ไทยดึงเกมแก้กฎหมายลดภาษีนำเข้า 0% จากสหรัฐฯกว่า 1 หมื่นรายการ เผย! เร็วสุดก็ต้อง 90 วัน ด้าน รองอธิบดีกรมศุลกากร ยอมรับ! ข้อตกลงภาษีทรัมป์ ทำไทยสูญรายได้ปีละ 8 พันล้านบาท ส่วนปม “ปิดด่าน” พรมแดนกัมพูชาไม่กระทบรายได้รัฐ เหตุมีต่ำกว่ามากแค่ 300 ล้านบาทต่อปี ระบุ! ภาพรวมจัดเก็บรายได้ปี 2568 หายไปกว่า 1 แสนล้านบาท เหตุจากภาวะเศรษฐกิจและรายได้ภาษีรถยนต์ต่ำลงมาก

นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมศุลกากร ให้สัมภาษณ์กรณีรัฐบาลไทยจะต้องดำเนินการตามเงื่อนไขข้อตกลงกับรัฐบาลสหรัฐฯ กรณีการปรับอัตราภาษีนำเข้าสินค้าลดจากร้อยละ 40 เหลือร้อยละ 19 โดยเฉพาะในฝั่งนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯเหลือร้อยละ 0 ว่า ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรมศุลกากรนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างแก้ไขกฎหมายตามประกาศกระทรวงการคลัง และจัดทำระบบอิเล็กทรอนิกส์คอมพิวเตอร์เพื่อรีเฟล็กซ์อัตราอากรภาษี (มาตรการตอบโต้ทางภาษีแบบอัตโนมัติ) กับสหรัฐ เพื่ออำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รองรับการปรับลดอัตราภาษีศุลกากรนำเข้าให้กับสหรัฐในอัตรา 0% สำหรับสินค้าประมาณ 1 หมื่นรายการ โดยให้เป็นไปตามข้อตกลงนโยบายภาษีตอบโต้ของประเทศสหรัฐ

“เบื้องต้นเราประเมินว่า ในปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลคาดว่าจะสูญเสียรายได้จากการลดภาษีดังกล่าว 8,000 ล้านบาท จากปัจจุบัน ที่กรมฯเคยจัดเก็บรายได้ภาษีนำเข้าจากสหรัฐเฉลี่ยปีละ 20,000 ล้านบาท” รองอธิบดีกรมศุลกากร กล่าวและว่า…

ประเทศไทยยังไม่ได้เริ่มลดภาษีให้สหรัฐ ต้องรอให้กฎหมายเสร็จก่อนคาดว่ากฎหมายจะเสร็จภายใน 90 วันแ ละต้องนำกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรด้วย โดยจะต้องดูที่ร่างข้อตกลงร่วมระหว่างไทยกับสหรัฐ ว่าที่ผ่านมาเราได้ตกลงอะไรไปแล้วบ้าง จึงจะนำรายละเอียดมาจัดทำร่างประกาศกระทรวงการคลัง

ส่วนเรื่องการใช้ชิ้นส่วนการผลิตในประเทศ (Local content) ปัจจุบันกำหนดสัดส่วนวัตถุดิบในประเทศที่ 40% ทั้งนี้ ทางสหรัฐขอให้ไทยปรับเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วน 50% ซึ่งไทยเองคงต้องรับเงื่อนไขนี้ และเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อภาคการผลิตของไทยเอง อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการคงจะต้องเร่งปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการประสานผู้ผลิตให้เตรียมตัวรับมือเพิ่มสัดส่วน Local content และสุดท้ายจะเป็นผลดีระยะยาวต่อผู้ผลิต และเศรษฐกิจในประเทศ

นายยุทธนา ยังกล่าวถึงปัญหาชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุถึงตัวเลขการค้าระหว่าง 2 ประเทศในรอบ 7 เดือนแรกของปีนี้ พบว่า มีปริมาณการค้าลดลงถึงร้อยละ 97.5 อันเป็นผลมาจากการปิดพรมแดนระหว่างกัน กระนั้น ปัญหาดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของกรมฯมากนัก เนื่องจากที่ผ่านมา กรมฯมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีนำเข้าจากกัมพูชาเพียงปีละกว่า 300 ล้านบาท เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการจัดเก็บรายได้ของกรมฯในปีนี้ คาดว่าจะลดลงจากตามเป้าหมายเอกสารงบประมาณราว 1.12 แสนล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาพรวมเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ การจัดเก็บรายได้ภาษีรถยนต์ที่ลดลง เนื่องจากอัตราภาษีของรถยนต์ไฟฟ้าต่ำกว่ารถยนต์สันดาน ท่ามกลางอัตราการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีสูงมาก ทั้งนี้ กรมฯได้ทำเรื่องขอปรับลดประมาณการจัดเก็บรายได้ไปยังกระทรวงการคลัง ส่วนในปีงบประมาณ 2569 ยังไม่ปรับเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ คงต้องรอดูสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจต่อไป.