‘ทวี’ ชูเรือนจำอ่างทอง ต้นแบบ! ปรับนิสัยผู้ต้องขัง เปลี่ยนคุกเป็นสถานฟื้นฟู

“รมว.ยุติธรรม” ตรวจเยี่ยมเรือนจำจังหวัดอ่างทอง ยกให้เป็น “ต้นแบบ” พัฒนาพฤตินิสัย หนุนสร้างแลนด์มาร์คอ่างทองครบวงจร ร้านอาหาร-ค่ายมวย-จุดบริการล้างรถ

เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2568 ที่ผ่านมา พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เดินทาง เข้าตรวจเยี่ยมเรือนจำจังหวัดอ่างทอง โดยมี นายธิตินัย พาติกบุตร ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดอ่างทอง ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งให้โอวาท ทักทายและให้กำลังใจแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ และญาติผู้ต้องราชทัณฑ์ ทั้งนี้ เรือนจำจังหวัดอ่างทอง ได้เปิดเยี่ยมญาติ กรณีพิเศษแบบปกติ เยี่ยมญาติผ่านแอพพลิเคชั่น LINE และเปิดจำหน่ายสินค้าร้านสงเคราะห์บริเวณหน้าเรือนจำ เพื่อมอบความสุขแก่ประชาชน ตามนโยบายกรมราชทัณฑ์  เนื่องในวันสงกรานต์ พ.ศ.2568 

รมว.ยุติธรรม ได้สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับญาติผู้ต้องราชทัณฑ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้กำลังใจและมอบแนวทางการดำเนินชีวิตให้เป็นไปอย่างมีคุณภาพ พร้อมกล่าวว่า การดำเนินงานของกระทรวงยุติธรรม สำหรับนโยบายสำคัญประการหนึ่ง คือ “ความยุติธรรมสำหรับทุกคน หรือความยุติธรรม นำประเทศ” ในส่วนของ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ในด้านการพัฒนาพฤตินิสัย มีเป้าหมายหลักเพื่อมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขและฟื้นฟูผู้กระทำผิด โดยสนับสนุนให้ครอบครัวมีส่วนร่วมในการพัฒนาพฤตินิสัย เป็นสิ่งที่กระทรวงยุติธรรมได้ให้ความสำคัญตลอดมา เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมอย่างยั่งยืน จากนั้นได้กล่าวให้กำลังใจกับผู้ต้องราชทัณฑ์ทั้งหญิงและชาย จำนวน 1,330 คน พร้อมมอบขนมให้ผู้ต้องราชทัณฑ์รับประทาน เนื่องในโอกาสเทศกาลสงกรานต์

พ.ต.อ. ทวี ยังร่วมรับฟังการขับร้องเพลง “อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้” ซึ่งทาง พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม ได้แต่งขึ้นเพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ต้องราชทัณฑ์ ด้วย พร้อมทั้งชมการแสดงมวยคาดเชือกของทางเรือนจำอ่างทอง พร้อมกันนี้ ยังได้ให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ และผู้ต้องราชทัณฑ์ พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมการดำเนินตามนโยบายของตน ในเรื่องของความหนาแน่นของเรือนจำ โดย ประเทศไทยมีผู้ต้องราชทัณฑ์ สัดส่วนจำนวนเฉลี่ยมากอันดับต้น ๆ ของโลก และมุ่งเปลี่ยนเรือนจำเป็นสถานที่ฟื้นฟูมากกว่าการจำคุก ซึ่ง เรือนจำจังหวัดอ่างทองถือว่ามีการดำเนินการที่ยอดเยี่ยมทั้งการพัฒนาด้านอาชีพและทางด้านกีฬา โดยมีทั้งค่ายมวยและร้านอาหาร เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับผู้ต้องราชทัณฑ์เป็นการสร้างรายได้หลังจากพ้นโทษ

ปัจจุบัน เรือนจำจังหวัดอ่างทองสามารถสร้างแลนด์มาร์ค ของพื้นที่ได้ เพราะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งร้านอาหาร การล้างรถ ค่ายมวย ซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามนโยบายของ รมว.ยุติธรรม

นอกจากนี้ นายเกรียงศักดิ์ เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ กล้วยทอดไฮโซ ได้มาทอดกล้วยทอด มันทอด พร้อมมอบสิทธิ์แฟรนไชส์ ให้กับทางเรือนจำ เพื่อสร้างโอกาสและวิชาชีพ รวมทั้งเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เมื่อผู้ต้องราชทัณฑ์พ้นโทษจะได้นำไปประกอบอาชีพต่อไป ทั้งนี้ อดีตผู้ต้องราชทัณฑ์ดังกล่าว ได้ออกไปสร้างแฟรนไชส์กล้วยทอดเป็นของตนเอง และมีสาขาที่มาซื้อแฟรนไชส์ทั้งหมด 3 สาขา  ที่ถือว่าเป็นบุคคลต้นแบบ ที่ประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพสุจริต ได้มาถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อเป็นทางเลือกในการประกอบอาชีพภายหลังพ้นโทษ.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password