พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปราศรัยเปิดใจ เป็นสมาชิกพรรคการเมืองครั้งแรก-รวมไทยสร้างชาติ ลั่นเป็นทหารมาทั้งชีวิต ได้รับคำสอนให้ซื่อสัตย์สุจริต กรีดอก หัวใจสีม่วง ไม่โกหก ไม่อยากเป็นใหญ่ แต่ประเทศไทยต้องไปต่อ

วันที่ 9 มกราคม 2566 ที่ศูนยการประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จัดขึ้นที่ Exhibition Hall 1 -2 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรรและรมว.กลาโหม ขึ้นกล่าวบน เวทีประชุมใหญ่วิสามัญพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) หลังจากสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติตลอดชีพ ถึง Mission และ ทิศทางก้าวต่อไป เพื่อคนไทยทั้งชาติ ต่อผู้ร่วมงานกว่า 1 หมื่นคน ว่า ขอขอบคุณด้วยใจจริง เดินมาท่ามกลางหัวใจดวงเดียวกัน พวกเราคือคนไทยหัวใจเดียวกัน ทุกภาค ทุกกลุ่ม ทุกฝ่ายในฐานะที่เราเป็นคนไทยด้วยกัน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรก และเป็นครั้งแรกในชีวิตของผมในการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองและพรรคการเมืองที่ผมตัดสินใจในครั้งนี้ คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ทุกท่านคงคุ้นเคยกับผมแล้ว เพราะผมอยู่มาหลายปีแล้ว คงจำหน้าได้ ยังไงผมก็ลบภาพลักษณ์ไม่ได้ เพราะผมเป็นทหารมาตลอดชีวิต แต่ผมก็ปรับตัวมาตลอดทุกปี ๆ ที่ผ่านมา ปรับตัวเพราะรู้ว่าทุกคน ที่นายกฯมีวันนี้ได้เพราะพวกเรา เพราะเรา คือ ประเทศไทย ประเทศไทย คือ แผ่นดินที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ เราเกิดที่นี่ หากินที่นี่ บางท่านก็ต้องอยู่ที่นี่ บางท่านก็ไม่ได้อยู่ แต่สิ่งสำคัญที่สุด เราต้องดำรงรักษาแผ่นดินผืนนี้เอาไว้ให้นานที่สุด มากที่สุด

“วันนี้ดีใจ ตื้นตันใจ ผมไม่เคยตื่นเต้นกับอะไรมาก่อนเลย สารภาพจริง ๆ ผมตื่นเต้น ปกติผมไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว ผมเป็นทหารมาตลอดชีวิต ผมจะกลัวได้ไง ผมกลัวความรักที่ได้รับจากท่าน ความรักที่ผมให้กับท่าน มันจะเพียงพอกันไหม เพราะผมรักทุกคนจริง ๆ เพราะเราทุกคนเป็นเจ้าของแผ่นดินผืนนี้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว และว่า ตนเป็นทหารมาทั้งชีวิต ตั้งแต่เด็กจนโต เกิดในค่ายทหาร พ่อเป็นทหาร แม่เป็นครู ได้รับการสั่งสอนแบบนี้มาโดยตลอด เติบโตมาในกองทัพตั้งแต่เป็นทหารชั้นผู้น้อย นายทหารชั้นผู้ใหญ่ วันนี้ก็เดินหน้ามาบริหารประเทศ หลายอย่างอาจจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ผมยืนยันว่าผมทำเพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศทั้งสิ้น สำคัญที่สุดเราต้องยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นี่คือหัวใจของคนไทยทั้งชาติ สถาบันเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน

“ผมเป็นทหารมาทั้งชีวิต ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่รู้กี่ครั้ง สั่งสอนมาจะต้องซื่อสัตย์ สุจริต และผมเคยเป็นทหารกรม 21 รักษาพระองค์ จะมีเครื่องหมายอยู่อันหนึ่งที่ติดหน้าอกของเราอยู่เสมอ คือ ทหารเสือ เครื่องหมาย ถ้าท่านไปดูจะมีเสือ 2 ตัว เรามีหัวใจอยู่ตรงกลาง ทำไมหัวใจอันนั้นเป็นสีม่วง ทำไมไม่เป็นสีแดง เพราะผู้บังคับบัญชาต้องมีหัวใจแห่งความซื่อสัตย”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ความหมายของหัวใจสีม่วง คือ หัวใจของคนที่ใกล้ตาย ต้องไม่โกหก ต้องสุจริต เพราะฉะนั้นคนใกล้ตายก็ไม่โกหก แต่ไม่รู้วันนี้เปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ (หัวเราะ) วันนี้ที่มา ความมุ่งหมายของผมก็ คือ มีพบท่าน เพื่อจะดูว่า เรายังคงรักกันเหมือนเดิมไหม (ยิ้ม) ผมก็ได้คำตอบ ในห้องนี้ก็เยอะ ผมไม่เคยเจอคนเยอะอย่างนี้ ในสถานที่เดียวกัน แต่วันนี้ถือว่าทุกคนมาด้วยใจ หัวใจเป็นสิ่งที่แสดงออกให้เห็นความรัก ถ้าคนไม่รักกันมันเจอกันไม่ได้อยู่แล้ว ถึงท่านไม่เจอผม ผมก็เจอท่าน

“วันนี้ที่ผมมาผมจะบอกว่า ทำไมผมต้องอยู่ ทำไมผมต้องมายืนตรงนี้ คำนิยมของผมก็คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน ทหารทุกคนต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ทุกโอกาส ติดตัวผมมาในวันนี้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว และว่า “การที่ผมมาวันนี้ หลายคนสงสัยว่าผมมาทำไม เพราะอยากเป็นหรือไง อยากเป็นอะไรต่อหรือเปล่า ไม่ได้ผมอยากเป็นใหญ่ อยากมีอำนาจ อำนาจผมมีมาเยอะแล้ว อำนาจผมมีมาทั้งชีวิตของผม หน้าที่ราชการของผม เพราะฉะนั้นอำนาจจะมาพร้อมความรับผิดชอบ ใช้อำนาจให้ถูกต้อง เป็นธรรม เป็นตามกระบวนการ ทุกอย่างก็จะเดินหน้ามาได้ด้วยดี ที่มาในวันนี้ไม่ได้อยากเป็น ไม่อยากเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ไม่อยากจะได้ผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น ผมยืนยันไม่เคยรับผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ที่มายืนตรงนี้ เพราะผมเคารพในกระบวนการประชาธิปไตยของประเทศไทย ที่มา ไม่ได้อยากอยู่ต่อ แต่ประเทศไทยต้องไปต่อ บนพื้นฐานของความมีเสถียรภาพ ความมั่นคง เพื่อไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองในอนาคตอันใกล้นี้ให้เร็วที่สุด ปัญหาผมอยู่มาหลายปี ผมทราบ แก้มาอย่างต่อเนื่อง มันมากจริง ๆ ๆ เพราะฉะนั้น ถ้าผมมีโอกาสก็จะทำ แก้ปัญหาต่อไปให้ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ผมจึงตัดสินใจมาการเมือง เพื่อเดินหน้าไปสู่กระบวนการประชาธิปไตย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ประเทศไทยต้องไปต่อด้วยความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ผมคิดแล้วคิดอีกหลายเดือนและตัดสินใจแน่นอน ถ้ารู้แบบนี้มานานแล้ว ผมไม่แน่ใจจะมีคนรักเหลือให้ผมอยู่หรือเปล่า อย่าเป็นคนขี้เบื่อเร็วนัก เหมือนครอบครัวเดียวกัน ถึงวันนี้บอกแก่ไปแล้วไม่ได้ ยิ่งแก้ก็ยิ่งรัก มากขึ้น ๆ ทุกวัน และ ที่มายืนอยู่ตรงนี้ เพราะอุดมการณ์ตรงกัน รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงตัดสินใจมาอยู่ตรงกนี้ ถึงจะเหนื่อย จะเครียด เพื่อทำสิ่งที่ดีกว่า ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้ Kick off Moment รวมใจ รวมไทยสร้างชาติ พร้อมกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคและทีมผู้บริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ.