เมืองไทยโตฉุดไม่อยู่ คาดฟันเบี้ยประกันฯรับใหม่ 7.6 หมื่นลบ. – โชว์ทีมผู้บริหาร พ่วงกลยุทธ์ Happiness Reinvented

“สาระ” นำทีม “บิ๊ก’เมืองไทยประกันชีวิต” โชว์ศักยภาพของทีมผู้บริหารผสานรุ่นเก่า-ใหม่ แจงผลงานปี 2565 ดันตัวเลขเบี้ยประกันภัยรับใหม่โตมากถึง 10% ขณะที่ เบี้ยประกันสุขภาพและโรคร้ายแรงโตไม่น้อยหน้าที่ 7% พร้อมเปิดตัวกลยุทธ์ “Happiness Reinvented เน้นเดินหน้าสานต่อความมุ่งมั่นในการสร้างความสุขให้แก่ทุก ๆ คน ทั้งลูกค้า พนักงาน พาร์ทเนอร์ และสังคมโดยรวม ผ่านผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ความคุ้มครองสุขภาพ การบริการอื่น ๆ เพื่อส่งมอบความสุขแบบครบวงจรอย่างแท้จริง คาดเบี้ยประกันภัยรับใหม่ปีนี้โต 12.67% คิดเป็นมูลค่าเทียบเงินสดเพื่อการลงทุน 6 แสนล้านบาท น่าจะสร้างรายได้ใหม่ไม่ต่ำกว่า 7.6 หมื่นล้านบาท

เมื่อช่วงสายวันที่ 29 มกราคม 2566 ณ สำนักงานสาขาภาคเหนือ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต ร่วมแถลงข่าวการดำเนินงานของบริษัทฯในปีที่ผ่านมา พร้อมกับ เปิดตัวกลยุทธ์ “Happiness Reinvented : เพราะความสุขคือทุกอย่าง… ร่วมสร้างความสุขสไตล์คุณไปกับเมืองไทยประกันชีวิต” โดย นายสาระ กล่าวตอนหนึ่งว่า ปี 2565 ถือเป็นปีที่เต็มไปด้วยความท้าทายที่หลากหลาย จากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว หลังจากการระบาดอย่างรุนแรงของไวรัสโควิด19 มาหลายปี ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคในโลกยุคใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว 

อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่เต็มไปด้วยความท้าทาย บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต ยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความแข็งแกร่ง เพื่อการตอบโจทย์และเดินเคียงข้างลูกค้าคนสำคัญอย่างยั่งยืน โดยมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับใหม่ที่ 10% และเบี้ยประกันสุขภาพและโรคร้ายแรงที่ 7% โดยในปีที่ผ่านมา สำหรับธุรกิจในภูมิภาค CLMV มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง (ดูภาพประกอบ)

ในด้าน ความแข็งแกร่งและด้านเสถียรภาพทางด้านการเงิน บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Rating) จาก S&P Global Ratings อยู่ที่ระดับ BBB+ โดยแนวโน้มมีเสถียรภาพ และจาก Fitch Ratings อยู่ที่ระดับ A- โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS Rating) ที่ AAA(tha) โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ซึ่งถือเป็นอันดับเครดิตในระดับประเทศที่สูงที่สุด และยังมีความเพียงพอของเงินกองทุนอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งโดยสะท้อนจากอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนสูงกว่า 300% ณ สิ้นปี 2565 ซึ่งสูงกว่าระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรง ตามเกณฑ์ที่ 140%

