ไทย…ฉากทัศน์ ‘ไฟสงคราม!’

หากการวิเคราะห์ของ “บิ๊กตี๋” พล.อ. รังษี กิติญาณทรัพย์  กับแผน “5 ชาติ : จีน – รัสเซีย – เกาหลีเหนือ – เวียดนาม – ลาว” ร่วมซ้อมรบ ก่อนเปิดฉาก…ก่อไฟสงครามสั่งสอนเขมร…ถล่มคนทรยศ หักหลังจีน ไม่เกิดขึ้นจริง! ก็ดีไป แต่หากสิ่งนี้เกิดขึ้น! ประเทศไทยในฉากทัศน์ไฟสงครามบนแผ่นดินอาเซียน จะวางตัวอย่างไร? ความเป็นกลาง…ท่ามกลางไฟสงครามมีอยู่จริงไหม???

หลายเวทีที่ “บิ๊กตี๋” พล.อ. รังษี กิติญาณทรัพย์ “นายพลนักวิเคราะห์ทางการทหาร” และ “อดีต ผอ.ช่อง 5” ที่ปัจจุบัน…นั่งเก้าอี้ “หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ” มองสถานการณ์ บนแผ่นดินใหญ่ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ในอนาคตอันใกล้…

อาจถึงขั้น…เกิดไฟสงครามใหญ่!!!

โดยมี กัมพูชา ภายใต้การนำของ “2 พ่อลูกตระกูลฮุน” เป็นผู้จุดไฟ??? ด้วยการดึงเอา…สหรัฐอเมริกา เข้ามาท้าทายกับอีกฟากฝั่ง

ทว่ารอบนี้…อาจไม่ใช่แค่จีน??? เพราะพันธมิตร อย่าง…รัสเซีย ที่มีสัมพันธ์อันดี ทั้งกับ จีนและเวียดนาม รวมถึง เกาหลีเหนือ ตามคำเชิญของ “พญามังกร” จะเข้ามาร่วม “ซ้อมรบ!” บนแผ่นดินของ สปป.ลาว ร่วมกับ…จีน รัสเซีย และเวียดนาม…รวมเป็น “5 ชาติ”

เป้าหมายคือ ปรับกลยุทธ์และแผนการทางการทหาร เพื่อหวัง “ตบหัว” ทั้ง นายฮุน เซน และนายฮุน มาเนต

กับ ข้อหาฉกรรจ์!!! ที่ฝั่งจีนมองเห็นจาก กัมพูชาและ “2 พ่อลูกฯ” นั่นคือ การเป็น…คนทรยศ หักหลัง เลี้ยงไม่เชื่อง กลับกลอก แว้งกัด เอาแน่เอานอนไม่ได้ เพราะจะเอาแต่ผลประโยชน์ โดยไม่สนโลก!!!

แม้ค่ำคืน…วันที่ 25 สิงหาคม 2568 จะไร้ร่างของ “กองทัพเรือสหรัฐฯ” ที่เคยมีโปรแกรมจะแวะมาจอดที่ “ฐานทัพเรือเรียม” ของกัมพูชา ตามคำเชิญของนายฮุน มาเนต

กระนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ นายสี จิ้นผิง “ผู้นำจีน” คลายความแค้นลงได้

แม้ใน ทางการทูต…จะปรากฏภาพของ “นโรดม สีหมุนี” กษัตริย์กัมพูชา ถ่ายรูปร่วมกับประธานาธิบดี “สีฯ” ในโอกาสเดินทางไปรักษาตัวและถือโอกาสเยี่ยมคำนับ “ผู้นำจีน”

แต่ในทาง การทหารและการเมืองระหว่างประเทศ…แค่ กษัตริย์กัมพูชา มาพบ “ผู้นำจีน” คงไม่ทำให้แผนการใหญ่ของฝั่งจีนและพันธมิตร จำต้องยุติหรือเลิกรากันไป

หากยึดตามการวิเคราะห์ของ “บิ๊กตี๋” แล้ว…การซ้อมรบของ “5 ชาติ” ประกอบด้วย…จีน รัสเซีย เกาหลีเหนือ เวียดนาม และ สปป.ลาว ซึ่งต่างก็มี ระบอบการปกครอง ตามแนวทา“คอมมิวนิสต์” ยังจะต้องเดินหน้ากันต่อไป

หนึ่งเพื่อสกัดกั้นการเข้ามาของสหรัฐฯ เพราะหาก “พญาอินทรีย์” ประกาศใช้กัมพูชา เป็นฐานปฏิบัติการทางการทหารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล่ะก็

เรื่องคงไม่จบง่ายๆ และอาจลุกลามกลายเป็นไฟสงครามใหญ่ ระดับ…สงครามมหาเอเชียบูรพายุคใหม่ (น้องๆ สงครามโลก)

ไหนจะปัญหาเรื่อง “หมู่เกาะ” กลางทะเลจีนใต้ ที่จีนเองก็มีปัญหากับหลายชาติอาเซียน รวมถึงเวียดนามด้วย ไหนจะ ปัญหากับไต้หวัน ที่จีนมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของจีน

ดังนั้น หากสหรัฐฯไม่ยกเลิกแผนการเข้าเทียบท่าฐานทัพเรือเรียม ของกัมพูชา เรื่องนี้…ก็อาจขยายผลไปไกลเกินคาดคิดแน่ๆ

และแม้สหรัฐฯจะ เปลี่ยนใจ…ปรับแผนใหม่??? ล้มเลิกแผนการเดิม เพราะการจะ “เปิดศึก” กับจีนและพันธมิตร ในย่านอาเซียน ถือเป็นความเสียเปรียบอย่างที่สุด! ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่สำคัญ…กัมพูชา มันเล็กและให้ผลประโยชน์น้อยเกินกว่าจะเอา…ประเด็นปัญหาของไต้หวันไปแลก!!!

บริบทความสำคัญ และคุณค่าที่มี…หากจะต้องเสี่ยงกับการจะ “จุดไฟสงคราม” เพียงเพราะประเทศกระจอกๆ อย่าง…กัมพูชา ถือว่า…ไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย

สหรัฐฯเปลี่ยนใจ!!! แต่จีนและพันธมิตรยังคงแผนการเดิม…

เดินหน้า…ร่วมฝึกซ้อมรบของทหาร “5 ชาติ” ซึ่ง “รัสเซีย – สปป.ลาว” เองก็มีแผนจะร่วมซ้อมรบในชื่อ Laros ครั้งใหม่ในช่วงปลายปีนี้ นั่นก็หมายความว่า…หลังเสร็จสิ้นการซ้อมรบร่วมกัน และ อาวุธยุทโธปกรณ์ทางการทหารของรัสเซีย ก็จะยังคงดำรงอยู่บนแผ่นดินลาว…รอบรับภารกิจใหม่

สะท้อนเป้าหมายที่สอง…เพื่อ “สั่งสอน” กัมพูชา และ “2 พ่อลูกตระกูลฮุน” โทษฐาน…

“ทรยศ หักหลัง เลี้ยงไม่เชื่อง กลับกลอก แว้งกัด เอาแน่เอานอนไม่ได้ เพราะจะเอาแต่ผลประโยชน์ โดยไม่สนโลก!!!”

อย่างไรก็ดี การวิเคราะห์ของ “บิ๊กตี๋” ว่าด้วย…แผนฝึกซ้อมรบของทหาร “5 ชาติ” นั้น มี สื่อหลายสำนัก และนักวิเคราะห์การเมือง รวมถึง นักวิชาการหลายคน ต่างมองว่า…สิ่งนี้ ก็แค่เพียงการสร้าง “คอนเทนท์” เรียกแขก…หวังโปรโมท “หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจ” และตัวพรรคการเมืองน้องใหม่ รองรับการเลือกตั้งใหญ่ ที่จะมีในรอบหน้า…

หาได้…เกิดขึ้นจริงไม่???

ถึงบรรทัดนี้…คงง่ายเกินไป!!! หากจะบอกว่า…ข้อมูลเชิงลึกทางการทหารของ “บิ๊กตี๋” ผู้ได้ชื่อว่าเป็น “นายพลนักวิเคราะห์ทางการทหาร” เป็นเพียง…จินตนาการที่ไร้ซึ่งความเป็นจริง!

ระดับคนที่เคยทำงานข่าวเชิงลึกทางการทหาร แถมมี “เส้นสาย” ที่แอบวางไว้ใน กองทัพของบางประเทศ ก็คงไม่อาจจะ “ตัดทิ้ง” มุมมองและประเด็นนี้…ออกไปได้เลย

เอาเป็นว่า…หากฉากทัศน์นี้ ไม่เกิดขึ้น! ก็เป็นเรื่องที่ดีไป แต่หาก จีนและพันธมิตร ประกอบด้วย…รัสเซีย เกาหลีเหนือ เวียดนาม มาร่วมซ้อมรบกันจริงๆ บนแผ่นดินลาว และพร้อมขยายกระทั่งก่อไฟสงครามต่อ…ไปยังกัมพูชา

ประเทศไทย…ที่มีพรมแดนติดกัน!!! จะต้องวางตัวกันอย่างไร???

ผูกติดจีน ทิ้งขว้างสหรัฐฯ ก็ไม่เหมาะ แต่หากจะ หลอมเป็นเนื้อเดียวกับ “พญาอินทรีย์” ไม่คบค้า “พญามังกร” ไทยก็คงจะอยู่ยาก!!??

สำนวน…น้ำไกล มิอาจดับไฟไกล!!! จึงเป็นสิ่งที่ ฝ่ายไทยจะต้องจำให้ขึ้นใจ…อย่าได้หลงลืมเด็ดขาด

มาลองสร้าง “ฉากทัศน์” ภายใต้มุมมองของ “บิ๊กตี๋” หากเรื่องนี้…เป็นจริงขึ้นมา ไทยควรจะวางตัวอย่างไรในสถานการณ์นี้

แน่นอนว่า…การก่อสงครามสั่งสอนกัมพูชา และ “2 พ่อลูกตระกูลฮุน” นั้น ฝ่ายจีนและพันธมิตร จะต้องพุ่งเป้าโจมตี “จุดยุทธศาสตร์สำคัญ” ของกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็น…ฐานทัพเรือเรียม สนามบินทหารพนมเปญ รวมถึงศูนย์บัญชาการหลักของกองทัพกัมพูชา ฯลฯ

ภาพของ กระสุนปืนใหญ่และขีปนาวุธ ที่จะถูกยิงถล่มลงใส่ จะต้องเกิดขึ้นตามมา…

ด้วยเหตุผลจาก แถลงการณ์ของจีน นั่นก็เพราะ…“กัมพูชาที่เคยได้รับการสนับสนุนและการลงทุนจากจีน เลือกหันหลังให้ “ผู้มีพระคุณ” เปิดทางให้ “ศัตรูตลอดกาล” อย่าง…สหรัฐฯ ได้เข้ามาแทรกแซง จึงต้องชดใช้ด้วยการลงโทษอย่างสาสม!!!”

แน่นอนว่า…ปฏิบัติการครั้งนี้ คงไม่ใช่แค่เพียง “การถล่มทางทหาร” แต่ยังเป็นการ ส่งสัญญาณเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ต่อทั้ง…ภูมิภาคลุ่มโขงและอาเซียน ในทำนองที่ว่า…

“ใครก็ตามที่หักหลังจีนและพันธมิตร ย่อมต้องเผชิญกับการสั่งสอน!!!”

และ การรวมตัวของ 5 ชาติในครั้งนี้ จะถือเป็นการแสดงพลังครั้งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นับตั้งแต่สงครามอินโดจีนสิ้นสุดลง

สำหรับประเทศไทยแล้ว เราคงต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยชายแดนอย่างเข้มงวด และจัดตั้งค่ายพักพิงผู้ลี้ภัยชั่วคราวในจังหวัดสระแก้วและศรีสะเกษ รองรับ “คลื่นผู้อพยพ” ที่จะต้องหลั่งไหลเข้ามาอย่างยากจะหลีกเลี่ยง

แม้ใจของคนไทยทั้งประเทศ…ไม่มีทางจะให้อภัย “คนเนรคุณ คิดคด ทรยศ หักหลัง ฯลฯ” ก็ตาม

แต่แรงกดดันจาก นานาอารยะประเทศ โดยเฉพาะ ยูเอ็น ที่จะบีบให้ไทย…ในฐานะ ประเทศที่มีพรมแดนติดกัน จำต้องเปิดรับ “ผู้ลี้ภัยสงคราม”

กลายเป็นภาระที่จะต้องเลี้ยงดูผู้อพยพ…ตามหลักสิทธิมนุษยชน

และหากสงคราม “ปิดจบ!” ได้ช้า…กระทั่ง ขยายวงกว้างออกไป ดึงเอา…สหรัฐฯและพันธมิตร ทั้งในกรอบของนาโต้ และ/หรือ อินโดแปซิฟิก เข้ามาร่วมวงไพบูลย์ในไฟสงครามกลางแผ่นดินอาเซียน แล้ว…

โอกาสที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งทางทหารเต็มรูปแบบ ที่อาเซียนไม่เคยเผชิญมาก่อน ก็อาจจะเกิดขึ้นได้

นาทีนั้น…ไทยเราเอง ก็คงต้องเลือกที่วางตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์ความขัดแย้งนี้…

อย่าไปหลงเชื่อ…กับคำโกหก ที่ว่า “ไม่มีชาติเป็นกลาง…ท่ามกลางไฟสงคราม!!!”

บทบาทของ สวิสเซอร์แลนด์ในท่ามกลางสงครามโลกทั้ง 2 ครั้งบนแผ่นดินยุโรป คือ บทพิสูจน์ที่ว่า…

ประเทศเล็กๆ ก็วางตัวเป็นกลางในท่ามกลางไฟสงครามได้!

ขอเพียง…ประเทศไทย อย่าได้ตกอยู่ในมือของร่างเงา” นักการเมืองและนักการทหาร…ที่เห็นประโยชน์ส่วนตัว เหนือผลประโยชน์ของประเทศชาติ เท่านั้น…เป็นพอ!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password