‘ศุภจี’ จับมือ ‘ทูตเปรู’ กระชับร่วมมือ ‘เศรษฐกิจ–การค้า’ เร่งสรุป FTA 2 ชาติ จบ! ในปีนี้

เอกอัครราชทูต เข้าพบและหารือ ร่วม รมว.พาณิชย์และคณะฯ ประกาศเดินหน้ากระชับความร่วมมือเศรษฐกิจ–การค้า ย้ำ! 2 ชาติพร้อมเร่งสรุป FTA ไทย–เปรู ฉบับสมบูรณ์ ภายในปี 2568 นี้ เผย! เปรูเปิดท่าเรือ แห่งใหม่ หวังขึ้นเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของอเมริกาใต้ พร้อมชวนธุรกิจไทยขยายตลาดสินค้าในลาตินอเมริกา ผ่านท่าเรือแห่งนี้

เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2568 ที่ผ่านมา นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ พร้อมด้วย คณะผู้บริหารของกระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกันให้การต้อนรับ น.ส.เซซิเลีย ซูนิลดา กาลาร์เรตา บาซัน (H.E. Ms. Cecilia Zunilda Galarreta Bazán) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเปรูประจำประเทศไทย ณ กระทรวงพาณิชย์ ในโอกาสเข้าพบเพื่อหารือแนวทางเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างไทย–เปรู พร้อมยืนยัน ความมุ่งมั่นร่วมกันของทั้งสองฝ่ายในการเร่งรัดการเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย–เปรู ให้สามารถสรุปผลในสาระสำคัญภายในสิ้นปี 2568

นางศุภจี เปิดเผยว่า ไทยและเปรูมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นมายาวนานกว่า 60 ปี และต่างมี ศักยภาพสูงในการเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจ โดยการปรับปรุงและยกระดับความตกลงทางการค้าที่ลงนามไว้กว่า 20 ปีให้ทันสมัย จะช่วยเปิดโอกาสทางการค้าและการลงทุนใหม่ ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการทั้งสองประเทศ ทั้งในด้าน สินค้าเกษตร อาหารแปรรูป ยานยนต์ เครื่องจักร และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ พร้อมทั้ง การเสริมสร้างความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทาน และการขนส่งสินค้าระหว่างเอเชียกับอเมริกาใต้ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

รมว.พาณิชย์ กล่าวอีกว่า เอกอัครราชทูตเปรูฯ ได้ชื่นชมไทยที่ให้ความสำคัญต่อการสานต่อความร่วมมือและขับเคลื่อนการเจรจา FTA อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เปรูยังแจ้งว่า มีความพร้อมในด้านเศรษฐกิจ การค้าและโครงสร้างพื้นฐาน และเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเปรูได้ เปิดท่าเรือชานไค (Port of Chancay) เมื่อเดือน พ.ย.2567 ซึ่ง เปรูได้วางเป้าหมายให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของอเมริกาใต้ และเพิ่มปริมาณการนำเข้า-ส่งออก ระหว่างเอเชียและอเมริกาใต้ให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังเป็นการ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยขยายตลาดไปสู่อเมริกาใต้ได้สะดวกมากขึ้น

ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะขยายความร่วมมือผ่านกิจกรรมส่งเสริมการค้าและการลงทุนร่วมกัน อาทิ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติในไทย เช่น Bangkok Gems & Jewelry, THAIFEX–Anuga Asia, THAIFEX-HOREC ASIA กิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจ

รวมทั้ง การขยายความร่วมมือในมิติอื่น นอกเหนือจากการค้า ไม่ว่าจะเป็น…การส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว วัฒนธรรม อาหาร และแฟชั่น รวมถึงการส่งเสริมร้านอาหารไทยผ่าน Thai Select เพื่อเชื่อมโยงประชาชนของทั้งสองประเทศให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น พร้อมย้ำเจตนารมณ์ที่จะ ผลักดันให้ “ไทย–เปรู” ก้าวสู่การเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและสมดุลในอนาคต

สำหรับ การค้าไทย-เปรู ในช่วง ม.ค.-ส.ค. 2568 พบว่า…เปรูเป็นคู่ค้าอันดับที่ 61 ของไทย (ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 28 ของเปรู) มีมูลค่าการค้ารวม 362.49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (12,024.55 ล้านบาท) ไทยได้ดุลการค้าคิดเป็นมูลค่า 189.91 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (6,265.41 ล้านบาท) โดย ส่งออกไปเปรูเป็นมูลค่า 276.20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (9,144.98 ล้านบาท) สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และเครื่องซักผ้าและเครื่องซักแห้งและส่วนประกอบ ขณะที่ ไทยนำเข้าจากเปรูเป็นมูลค่า 86.29 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2,879.57 ล้านบาท) สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็งแปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ และผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้ อาทิ บลูเบอร์รี.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password