมเวทีประชุม รมว.คลังและผู้ว่าธนาคารอาเซียน ณ.เกาะบาหลี อินโดนีเซีย

“อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” ข้าร่วมประชุม การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ครั้งที่ 9 และ การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน ครั้งที่ 27 ระหว่างวันที่ 29 – 31 มี.ค.2566 ณ เกาะบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงว่า ระหว่างวันที่ 29 – 31 มี.ค.2566 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง มีกำหนดเข้าร่วมการประชุม รมว.คลัง และ ผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน (ASEAN Finance Ministers and Central Bank Governors’ Meeting: AFMGM) ครั้งที่ 9 การประชุมรมว.คลังอาเซียน (ASEAN Finance Ministers’ Meeting: AFMM) ครั้งที่ 27 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ เกาะบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยมี รมว.คลังและ ผู้ว่าการธนาคารกลางสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เป็นประธานร่วมของการประชุม AFMGM ประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิดหลัก “อาเซียนสำคัญ: ศูนย์กลางของความเติบโต” (ASEAN Matters: Epicentrum of Growth) ซึ่งมีรายละเอียดการประชุมฯ ดังนี้

  1. วันพฤหัสบดีที่ 30 มี.ค. 2566 มีการประชุมที่สำคัญ ดังนี้
    1.1 การประชุมระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (AFMM Retreat) โดยมีประเด็นหารือเกี่ยวกับความท้าทายที่สำคัญเกี่ยวกับความมั่นคงด้านสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะพลังงานและอาหาร
    1.2 การเสวนา Ministerial Fireside Chat โดยมี H.E. Sri Mulyani Indrawati รมว.คลังสาธารณรัฐอินโดนีเซีย H.E. Lawrence Wong รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง สาธารณรัฐสิงคโปร์ ร่วมเสวนาในหัวข้อ “Financing Transition in ASEAN” เพื่อหารือเกี่ยวกับเกณฑ์การจัดหมวดหมู่ด้านการเงินที่ยั่งยืนของอาเซียน เวอร์ชัน 2 (ATSF) Version 2) ซึ่งจะได้แสดงมุมมองเกี่ยวกับนโยบายด้านการเงินที่ยั่งยืน และความเชื่อมโยงของนโยบายดังกล่าวกับ ATSF Version 2
  2. วันศุกร์ที่ 31 มี.ค. 2566 มีการประชุมที่สำคัญ ดังนี้
    2.1 การประชุม AFMM ครั้งที่ 27 จะมีการหารือร่วมกันในประเด็นภาพรวมแนวโน้มเศรษฐกิจและการพัฒนาในภูมิภาค และติดตามความคืบหน้าการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังอาเซียน ประกอบด้วย ประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ (1) การระดมทุนเพื่อโครงสร้างพื้นฐาน (2) ความร่วมมือด้านการประกันภัย (3) การบริหารความเสี่ยงและการประกันภัยเพื่อรองรับความเสี่ยงจากภัยพิบัติของอาเซียน (4) ความร่วมมือด้านศุลกากร (5) การป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (6) คณะทำงานด้านภาษีอากรของอาเซียน และ (7) ความคืบหน้าการดำเนินการของหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนอาเซียน
    2.2 การประชุมระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียนกับสถาบันการเงินระหว่างประเทศ จะมีการหารือประเด็นสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและภูมิภาคอาเซียน รวมถึงแนวทางการดำเนินนโยบายทางด้านเศรษฐกิจเพื่อให้เศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนฟื้นตัวได้อย่างเท่าเทียม ทั่วถึง และมีภูมิคุ้มกัน โดยมีผู้แทนจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศที่จะเข้าร่วมการประชุม ประกอบด้วย (1) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (2) สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 (3) ธนาคารโลก (4) ธนาคารพัฒนาเอเชีย (5) คณะกรรมการดูแลเสถียรภาพทางการเงิน และ (6) ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ

2.3 การประชุม AFMGM ครั้งที่ 9 ซึ่งจะเป็นการประชุมร่วมกันระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน โดยจะหารือเพิ่มเติมใน 3 ประเด็น ได้แก่ (1) การส่งเสริมการทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินท้องถิ่น และการชำระเงินข้ามพรมแดน (2) ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านการเงินการคลังและหน่วยงานด้านสาธารณสุข และ (3) ความมั่นคงทางอาหาร รวมถึงแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับ การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกระบวนการทำงานภายใต้กรอบการประชุม AFMGM เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของอาเซียน พ.ศ. 2568 และติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนงานประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน พ.ศ. 2568 รวมทั้งความคืบหน้าของความร่วมมือภายใต้กรอบการประชุม AFMGM ซึ่งได้แก่ (1) แผนงานการบูรณาการทางการเงินของอาเซียน รวมถึงประเด็นที่จะให้ที่ประชุมรับรอง และ (2) ความร่วมมือด้านการเงินยั่งยืนของอาเซียน

นอกจากนี้ ในระหว่างวันที่ 29 – 30 มีนาคม 2566 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะหารือทวิภาคีกับ H.E. Sri Mulyani Indrawati รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสาธารณรัฐอินโดนีเซีย H.E. Lawrence Wong รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสาธารณรัฐสิงคโปร์ และหารือทวิภาคีกับองค์การระหว่างประเทศ ได้แก่ ADB รวมทั้งภาคธุรกิจเอกชน เช่น สภาที่ปรึกษาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน สภาที่ปรึกษาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน เป็นต้น เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและรับฟังข้อเสนอแนะเชิงนโยบายด้านเศรษฐกิจการเงินการคลังในมุมมองของภาคเอกชน

การประชุมครั้งนี้จะเป็นโอกาสให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียนได้หารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในด้านการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจและการมุ่งไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวของประเทศไทย และสนับสนุนประเด็นผลักดันเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Thrust) ของอินโดนีเซีย ในฐานะประธานการจัดประชุมฯ ในครั้งนี้ ซึ่งมี 3 ด้าน ได้แก่ (1) ด้านการฟื้นฟูและการสร้างใหม่ (Recovery-Rebuilding) (2) ด้านเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) และ (3) ด้านความยั่งยืน (Sustainability) ซึ่งจะช่วยเพิ่มการขับเคลื่อนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของอาเซียนตลอดจนการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password