ศุลกากร ยกระดับการปราบปราม จับกุมสินค้าผิดกฎหมาย ครึ่งแรกQ3/68 มูลค่ากว่า 200 ล.

กรมศุลกากร ขับเคลื่อนมาตรการเชิงรุกตามนโยบายของรัฐบาล เร่งยกระดับมาตรการปราบปรามในทุกช่องทาง โดยจับกุมสินค้าผิดกฎหมาย ได้มูลค่ากว่า 255 ล้านบาท ในครึ่งแรกของไตรมาส 3

วันที่ 17 พฤษภาคม 2568 นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยถึงผลการขับเคลื่อนมาตรการเชิงรุกตามนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะในประเด็นสำคัญที่นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง ดำเนินการป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด สินค้าผิดกฎหมาย และสินค้าที่เป็นภัยต่อสังคม อย่างเด็ดขาด กรมศุลากรจึงเร่งยกระดับมาตรการปราบปรามในทุกช่องทางนำเข้า-ส่งออกสินค้า ทั้งด่านศุลกากรบริเวณด่านพรมแดน ท่าเรือ ท่าอากาศยาน เขตชายแดน และการส่งขนส่งพัสดุ พร้อมบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ตลอดจนเฝ้าระวังและลงพื้นที่เชิงรุกอย่างต่อเนื่อง

โดยในครึ่งแรกของไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2568 ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 15 พฤษภาคม 2568 กรมศุลกากรสามารถตรวจยึดสินค้าผิดกฎหมายได้รวมมูลค่าสูงถึง 254.68 ล้านบาท ดังนี้

1. ยาเสพติด – ตรวจเข้มทุกช่องทาง ไม่เว้นแม้แต่ด่านพรมแดน เจ้าหน้าที่ศุลกากรยังคงปฏิบัติการเชิงลึกร่วมกับหน่วยงานด้านยาเสพติดอย่างใกล้ชิด ตรวจยึดยาเสพติดทุกประเภท เช่น เฮโรอีน โคเคน ยาไอซ์ ยาบ้า และยาอี ทั้งที่นำเข้าส่งออกตามด่านศุลกากรที่เป็นเขตติดต่อระหว่างประเทศ ติดตัวเข้ามาทางสนามบินนานาชาติ ส่งผ่านบริษัทขนส่งสินค้า หรือส่งผ่านเป็นพัสดุด่วนระหว่างประเทศ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 สำนักงานศุลกากรหนองคาย โดยเจ้าหน้าที่ด่านพรมแดนหนองคายตรวจพบยาอีซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทาง ณ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 โดยเป็นการตรวจค้นรถยนต์ส่วนบุคคลขาเข้า ณ ด่านพรมแดนหนองคายสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 1 พบกระเป๋าเดินทาง 3 ใบ แต่ละใบบรรจุเม็ดสีเขียว สีม่วง และสีส้ม จึงทำการทดสอบด้วย (ONCB 051) MARQUIS Test ซึ่งแสดงผลทดสอบเป็นยาอี จำนวน 137,385 เม็ด มูลค่า 55 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตั้งแต่ 1 เม.ย. – 15 พ.ค. 68 กรมศุลกากรสามารถตรวจยึดยาเสพได้ 22 คดี มูลค่า 111.20 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 2568 (1 ต.ค. 67 – 15 พ.ค. 68) จับกุมแล้ว 146 คดี รวมมูลค่ากว่า 903.99 ล้านบาท

2. กัญชา – ส่งออกผิดกฎหมายยังพุ่ง ปลายทางในยุโรป แม้กัญชาจะถูกปลดล็อกในประเทศ แต่ในต่างประเทศหลายแห่งยังถือเป็นยาเสพติด กรมศุลกากรยังคงให้ความสำคัญเรื่องนี้จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังและแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวอย่างใกล้ชิด โดยพบว่า การลักลอบนำกัญาชาออกไปในประเทศปลายทางยุโรปยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกรมศุลกากรก็สามารถตรวจยึดช่อดอกกัญชาได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ทั้งนี้ ตั้งแต่ 1 เม.ย. – 15 พ.ค. 68  กรมศุลกากรตรวจยึดช่อดอกกัญชาได้ 3,767 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 93.08 ล้านบาท  และในปีงบประมาณ 2568 (1 ต.ค. 67 – 15 พ.ค. 68) จับกุมได้ 1,154 คดี จำนวน 10,087 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 162.85 ล้านบาท

