ศาลอาญากรุงเทพใต้  สืบพยานโจทก์ล่วงหน้าคดีตู้ห่าว กับพวกสมคบค้ายาฟอกเงิน อัยการนำพยานนักธุรกิจจีนที่เคยเที่ยวผับจินหลิงเบิกความ ยืนยันว่า เข้าไปเสพยา-เล่นพนันภายในผับ ก่อนตำรวจบุกจับ ศาลคุมเข้ม พร้อมจัดชุดปฏิบัติการพิเศษ 3 ตำรวจศาล หน่วยงานสนธิกำลังเต็มอัตรา 40 นายดูแลรักษาความปลอดภัยทั่วบริเวณศาล

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 24 ม.ค.2566 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง ศาลนัดสืบพยานล่วงหน้าคดี ดำย.87/2566  ตามคำร้องหมายเลขดำ ยสฟ.1/2566 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดียาเสพติด 4โจทก์ ยื่นคำขอ คดีนายฮวง ไฮ่ เท่า (HUANG HAITAO) กับพวกรวม 19 คน ตกเป็นผู้ต้องหา คดีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งพยานที่ขอสืบล่วงหน้านี้ล้วนเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติจีน 2 คน และเป็นประจักษ์พยานข้อเท็จจริงส่วนสำคัญคดีนี้  ทั้งนี้ พยานทั้ง 2 คนอยู่ระหว่างรอส่งตัวออกนอกราชอาณาจักรกลับภูมิลำเนา จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนขอสืบพยานก่อนฟ้องไว้ก่อน โดยวันนี้ อัยการ โจทก์ จำเลยทั้งหมดพร้อมทนายความมาศาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้า อัยการโจทก์ได้นำ นักธุรกิจชาวจีน อายุ 33 ปี ที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เป็นพยานโจทก์เบิกความสรุป ว่า ตนเข้ามาประเทศไทยเมื่อปี 2563 ผ่านสนามบินนานาชาติ จ.ภูเก็ต ตั้งแต่เข้ามาก็พักอาศัยอยู่ในประเทศไทยมาตลอด โดยอยู่ที่จ.ภูเก็ต 4 เดือนแล้วไปพักต่อที่พัทยา จ.ชลบุรี และกรุงเทพฯ ตามลำดับ

โดยพยานรู้จักผับจินหลิง ย่านยานนาวา เพราะเคยไปเที่ยวมาก่อนจะถูกจับกุมอย่างน้อย 2 ครั้ง ครั้งแรกไปเที่ยวด้วยตนเองและเข้าไปเล่นการพนัน โดยสถานที่เล่นพนันอยู่ทางด้านซ้ายของผับดังกล่าว ครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2563 ตนไปเที่ยวผับจินหลิงกับเพื่อนชาวจีนอีกคน ซึ่งตอนที่จะเข้าไปในผับจินหลิงจะมีการตรวจค้นอย่างละเอียด เมื่อเข้าไปด้านในผับก็จะเปิดห้อง บรรจุคนได้ประมาณ 30 กว่าคน ตอนนั้น มีทั้งนักเที่ยวชาวจีนและชาวไทย และตนเองได้เสพยาเสพติด ประเภทเคตามีนเข้าร่างกาย

หลังจากนั้นประมาณ 40 นาที จึงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าไปจับกุมดำเนินคดีข้อหาเสพยาเสพติด และได้ไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนและยื่นฟ้องต่อศาลแขวงพระนครใต้ ซึ่งศาลพิพากษาลงโทษปรับและคดีถึงที่สุดแล้ว ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายศาลได้สืบพยานล่วงหน้าอีก 1 ปากแล้วเสร็จแล้วจึงนัดสืบพยานต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการดูแลรักษาความปลอดภัย ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาพบว่า ทางศาลจัดเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมราชทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษของตำรวจศาล (court marshal) และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหน่วยอรินทราช 26 จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมอาวุธครบมือ สนธิกำลังกัน เกือบ 40 นาย ดูแลรักษาความปลอดภัย ภายในบริเวณศาล เพื่อป้องกันความวุ่นวายและเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น

ส่วนการสืบพยานวันนี้ ศาลได้จัดห้องพิจารณาถ่ายทอดภาพและเสียงให้ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวด้วย.