ประเทศไทยยามนี้ จัดว่าอยู่ในสถานะ “มะรุมมะตุ้ม” ทั้งทางด้านสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจอย่างที่สุด!

นอกจาก ปมความขัดแย้ง กับ ประเทศกัมพูชา ในหลากหลายมิติ กระทั่ง นำไปสู่การ ปล่อยคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชา พัฒนาไปสู่การ “ไลฟ์สด” แฉสารพัดแฉเรื่องราวของ นายทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวชินวัตร อย่างต่อเนื่อง

แถมมาในห้วงที่ “กลุ่มคนเห็นต่าง” จากรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น พวกหน้าเดิมๆ ในฝั่งตรงกัน และอดีตคนเคยรัก รวมถึงกลุ่มอดีตคนเสื้อแดง และ พวกหน้าใหม่ ภายใต้ชื่อ กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ที่ได้รวมตัวตามนัดหมายในช่วงเช้าวันนี้ (28 มิ.ย. 2568) ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

หลายคนอดคิดไม่ได้ว่า…การออกมาแฉเรื่องราวต่างๆ ในประเทศไทยของ นายฮุน เซน มันเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวในทางการเมืองไทยในยามนี้หรือไม่? อย่างไร?

แต่อย่างน้อยก็มี อดีตนักการเมืองชื่อดัง อย่าง…นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ออกมาโพสต์ตั้งข้อสังเกต ในนาม “พลพรรครักประเทศไทย” เชื่อมโยงสิ่งที่ นายฮุน เซน ทำ! เข้ากับพฤติกรรมของบางพรรคการเมืองที่ประกาศต่อต้านโครงการเอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ ที่ยัดไส้ใน “บ่อนกาสิโน” เอาไว้

รู้กันหรือไม่? นั่นคือ คำถามเชิงการตั้งข้อสงสัย!

ไม่ว่าจะเกี่ยวข้อง…เชื่อมโยงกันหรือไม่? อย่างไร? แต่ที่แน่ๆ “กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน” ภายใต้การนำของ แกนนำหลายคน ได้ออกมารวมตัวกันแล้ว พร้อมกับประกาศจุดยืนชัดเจน ว่า…

ขอปกป้องอธิปไตย และเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเร็วที่สุด!

หนึ่งในแกนนำคนสำคัญ อย่าง…นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน “อดีตประธาน นปช.” แกนนำคนเสื้อแดง ที่เคยได้ชื่อว่าเป็น “น้องเลิฟ” อีกคนของนายทักษิณ แต่ในรอบนี้…เขาคือ แกนนำคนสำคัญที่นำขับไล่ นายกฯแพทองธาร เพื่อให้ลาออกจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

ตอนหนึ่งที่ นายจตุพร ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (28) ที่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยระบุว่า…การปราศรัยใหญ่จะมีขึ้นหลังเคารพธงชาติในเย็นวันนี้ โดยที่ตนจะปราศรัยเป็นคนสุดท้าย (ช่วงดึก) ก่อนจะย้ำว่า…แนวทางหลังจากนี้เหลือเพียงแค่ข้อเดียว คือการเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก และพรรคร่วมรัฐบาลต้องถอนตัว ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นวาระของบ้านเมือง และการชุมนุมในวันนี้เป็นการแสดงพลัง ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าชาวกัมพูชา

“หลังจากวันที่ 1 ก.ค. เขา (น.ส.แพทองธาร) รู้อนาคตตัวเองดี ทุกอย่างเป็นไปตามกลไก เพียงแค่ตอนนี้พวกเขายื้อความตายได้เพียงไม่กี่วัน” นายจตุพร กล่าวและว่า…

ส่วนจะยกระดับการชุมนุมหรือไม่? ตอนนี้ยังไม่ได้หารือ เพราะข้อเรียกร้องของเรา คือ “นายกฯลาออก” และ “พรรคร่วมถอนตัว” แต่ตอนนี้…สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ คือ การปกป้องอธิปไตย ซึ่งวันนี้ถือเป็นการเริ่มต้นการปกป้องอธิปไตยของชาติ

นั่นคือการเคลื่อนไหวในฟากของ ภาคประชาชน ที่เห็นต่างจากรัฐบาล

นาทีนี้…รัฐบาลจะอยู่ได้นานแค่ไหน? เนื่องเพราะ…ยังมีปัญหาสารพัดปัญหาถาโถม! ไหนจะปัญหาใหญ่กับ นายฮุน เซน แล้วยังโดนแรงกดดันจากม็อบฯ แล้วยังจะมี “นิติสงคราม” หลากหลายต่างกรรมต่างวาระ คอยกระหน่ำอีก

นี่ยังไม่นับรวมประเด็นเรื่องที่ พรรคร่วมรัฐบาล ส่อแววจะแยกทางให้เห็นตามมาอีก หลังจากภาพการ ปรับ “ครม.ชุดใหม่” เริ่มเห็นเด่นชัด ว่ากันว่า…นายกฯแพทองธาร ได้นำขึ้นทูลเกล้าฯกันไปแล้ว

เรื่องนี้ มีประเด็นให้น่าหวาดเสียว เนื่องจาก นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ออกอาการไม่พอใจ หลังจากรู้ข่าวที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น แกนนำอีกฝั่งของพรรคฯ ได้นั่งเก้าอี้ รมช.มหาดไทย

36 สส.ของพรรคฯ ก่อนหน้านี้ ครึ่งหนึ่งอยู่กับ นายพีระพันธุ์ อีกครึ่ง…อยู่กับ นายสุชาติ แต่จากสถานการณ์ ได้สิทธิ์อยู่ร่วม “ครม.แพทองธาร 1/2” สัดส่วน สส. จะยังเหมือนเดิมหรือไม่? คงต้องลุ้นกันต่อ

กระนั้น เรื่องนี้…มันก็สอดรับกับความประสงค์ของ “กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน” ที่ต้องการให้พรรคร่วมรัฐบาล ประกาศถอนตัวออกไป

สำหรับโฉมหน้าของ “ครม.แพทองธาร 1/2” นั้น นายกฯแพทองธาร มีเหตุให้ต้องนั่งควบเก้าอี้ รมว.วัฒนธรรม  ซึ่งไม่เพียงเหตุผลที่ต้องการจะ สานต่อ…ผลักดัน “นโยบายซอฟต์พาวเวอร์”

หากยังเป็นการ รับมือกับสถานการณ์การเมือง ที่หาก ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยให้ นายกรัฐมนตรีต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ตามที่ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้ยื่นคำร้อง กรณี “หลุดคลิปเสียง” การสนทนาระหว่าง นายกฯแพทองธาร กับ นายฮุน เซน ว่าเป็นการกระทำที่ผิดจริยธรรมในทางการเมืองอย่างร้ายแรง หรือไม่? อย่างไร?

ก็ไม่แปลกใจ! ท่ามกลางเรื่องร้อนๆ ในทางการเมือง หาก นายกฯแพทองธาร จะหลบไปทำอีกเรื่อง ที่มีทั้งคนสนับสนุนและคัดค้าน นั่นคือ การเดินทางไปมอบบัตรประชาชนให้กลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับสัญชาติไทย ตามมติ ครม. เรื่องการให้สัญชาติกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีหลักเกณฑ์ครบ ตามกฎระเบียบกระทรวงมหาดไทย ณ รร.แม่จันวิทยาคม อ.แม่จัน จ.เชียงราย เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (28)

นายกฯแพทองธาร กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิในการรับบริการจากรัฐ และได้รับการยอมรับในฐานะประชาชนของประเทศนี้อย่างเสมอภาคและมีศักดิ์ศรี โดยรัฐบาลได้ดำเนินนโยบายเพื่อแก้ปัญหาสถานะบุคคลและบุคคลไร้รัฐมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการลดขั้นตอน ลดระยะเวลาการพิจารณาเหลือเพียง 5 วัน จากเดิม 270 วัน ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากครม.แล้ว และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 มิ.ย.นี้

พร้อมกันนี้ นายกฯแพทองธาร ได้แสดงความยินดีกับพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ทุกคน ที่มีสิทธิยื่นขอรับรองสถานะเพื่อให้ได้รับบัตรประจำตัวประชาชน และได้รับสิทธิในฐานะคนไทยอย่างเสมอภาค ก่อนจะร่วมถ่ายภาพกับประชาชนในพื้นที่ ท่ามกลางบรรยากาศเป็นกันเอง

อดใจรอกันอีกนิด??? เร็วสุดก็น่าจะเป็นวันอังคารที่ 1 ก.ค.นี้ มาลุ้นกันว่า…ผลของการวินิจฉัยของ ศาลรัฐธรรมนูญ จะยังผลให้การประชุม ครม. หลังจากนั้น คนนั่งหัวโต๊ะ จะเป็น “รองนายกฯอันดับ 1” โดยที่ น.ส.แพทองธาร จะหลบไปนั่งประจำแถวของ รมว.วัฒนธรรม

เหมือนที่ครั้งหนึ่ง…“ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ “นายกรัฐมนตรี (ชั่วคราว)” แล้วหลีกไปนั่งในแถวของ รมว.กลาโหม ซึ่งเป็นอีกตำแหน่งควบฯ โดยมี “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯเบอร์ 1 ทำหน้าที่ รักษานายกรัฐมนตรี

แม้เจ้าตัวจะให้เกียรติ “น้องตู่” โดยเว้นว่าฃเก้าอี้ “หัวโต๊ะ” เอาไว้ แล้วทำหน้าที่…รักษานายกรัฐมนตรี ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้

เชื่อว่า…ภาพนี้ มันก็คงไม่ต่างกันนัก!!!.