3. บุหรี่ต่างประเทศ – เครือข่ายชายแดนยังเคลื่อนไหว  การลักลอบนำเข้าบุหรี่ต่างประเทศยังคงมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแนวชายแดนภาคใต้และตะวันตก กรมศุลกากรให้ความสำคัญโดยการเฝ้าระวัง ออกลาดตระเวนลงพื้นที่เดินเท้าตามแนวตะเข็บชายแดน รวมถึงพื้นที่รกร้างที่อาจเป็นที่พักสินค้าที่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังประสานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ร่วมดำเนินงานเชิงรุกเพื่อเข้าตรวจค้นโกดัง บริษัทขนส่งสินค้าที่ต้องสงสัยว่าอาจจะมีสินค้าไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากรปะปนอยู่ เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม (4 พ.ค.68) กองสืบสวนและปราบปรามร่วมกับด่านศุลกากรสตูลออกลาดตระเวนและเข้าตรวจสอบพื้นที่ตามที่ได้รับข่าวว่าในบริเวณสวนปาล์มริมคลองหนัง หมู่ที่ 10 ตำบลละงู อำเภอละงู จังหวัดสตูล อาจมีการลักลอบขนสินค้าที่ไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร เข้ามาพักไว้ในพื้นที่ดังกล่าว พบบุหรี่มีเมืองกำเนิดต่างประเทศ จำนวน 1,210,000 มวน อยู่ในกล่องจำนวน 121 ลัง มูลค่า 5.5 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตั้งแต่ 1 เม.ย. – 15 พ.ค. 68 กรมศุลกากรสามารถตรวจยึดบุหรี่ได้กว่า 13 ล้านมวน มูลค่ากว่า 39 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 2568 (1 ต.ค. 67 – 15 พ.ค. 68) จับกุมได้ถึง 1,341 คดี ยอดบุหรี่กว่า 35 ล้านมวน มูลค่ากว่า 174.25 ล้านบาท

4. บุหรี่ไฟฟ้า – ภัยเงียบที่ลักลอบแทรกซึมเข้าสู่เยาวชน  บุหรี่ไฟฟ้าเป็นภัยเงียบที่ค่อยๆ แทรกซึมเข้าสู่กลุ่มเยาวชนอย่างน่ากังวล ภายใต้รูปลักษณ์ทันสมัย กลิ่นหอมหลากรส และภาพลักษณ์ว่า “ปลอดภัย” กว่าบุหรี่ทั่วไป กรมศุลกากรเล็งเห็นถึงผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนไทยจึงเร่งกวาดล้างเครือข่ายลักลอบนำเข้าอย่างเข้มข้นทั่วประเทศ ทั้งเฝ้าระวังตามด่านศุลกากร และลงพื้นที่ในจุดที่มีความเสี่ยงรวมถึงเข้าไปยังบริษัทขนส่งสินค้าที่อาจมีการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 ร่วมกับด่านศุลกากรท่าอากาศยานหาดใหญ่ และด่านศุลกากรสงขลา บุกตรวจบริษัทขนส่งในจังหวัดสงขลา พบ บุหรี่ไฟฟ้า อุปกรณ์ และน้ำยารวม 8,704 ชิ้น มูลค่า 2.18 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตั้งแต่ 1 เม.ย. – 15 พ.ค. 68 กรมศุลกากรสามารถตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้า ได้จำนวน 33,181 ชิ้น มูลค่า 11.40 ล้านบาท และนับตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2568 (1 ต.ค. 67 – 15 พ.ค. 68) จับกุมได้ 390 คดี จำนวนบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 1 ล้านชิ้น มูลค่ากว่า 108.93 ล้านบาท

โฆษกกรมศุลกากร เผยเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากสินค้าข้างต้น ยังตรวจยึดสินค้าอื่นที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย เช่น สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สินค้าเกษตร น้ำมันเบนซิน และอื่น ๆ รวมตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2568 ถึงปัจจุบัน (1 ต.ค. 67 – 15 พ.ค. 68) ตรวจยึดแล้วกว่า 29,774 คดี มูลค่ารวม 1,432.34 ล้านบาท

กรมศุลกากรจะดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง ทั้งในด้านการข่าว การเฝ้าระวัง การตรวจค้น และการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปกป้องประชาชน ปกป้องสังคม และรักษาสมดุลของระบบเศรษฐกิจประเทศ”

หากประชาชนพบเบาะแสการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วนศุลกากร 1164 ตลอด 24 ชั่วโมง.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password