‘พาณิชย์’ ชี้! โอกาสไทยส่งออกข้าว-บะหมี่เพิ่ม เหตุ!ผลสำรวจพบคนอังกฤษนิยมบริโภค 

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผย! แนวโน้มตลาดข้าวและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในสหราชอาณาจักร ขยายตัวต่อเนื่อง พบคนนิยมซื้อมาทำบริโภคเอง เหตุเข้าถึงได้ง่าย ราคาไม่สูง เหมาะกับช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ชี้! เป็นโอกาสของไทย ส่งข้าวไปขาย แนะเน้นรสชาติใหม่ มีนวัตกรรม โปรโมตเรื่อง Gluten Free

นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้า และโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายของนายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดได้รับรายงานจากนายประคัลร์ กอดำรงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ถึงการสำรวจตลาดการบริโภคข้าวและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในตลาดสหราชอาณาจักร และโอกาสในการส่งออกข้าว บะหมี่เส้น ของไทยเข้าไปขาย

ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้รายงานสถานการณ์ในปัจจุบันว่า ข้าวและถั่วได้รับความนิยมมากขึ้นในโลกออนไลน์ จากการที่มีวิดีโอเมนูอาหารจากข้าวและถั่วแพร่หลายมากขึ้น เนื่องจากเป็นอาหารที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย และราคาไม่สูง โดยเฉพาะข้าวซึ่งถือเป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีราคาไม่สูง เหมาะกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ตกต่ำในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ข้าวเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มผู้บริโภค และมีการนำข้าวมาทำเมนูอาหาร ในสื่อโซเชียลแพร่หลายมากขึ้น

โดยในช่วงปีที่ผ่านมา มูลค่าการขายข้าวในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 3.4% ปริมาณเพิ่มขึ้น 4% โดยผู้บริหารบริษัท Surya Foods ให้ความเห็นว่า ข้าวสารจัดเป็นกลุ่มสินค้าที่ได้รับประโยชน์จากสถานการณ์ค่าครองชีพสูง เนื่องจากมีราคาต่ำกว่าข้าวสำเร็จรูปที่ต้องนำมาอุ่นร้อนก่อนรับประทาน ส่งผลให้หม้อหุงข้าวมียอดขายเพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่ผู้บริโภคที่ทำอาหารเองที่บ้านให้ความสำคัญกับคุณภาพและความน่าเชื่อถือแบรนด์ของอาหารที่นำมาปรุง ซึ่งบริษัท Kantar ให้ข้อมูลว่าในช่วงเดือนมีนาคม 2025 มูลค่าของข้าว เพิ่มขึ้น 2.8% ประมาณ 854.3 ล้านปอนด์ โดยข้าวถุง (Pouch rice) มูลค่าเพิ่มขึ้น 9.6% มูลค่า 258 ล้านปอนด์ ข้าวสารมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 5.3% คิดเป็นเงิน 239.1 ล้านปอนด์ เส้นสด มูลค่าเพิ่มขึ้น 6.5% คิดเป็นเงิน 48.9 ล้านปอนด์ เส้น มูลค่าเพิ่มขึ้น 0.7% คิดเป็นเงิน 74.5 ล้านปอนด์ และข้าวแช่เย็นมีรสชาติ มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 21% มูลค่า 23.6 ล้านปอนด์ แต่ด้วยการแข่งขันของตลาดข้าวระหว่างยี่ห้อหลัก (Mai Thai Veetee Laila Tilda และ Ben’s Original) คือ การจัดโปรโมชันลดราคา ส่งผลให้ราคาของข้าวในตลาดลดลง ส่วนสินค้าประเภทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป พบว่า หลายยี่ห้อหลักมีมูลค่าลดลง และมียี่ห้อใหม่จากเอเชียเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาด ซึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากเทรนด์การบริโภคอาหารหลากหลายขึ้น รวมถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของอาหารเกาหลี โดยข้อมูลของ Kantar ระบุว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Nissin มีมูลค่า 17.9 ล้านปอนด์ เพิ่มขึ้น 4.1% บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Koka มีมูลค่า 13.9 ล้านปอนด์ เพิ่มขึ้น 15.4% และ Nong Shim มีมูลค่า 12.9 ล้านปอนด์ เพิ่มขึ้น 13.4%

นางสาวสุนันทากล่าวว่า ผู้บริโภคในสหราชอาณาจักรมีแนวโน้มบริโภคอาหารที่มีส่วนประกอบของข้าวและเส้นมากขึ้น เนื่องจากความนิยมในการบริโภคอาหารนานาชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสื่อโซเชียล ที่มีการทำเมนูอาหารจากข้าวและเส้นแพร่หลายมากขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงการปรุงและประกอบอาหารได้ง่ายขึ้น และความนิยมของผู้บริโภคมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากข้าวและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นอาหารที่มีราคาไม่สูง ดังนั้น ผู้ส่งออกของไทยควรใช้โอกาสที่ผู้บริโภคให้ความสนใจอาหารนานาชาติ

และรสชาติใหม่ๆ นำเสนอสินค้ารสชาติใหม่ รวมถึงสินค้านวัตกรรมเข้าสู่ตลาดได้ โดยเฉพาะข้าวไทย สามารถนำเสนอข้อดีในเรื่องสารอาหาร และ Gluten Free ให้ผู้บริโภคให้รับรู้ ก็จะเป็นทางหนึ่งในการประชาสัมพันธ์สินค้าอีกด้วย

สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password