เงินสกปรกจากธุรกิจสีเทายันดำ กำลังแทรกซึมทุกระบบของรัฐไทย จาก…สแกมเมอร์ สู่ สนามเลือกตั้ง? หากรัฐไม่ใช้เครื่องมือทางการเงินขั้นสูง “สรรพากร – แบงก์ชาติ” ตรวจสอบ “เส้นเงิน” จัดการ “ทุนเทา” ก่อนจะฝังรากลึกในระบบการเงินและสังคมไทย ประเทศไทย…อาจ “ถูกซื้อ” ด้วยเงินผิดกฎหมายทั้งระบบ เกมนี้…ไม่ใช่แค่ “ศึกเศรษฐกิจ แต่คือ…“ศึกชี้ชะตาอธิปไตย” และ “ศักดิ์ศรีของชาติ”

“เงินที่ไม่สะอาด ฟอกอย่างไรก็ยังดำ” คำพูดจากปากของคนเป็น “ผู้นำประเทศ” นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ที่กล่าวระหว่างตรวจเยี่ยมและให้นโยบายแก่ ฝ่ายบริหารและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เมื่อวานนี้ (3 พ.ย.2568)

สิ่งนี้…สะท้อนสถานการณ์ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาด้านลบในทุกมิติ จาก “ทุนเทา/ดำ” และ “เงินสกปรก” จากเครือข่ายอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ที่วันนี้…ได้ขยายอิทธิพลจาก โลกออนไลน์ สู่ระบบเศรษฐกิจจริง และกำลังเคลื่อนเข้าสู่ถนนการเมืองอย่างเป็นรูปธรรม!!!

นายกฯอนุทิน กล่าวในวงประชุมฯ ระหว่างตรวจเยี่ยมฯ ว่า ปปง.ในฐานะหน่วยงานขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี ต้องเร่งดำเนินการอย่างเฉียบขาด! ในการจัดการปัญหาสแกมเมอร์และอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ

นาทีนี้ ประเทศไทย…ได้รับแรงกดดัน! จากทั้ง ประชาชนและประชาคมนานาชาติเพิ่มสูงมาก!!!

หากประเทศไทย ยังไร้มาตรการชัดเจน ไม่เพียงถูกตราหน้า ว่า “ล้มเหลว” แต่ยังเสี่ยงต่อการถูก “แซงก์ชั่น” จากต่างประเทศ

อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจโดยรวมของชาติ!!!

ในอีกฟากของสภาผู้แทนราษฎร… นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน เตือนก่อนหน้านี้ ว่า…ทุนเทาได้เริ่มเปลี่ยนสนามการเมืองไทย ให้กลายเป็น…เครื่องมือฟอกอำนาจ???

เงินผิดกฎหมายจำนวนมหาศาล!…จากธุรกิจสกปรก เช่น การพนันออนไลน์ ค้ามนุษย์ และยาเสพติด ถูกนำมาใช้…สนับสนุนนักการเมืองบางกลุ่ม? เพื่อแลกกับ “ร่มคุ้มกันทางกฎหมาย” และ “สิทธิประโยชน์ทางนโยบาย”

หากปล่อยไว้!…โดยไม่มีระบบตรวจสอบเข้มข้น การเลือกตั้งครั้งหน้า อาจไม่ใช่…ศึกของพรรคสีส้ม สีแดง หรือสีน้ำเงิน อีกต่อไป

แต่จะเป็น…ศึกของ “สีดำ” ที่มาพร้อมอิทธิพลเงินมืด!!!

แรงกดดันทางการเมืองนี้ ผลักให้ “รัฐบาลอนุทิน” ต้องขยับอย่างจริงจัง! ล่าสุด นายกฯอนุทิน ได้หารือแนวทาง “ตรวจสอบเชิงลึกของเส้นทางเงินทุนเทา” โดยวางแนวคิดใช้…เครือข่ายหน่วยงานด้านการเงินของรัฐ ทั้ง กรมสรรพากร และ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็น “แนวหน้า” เชื่อมข้อมูลกับ ปปง. เพื่อไล่ตรวจสอบ…

“เส้นทางเงิน…ผิดปกติ!” ในระบบภาษีและธุรกรรมข้ามชาติ!!??

แนวทางดังกล่าว สอดคล้องกับ “โมเดล” ของรัฐบาลเกาหลีใต้ ซึ่งประสบความสำเร็จ…จากการใช้ “กรมสรรพากร” ตรวจสอบบัญชีและภาษีของเครือข่ายสแกมเมอร์ โดยเฉพาะ ฮุย วัน และ ปริ๊นซ์ กรุ๊ป 2 กลุ่มธุรกิจสีเทาจากกัมพูชา

ก่อนสั่ง “อายัดทรัพย์” และส่งต่อให้ ตำรวจการเงิน (FIU) ดำเนินคดี…

แม้ในประเทศไทย…จะยังไม่มีการประกาศนโยบายลักษณะนี้อย่างเป็นทางการ แต่สัญญาณจาก ฝ่ายเศรษฐกิจเริ่มชัดขึ้น! เมื่อ นายเอกนิติ นิติธนานุการ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้หารือในเบื้องต้น กับ น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร ถึงแนวทาง….

การใช้ระบบภาษี มาเพื่อสกัดการ “ฟอกเงิน!!!”

โดยเตรียมวาง “ฐานข้อมูล” ร่วมกับ ปปง. และ ธปท. เพื่อให้สามารถตรวจสอบธุรกรรมต้องสงสัยแบบเรียลไทม์

ภายใต้ ยุทธศาสตร์ใหม่ นี้ “รัฐบาลอนุทิน” กำลัวถูกจับตาจากทุกภาคส่วนของสังคมไทย ว่า…จะสามารถใช้ “เครื่องมือทางภาษีและการเงิน” เป็นอาวุธหลักได้จริงเพียงใด???

หากทำได้…สิ่งนี้ จะเป็นการ “เปลี่ยนระบบ!” จาก “ปราบย้อนหลัง” ไปสู่ “สกัดล่วงหน้า” เพื่อ “ปิดทางเงินดำ” ก่อนจะ “ฟอก” จนขาว

ตัดวงจรเชื่อมโยงระหว่าง…ทุนเทากับนักการเมือง!!??

กระนั้น “ช่องว่าง” เชิงระบบ…ยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่??? ข้อมูลระหว่างหน่วยงาน…ยังไม่เชื่อมโยงเต็มรูปแบบ!!!

การรายงานธุรกรรมต้องสงสัย? ยังต้องผ่านกระบวนการหลายชั้น และเพราะความกลัว “แรงเสียดทานทางการเมือง” ของผู้บริหารบางองค์กร?

อาจทำให้…บางกรณี? เกิดการชะงักงันกลางทาง!!!

ประเทศไทย…จึงต้อง “ยกระดับ” แนวป้องกันเชิงยุทธศาสตร์ให้ครบวงจร! ตั้งแต่…

การปรับกฎหมายพรรคการเมือง ให้เปิดเผยรายชื่อผู้บริจาคและแหล่งเงินทุน

การให้ธนาคารแจ้งธุรกรรมผิดปกติแบบทันเวลา

และ การสร้างระบบข้อมูลสาธารณะ (Open Data) เพื่อให้สังคมตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส

ที่สุด! การ “สกัดทุนเทา”  ไม่ใช่เพียง…หน้าที่ของรัฐบาล หรือหน่วยงานภาษี และ/หรือ การเงิน

แต่คือ… ภารกิจร่วมของทุกภาคส่วน!!??

เพราะ “อธิปไตยของประเทศ…ไม่ได้หายไป! เพราะ…ศึกภายนอก แต่มัก “ถูกขาย” ด้วยเงินสกปรกจากภายใน” เสียมากกว่า…

หาก “รัฐบาลอนุทิน” ยังคงเฉื่อยชาและทำงานล่าช้า? ปล่อยให้ “เงินดำ-เงินเทา” ซื้อเสียง และซื้ออำนาจได้โดยไม่มีการตรวจสอบ อย่างลงลึกและจริงจัง…

สักวันหนึ่ง…ประเทศไทยอาจไม่ต้องถูกต่างชาติ “ยึดครอง” ด้วยกำลัง???… เพราะคนไทยเราได้ “ขายตัว” ผ่านการซื้อสิทธิ์…ขายเสียงในการเลือกตั้งครั้งใหม่ ให้กับ…คนในเครือข่ายธุรกิจสกปรก เจ้าของ “เงินดำ-เงินเทา” ด้วยตัวของเราเองแล้ว.