“ในปี 2566 นี้ ถือเป็นปีสำคัญของเมืองไทยประกันชีวิต ในการอยู่เคียงข้างสร้างรอยยิ้มแก่คนไทยครบ 72 ปี พร้อมกำหนดทิศทางการดำเนินงานในปีนี้ของบริษัทฯ  ด้วยการตั้งเป้าหมายในการเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในทุกมิติ ด้วยการดำเนินกลยุทธ์ “Happiness Reinvented” เพราะความสุขคือทุกอย่าง…ร่วมสร้างความสุขสไตล์คุณไปกับเมืองไทยประกันชีวิต  ประกาศปักธงเป็นอันดับหนึ่งในฐานะคู่คิดด้านชีวิตและสุขภาพที่ลูกค้าวางใจ (No.1 Most Trusted Life & Health Partner) ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ และนวัตกรรม      ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย ทุกกลุ่มเป้าหมาย ทุกไลฟ์สไตล์ และทุกบทบาทของชีวิตที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อสร้างการเข้าถึงได้ของประกันชีวิตให้กับทุกๆคน (Democratizing Insurance) โดยบริษัทฯ มุ่งดำเนินงานผ่าน 4 แกนสำคัญ ได้แก่ บุคลากร (People) พาร์ทเนอร์ (Preferred Partner) ลูกค้า (Customers) และ นอกเหนือจากลูกค้า (Beyond Our Customers)” นายสาระ กล่าวและว่า

บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาบุคลากรในทุกๆ มิติ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญที่จะช่วยเชื่อมต่อการส่งมอบความสุขไปยังลูกค้า ผ่านการพัฒนาในหลากหลายรูปแบบ อาทิ การส่งเสริมวัฒนธรรมที่เปิดกว้างทางความคิดและความหลากหลาย การพัฒนาทักษะรอบด้าน การปรับกระบวนการภายในให้มีความรวดเร็ว ความแม่นยำ และความสามารถในการรองรับการขยายตัวของธุรกิจ การมีพื้นที่การทำงานที่ทันสมัยเพื่อรองรับการทำงานรูปแบบ Squad Team ไม่ว่าจะเป็นที่ศูนย์การเรียนรู้สรรค์สาระ The Garage และ 66 Tower นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความใส่ใจในการสร้างความสุขที่ยั่งยืนตลอดการทำงานและหลังการเกษียณอายุไปแล้ว ผ่านกิจกรรมพัฒนาความรู้และสร้างเสริมทักษะรอบด้านทั้ง สุขภาพ ความมั่งคั่ง ทักษะแห่งอนาคต และทักษะอาชีพอื่น ๆ ให้กับพนักงานอย่างต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต ยังมีที่ปรึกษาประกันชีวิต และพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่งจากหลากหลายธุรกิจ (Preferred Partner) เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างแท้จริง (Democratizing Insurance) พร้อมสรรสร้างนวัตกรรมร่วมกับพาร์ทเนอร์ของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริการลูกค้า ผ่านแอปพลิเคชันและเครื่องมือดิจิทัลที่ล้ำสมัย ระบบกระบวนการทำงานอัตโนมัติ และทีมสนับสนุนที่เชี่ยวชาญและมากความสามารถในด้านต่าง ๆ 

อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างความสุขที่ยั่งยืนผ่านสุขภาพที่ดีในทุกมิติ ทั้งทางกาย ทางใจ และทางการเงินให้กับลูกค้า เมืองไทยประกันชีวิตยังดำเนินงานโดยยึดหลักการมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centricity) และนำเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และเงื่อนไขที่แตกต่างกันของชีวิตทุก ๆ คนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านความคุ้มครองสุขภาพ ความคุ้มครองโรคร้ายแรง ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน และแอปพลิเคชันด้านสุขภาพอย่าง MTL Fit ที่เข้าถึงลูกค้าในแบบที่มีความเฉพาะตัวได้มากยิ่งขึ้น (Personalization) อีกทั้งเน้นการสร้างความแตกต่าง และสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างเข้าถึง เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรม และครอบคลุมกลุ่มลูกค้าในทุกเพศ ทุกวัย 

