พาณิชย์ตรวจเข้ม เส้นทางการนำเข้า “สินค้าพืชหัว” ป้องกันการลักลอบขนย้าย พร้อมกำกับดูแลสร้างความเป็นธรรม แก้ปัญหาราคาตกต่ำ และยกระดับรายได้ให้เกษตรกร เผย! ผลการสนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานอื่น ยังไม่พบการลักลอบ พร้อมกำชับทุกหน่วยงานสอบเข้มงวดต่อไป ชี้! หากพบการลักลอบแจ้งสายด่วน 1569

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังจาก การลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 5 – 6 มิถุนายน 2568 บริเวณพื้นที่ชายแดนด่านศุลกากรเชียงแสน ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน ท่าเทียบเรือ Tcc (ห้าเชียง) ด่านศุลกากรเชียงของ และ ติดตามตรวจสอบผู้ประกอบการนำเข้าสินค้าเกษตรในพื้นที่ เพื่อป้องกันการลักลอบขนย้ายนำเข้าสินค้ากระเทียมและหอมหัวใหญ่เข้ามาภายในประเทศ อันจะส่งผลกระทบต่อราคาผลผลิตภายในประเทศให้ตกต่ำ และ ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการมีการปฏิบัติ ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ตามนโยบายของ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในกำกับดูแลราคาสินค้าเกษตร ให้มีเสถียรภาพและเกิดความเป็นธรรมต่อเกษตรกร

ดังนั้น จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ กรมการค้าภายใน สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด นายตรวจชั่งตวงวัด และเจ้าหน้าที่ศุลกากรในพื้นที่ เฝ้าสังเกตการณ์และตรวจสอบการลักลอบนำเข้าและขนย้ายสินค้าพืชหัว โดยมุ่งเน้น ตรวจสอบในพื้นที่ชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญในการลำเลียงสินค้าเกษตรข้ามแดน และบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ต้นทางการขนย้าย จนถึงสถานที่ปลายทางการขนย้ายบริเวณตลาดไท ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมและกระจายสินค้าขนาดใหญ่ในจังหวัดปทุมธานี รวมทั้งตรวจสอบสถานที่เก็บของผู้ประกอบการนำเข้าสินค้าพืชหัวในพื้นที่ชายแดน เพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างทั่วถึงครอบคลุมทุกด้าน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบรถบรรทุกขนย้ายสินค้าเกษตร ตลอดจนเอกสารหลักฐานการได้มาของสินค้าทั้งต้นทางและปลายทางการขนย้าย ยังไม่พบการลักลอบนำเข้าสินค้าพืชหัวแต่อย่างใด ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดย กรมฯ ได้ขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งศุลกากร และฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ให้ความสำคัญเข้มงวดไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าสินค้าพืชหัวเข้ามาในประเทศด้วย 

รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการตรวจสอบดังกล่าวเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตสินค้าเกษตรตกต่ำ ยกระดับรายได้ให้เกษตรกร รักษาความเป็นธรรมทางการค้า และขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งกรมฯจะจัดส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบทั่วทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง หากพบว่า มีการลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 หากเกษตรกรรายใดไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายสินค้าเกษตร รวมทั้งพบเห็นหรือทราบเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ.