‘DIP–อย.’ ผนึกกำลังผลักดันผลิตภัณฑ์สุขภาพมุ่งเป้า ใช้ข้อมูลสิทธิบัตรยกระดับนวัตกรรมไทยบุกตลาดโลก

อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาหารือเลขาธิการ อย. เดินหน้าความร่วมมือภายใต้ MOU เพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศด้านสุขภาพไทย ผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูลสิทธิบัตรและการขึ้นทะเบียนยาอย่างไร้รอยต่อ เพิ่มความแม่นยำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพแบบมุ่งเป้า รองรับสังคมสูงวัยและความท้าทายด้านสุขภาพยุคใหม่ พร้อมเร่งผลักดันนวัตกรรมสู่เชิงพาณิชย์ด้วยบริการ Fast Track การอบรมสืบค้นสิทธิบัตร และระบบแจ้งเตือนสิทธิบัตรหมดอายุ มุ่งสร้างความเชื่อมั่นและศักยภาพแข่งขันของผู้ประกอบการไทยบนเวทีสากล

​​นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้การต้อนรับเภสัชกรหญิง สุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และคณะ เพื่อหารือการดำเนินงานร่วมกันภายใต้ MOU ว่าด้วยการเสริมสร้างศักยภาพด้านสิทธิบัตรและการกำกับดูแล เพื่อยกระดับระบบนิเวศด้านสุขภาพไทยด้วยทรัพย์สินทางปัญญา โดยการแลกเปลี่ยนข้อมูลผลิตภัณฑ์ยาและสิทธิบัตรอย่างไร้รอยต่อ มุ่งใช้ประโยชน์ระบบแจ้งเตือนสิทธิบัตรที่ใกล้หมดอายุและบทวิเคราะห์แนวโน้มเทคโนโลยี เตรียมพร้อมต่อยอดนวัตกรรมสู่สินค้าศักยภาพสูงที่ตอบโจทย์ความท้าทายในยุคปัจจุบัน

​​นางอรมน เปิดเผยว่า กรมฯ และ อย. มีเป้าหมายร่วมกันที่จะส่งเสริมนวัตกรรมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพของไทย โดยเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 ทั้งสองหน่วยงานได้ลงนามความร่วมมือภายใต้ MOU ว่าด้วยการเสริมสร้างศักยภาพด้านสิทธิบัตรและการกำกับดูแล เพื่อเดินหน้าบูรณาการการทำงานร่วมกัน โดยมุ่งเน้นการนำสิทธิบัตรยาไปต่อยอดเชิงพาณิชย์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และผลักดันการใช้ประโยชน์จากข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพของไทยให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด รองรับสังคมผู้สูงอายุและความท้าทายด้านสุขภาพ เช่น การป้องกันโรคอุบัติใหม่ ปัญหามลพิษและฝุ่น PM2.5 เป็นต้น ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญาจะสนับสนุนการเข้าถึงข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาเชิงลึกที่ครบถ้วนและทันสมัย ขณะที่ อย. จะส่งเสริมองค์ความรู้ด้านการกำกับดูแลและการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ยามุ่งเป้าที่จำเป็นต่อการรักษาโรคสำคัญ รวมถึงยาที่มีมูลค่าสูงและมีความสำคัญต่อระบบสาธารณสุขของไทย

​​นางอรมน เสริมว่า การบูรณาการข้อมูลและกระบวนการทำงานร่วมกันจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงบริการของทั้งสองหน่วยงานได้อย่างรวดเร็ว มีความมั่นใจในการลงทุน และต่อยอดนวัตกรรมสู่เชิงพาณิชย์ได้จริง นอกจากนี้ สองหน่วยงานมีความร่วมมือด้านเทคนิคและวิชาการ เช่น การสนับสนุนการจดทะเบียนสิทธิบัตร อนุสิทธิบัตร หรือเครื่องหมายการค้า ที่เกี่ยวกับยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพอย่างรวดเร็วผ่านบริการ Fast Track ของกรมฯ การแลกเปลี่ยนข้อมูลการขึ้นทะเบียนยาและข้อมูลการจดสิทธิบัตร และการอบรมพัฒนาทักษะผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมด้านสุขภาพเพื่อใช้ประโยชน์จากข้อมูลอย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่โปร่งใส เป็นธรรมและสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล โดยมีแผนดำเนินงานในปี 2569 เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลการขึ้นทะเบียนยาและการจดสิทธิบัตร การอบรมสืบค้นข้อมูลสิทธิบัตรทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ และการใช้งานระบบแจ้งเตือนสิทธิบัตรที่หมดอายุและใกล้หมดอายุความคุ้มครอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการต่อยอดงานวิจัยและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมดังกล่าว โดยเริ่มจากผลิตภัณฑ์ยาเป็นผลิตภัณฑ์นำร่อง และอาจขยายไปยังผลิตภัณฑ์อื่นภายใต้การกำกับดูแลของ อย. ในอนาคต ทั้งนี้ ยังมีการหารือความร่วมมือในการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ของสินค้าอาหารที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ให้มีคุณภาพและปลอดภัย

​​นางอรมน กล่าวทิ้งท้ายว่า ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงการแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือเสริมสร้างองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น แต่ยังเป็นการติดอาวุธให้ผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สุขภาพของไทย ให้สามารถค้นคว้าวิจัย คุ้มครองสิทธิ และต่อยอดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเข้าสู่ตลาดในประเทศและต่างประเทศได้อย่างเข้มแข็ง ซึ่งจะช่วยยกระดับการพัฒนานวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศให้พร้อมก้าวสู่สนามแข่งขันในเวทีเศรษฐกิจยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password