นายสาระ ยังกล่าวอีกว่า ล่าสุด เมืองไทยประกันชีวิต ได้ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเข้าถึงและตอบโจทย์  ทุกความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มให้มากยิ่งขึ้น เพราะทุกคนมีความต้องการที่แตกต่าง  “YOUnique Health เมืองไทยประกันชีวิตเข้าใจทุกความต้องการในแบบคุณ” อีกทั้งได้เปิดตัวแคมเปญ A True Story” เพื่อสะท้อนถึงความสำคัญของสุขภาพ และถ่ายทอดเรื่องราวด้านความคุ้มครองสุขภาพจากเมืองไทยประกันชีวิต ที่ได้รับความไว้วางใจและเชื่อมั่นจากลูกค้า ด้วยการเปิดมุมมองและประสบการณ์จากลูกค้าตัวจริง ถึงการให้ความสำคัญต่อการเลือกซื้อความคุ้มครองสุขภาพในยุค ที่ความเจ็บป่วยใกล้ตัวกว่าที่คิด และโรคอุบัติใหม่ที่มาได้แบบไม่ทันตั้งตัว โดยรูปแบบการทำเสนอในซีซั่นนี้ จะเต็มไปด้วยความสนุก และเล่าเรื่องราวเจาะลึกแบบเป็นกันเองเหมือนทุกท่านมาบอกเล่าประสบการณ์แบบ Exclusive ที่ไม่สามารถหาชมที่ไหนได้ง่าย ๆ เพราะไม่ว่าจะอาชีพอะไร ไลฟ์สไตล์ แบบไหน …เมืองไทยประกันชีวิตเข้าใจทุกความต้องการในแบบคุณ 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเน้นการส่งต่อความสุขสู่สังคม ซึ่งรวมถึงทุกๆ คนที่นอกเหนือจากลูกค้าของเรา (Beyond Our Customers) ด้วยการร่วมมือกับบริษัทฯ ในเครือต่างๆ ทั้งการเป็นพันธมิตรกับสตาร์ทอัพ ด้าน Insurtech และ Healthtech การนำเสนอและเปรียบเทียบประกันภัยออนไลน์ และการพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างครบวงจร เพื่อร่วมกันนำเสนอทางเลือกที่เป็นมากกว่าประกันชีวิตแก่ ทั้งลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตและบุคคลทั่วไป พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังประกาศความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามนโยบายและเป้าหมายด้าน ESG อย่างครบถ้วนทุกมิติ ทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล และเศรษฐกิจ เพื่อสร้างความสุขอย่างยั่งยืนกับทั้งบริษัทและสังคมโดยรวมต่อไป

โดยสามารถติดตามหลากหลายเรื่องราวแบบประกันที่ใช่กับสไตล์คุณ  YOUnique Health & A True Story 2” ได้ที่ช่องทางเว็บไซต์ www.muangthai.co.th YouTube  Facebook Instagram Twitter และ LINE Official Account

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวเลขประมาณการอัตราการเติบโตในภาพรวมธุรกิจและรายได้เบี้ยประกันรับใหม่ของ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต ที่ นายสาระ ปฏิเสธที่จะพูดถึง โดยบอกให้สื่อมวลชนคำนวณจากฐานอัตราการเติบโตตัวเลขเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของประเทศ ซึ่งบริษัทฯใช้เพื่อการอ้างอิงในการประมาณการตัวเลขสำคัญนั้น หากประเมินจากตัวเลขคาดการณ์ของกระทรวงการคลัง ซึ่ง นายพรชัย ฐีระเวช โฆษกกระทรวงการคลัง ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ คือ จีดีพีปี 2565 น่าจะเติบโตที่ระดับ 3.0% และเมื่อนำมาคำนวนจากตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของภาพรวมธุรกิจของ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตในปี 2565 ที่แจ้งว่าเติบโตในอัตรา 10% เทียบกับคาดการณ์ของจีดีพีในปี 2566 ที่ระดับ 3.8% จะทำให้ตัวเลขคาดการณ์ในการเติบโตของภาพรวมธุรกิจฯอยู่ที่ระดับ (3.8 x 10 / 3.0) 12.67% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเมื่อนำมาคำนวนจาก ฐานทรัพย์สินในรูปเงินสดที่บริษัทฯนำไปลงทุนที่ระดับ 6 แสนล้านบาท นั้น คาดว่าในปี 2566 บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต น่าจะมีการตั้งประมาณการรายได้เบี้ยประกันรับใหม่ที่ระดับ (12.67% x 600,000 ลบ.) 7.6 หมื่นล้านบาท.

#MuangThaiLife

#เมืองไทยประกันชีวิต

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password