กรมศุลกากรจัดกิจกรรม Customs Press Tour 2025 นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมการดำเนินงานคลังสินค้าทัณฑ์บน พร้อมเยี่ยมชมการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร ของ “เอ็นเอ็มบี-มินีแบ” จ.อยุธยา เผย! 43 ปีในไทย กับโรงงาน 10 แห่งใน 5 จังหวัด ด้วยเงินลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท จ้างพนักงานรวม 3 หมื่นคน มั่นใจ! ช่วยหนุนส่งออกและเพิ่มขีดความสามารถไทยบนเวทีการค้าโลก

วันนี้ (28 สิงหาคม 2568) นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร มอบหมายให้ นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมศุลกากร นำคณะสื่อมวลชนเข้าร่วมกิจกรรม “เชื่อมความสัมพันธ์และพัฒนาศักยภาพการดำเนินงานของกรมศุลกากรและสื่อมวลชน (Customs Press Tour 2025)” โดยได้เข้าเยี่ยมชมกระบวนการดำเนินงานทางศุลกากรใน บริษัท เอ็นเอ็มบี-มินีแบ ไทย จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา บริษัทดังกล่าวเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ใช้ สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร คลังสินค้าทัณฑ์บน ประเภทโรงผลิตสินค้า ซึ่งนำเข้าสินค้าเพื่อผลิต ผสม ประกอบ ตลับลูกปืนและชิ้นส่วนเครื่องจักรกลต่าง ๆ โดยได้รับการยกเว้นอากรขาเข้าและขาออก เมื่อสินค้านั้นถูกส่งออกนอกราชอาณาจักร ทั้งในสภาพเดิมหรือหลังผ่านกระบวนการผลิต

นายยุทธนา กล่าวว่า สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ โดยส่วนบริการศุลกากรอยุธยา มีหน้าที่ควบคุมดูแลการดำเนินงานด้านศุลกากรในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เช่น นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) สวนอุตสาหกรรมโรจนะ และนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน รวมถึง พื้นที่คลังสินค้าทัณฑ์บนและเขตปลอดอากร ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนการส่งออกของประเทศ

สำหรับ สิทธิประโยชน์ของคลังสินค้าทัณฑ์บน เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถนำเข้าสินค้ามาเก็บไว้ในคลังสินค้าทัณฑ์บนได้ถึง 2 ปี และขยายเวลาได้อีก 1 ปี โดยมี หน่วยงานศุลกากรคอยกำกับดูแลการขนย้าย การเก็บรักษา และการตรวจสอบให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งการใช้สิทธิประโยชน์นี้ช่วยลดต้นทุนด้านภาษีนำเข้า เพิ่มความยืดหยุ่นในการวางแผนการผลิต และสามารถใช้ร่วมกับสิทธิประโยชน์ จาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (Board of Investment: BOI) ได้ นอกจากนี้ ยังสามารถโอนสินค้าระหว่างคลังสินค้าทัณฑ์บน เขตปลอดอากร หรือจำหน่ายไปยังสิทธิประโยชน์อื่นได้โดยได้รับยกเว้นอากร ซึ่งเพิ่มช่องทางและโอกาสในการดำเนินธุรกิจในระดับสากล

รองอธิบดีกรมศุลกากร ย้ำว่า การใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรจากคลังสินค้าทัณฑ์บน ไม่เพียงเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ แต่ยังส่งผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจระดับประเทศ ทั้งในด้าน การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ การจ้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อม สร้างรายได้และเพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีให้กับคนในชุมชน และการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ในฐานะ ศูนย์กลางการผลิตคุณภาพสูงของภูมิภาค

“กรมศุลกากร เชื่อมั่นว่า ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและสื่อมวลชนผ่านกิจกรรม Customs Press Tour เช่นนี้จะช่วยให้เกิดความเข้าใจและสนับสนุนการสื่อสารเชิงสร้างสรรค์ต่อสาธารณะ พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเติบโตบนเส้นทางเศรษฐกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายยุทธนา ระบุ

ด้าน Mr. Yusihiro kSahanushi President of NMB Minebea Thailand Ltd., General Manager of Regional Affairs for South East Asia and India of MinebeaMitsumi Inc. กล่าวว่า บริษัท มินีแบมิตซูมิ จำกัด ได้ก่อตั้งขึ้นแห่งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น ในปี 2494  ในฐานะ ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตตลับลูกปืนขนาดเล็ก (Miniature Ball Bearing) และได้ขยายกิจการโดยเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2525 จากการขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลา 43 ปีของกลุ่มบริษัท มินีแบมิตซูมิ (ประเทศไทย) ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มบริษัทฯ

ปัจจุบัน บริษัทฯมีโรงงานผลิตรวม 10 แห่ง ที่ตั้งอยู่ใน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มี 5 แห่ง จังหวัดลพบุรี 1 แห่ง จังหวัดปทุมธานี 1 แห่ง จังหวัดชลบุรี 2 แห่ง และ จังหวัดระยอง อีก 1 แห่ง โดยคิดเป็นเงินลงทุนรวมทั้งสิ้นกว่า 1 แสนล้านบาท และมีพนักงานรวมทั้งสิ้นประมาณ 30,000 คน  

“กลุ่มบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ ด้วยความโปร่งใส สอดคล้องกับกฎหมายศุลกากร และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนให้ความสำคัญกับมาตรฐานด้านคุณภาพ ความปลอดภัย ความรับผิดชอบต่อสังคม” Mr. Yoshihiro กล่าวและย้ำว่า…

บริษัท เอ็นเอ็มบี-มินีแบ ไทย จำกัด ใช้สิทธิประโยชน์ของกรมศุลกากร (Customs incentive ) ภายใต้การจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บน ประเภทโรงผลิต โดยมี 3 โรงงาน คือ โรงงานอยุธยา โรงงานบางปะอิน และโรงงานลพบุรี ภายใต้การผลิตผลิตภัณฑ์ตลับลูกปืน

นอกจากการผลิตผลิตภัณฑ์ตลับลูกปืนแล้ว บริษัทฯยังผลิตชิ้นส่วน หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วน สำหรับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์ ชิ้นส่วนสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์ เครื่องจักร หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนยานพาหนะ และชิ้นส่วนสำหรับอากาศยาน โดยได้รับสิทธิและประโยชน์ต่างๆ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุนของประเทศไทย

อีกทั้ง บริษัทฯ ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง และให้ความสำคัญกับการสร้างงาน และพัฒนาทรัพยากรบุคคลของไทย โดยมีการจ้างงานสะสมรวมแล้วกว่า 300,000 คน และมีแผนขยายการลงทุนต่อเนื่อง  

“ในโอกาสนี้ บริษัท เอ็นเอ็มบี – มินีแบ ไทย จำกัด ขอขอบคุณหน่วยงานภาครัฐ ที่มีส่วนสนับสนุนให้กลุ่มบริษัท มินีแบมิตซูมิ เติบโต และดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างยั่งยืน” Mr. Yoshihiro กล่าวปิดท้าย.