“ผู้นำฯเท้ง” ล็อกเป้ายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ “แพทองธาร” เพียงหนึ่งเดียว ข้อหา “ไร้ภาวะผู้นำ” พาดพิงหลายกระทรวง กระทบชิ่ง “ทักษิณ ชินวัตร” เหตุมีพฤติกรรม “ชักใย-จูงใจ” ด้าน นายกรัฐมนตรี พร้อมตั้งองครักษ์ในสภาฯ เหตุต้องช่วยกันตอบ เดี๋ยวคอแห้ง

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยื่นรายชื่อ สส.พรรคร่วมฝ่ายค้านจำนวน 166 คน จาก 4 พรรคฯ เพื่อยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 151 ต่อ ประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว ครอบคลุมทุกมิติหลายกระทรวงหลายพรรคร่วมรัฐบาล

ผู้นำฝ่ายค้านฯ ระบุว่า เราเชื่อว่าปัญหาในการบริหารราชการแผ่นดินเกิดขึ้นจากการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีขาดภาวะผู้นำ ไม่สามารถควบคุมเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลได้ ขาดวุฒิภาวะขาดความรู้ความสามารถ มีการแต่งตั้งบุคคลที่เขาขอมา มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ยอมให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีอำนาจเหนือตนเอง รวมถึงยินยอมให้ผู้เป็นบิดาสามารถชักนำ จูงใจ มีส่วนให้บริหารราชการแผ่นดินได้ เราเชื่อว่าทุกปัญหาเกิดจากนายกรัฐมนตรี เราเห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เพราะปัญหาทั้งหมดอยู่ที่รัฐมนตรีเพียงผู้เดียว และต้องตอบชี้แจงด้วยตนเองเท่านั้น

ทั้งนี้ ในญัตติดังกล่าว ยังระบุด้วยว่า นอกจาก น.ส.แพทองธาร ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มี พฤติการณ์เอาเปรียบประชาชน เอาเปรียบสังคม โกหกหลอกลวงไม่ดำเนินการตามนโยบายที่ให้สัญญาไว้กับประชาชนเป็นนั่งร้าน ช่วยเหลือต่างตอบแทนกลุ่มบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย บริหารบ้านเมืองผิดพลาด ล้มเหลวอย่างร้ายแรงในด้านการเมือง การปฏิรูปกองทัพ ความมั่นคง เศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม ทำลายนิติรัฐ ทำลายระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภา นอกจากนี้ยังสมัครใจยินยอมให้นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดาชี้นำชักใยให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการอันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด โดยมีบิดาเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจ

ด้าน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จะนำญัตติตรวจสอบความถูกต้องก่อนจะแจ้งผู้นำฝ่ายค้านภายใน 7 วัน หากมีประเด็นใดต้องแก้ไขก็จะแจ้งให้แก้ไขไปตาม ระเบียบข้อบังคับ ส่วนหลังจากนั้นทางประธานสภาผู้แทนราษฎร จะส่งญัตติที่ตรวจสอบไปแล้ว ให้รัฐบาล และโดยปกติรัฐบาลจะเป็นผู้กำหนดว่าพร้อมเมื่อใด

ทั้งนี้ นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ในฐานะ ตัวแทนรัฐบาล แจ้งว่า รัฐบาลพร้อมให้อภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 24 มีนาคม 2568 ส่วนจะใช้ ระยะ เวลาอย่างไรทั้งสองฝ่าย วิปฝ่ายค้าน และรัฐบาลจะต้องตกลงกัน ซึ่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 จะเป็นประธานการหารือ ทั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการอธิบายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 จะเป็นไปด้วยดี เป็นประโยชน์ให้กับประชาชน ทุกฝ่ายทั้งประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์จากการอภิปรายครั้งนี้

ด้าน น.ส.แพทองธาร ได้เดินทางเข้ารัฐสภา โดยยกเลิกภารกิจเป็น ประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในช่วงเช้า เนื่องจากไม่มีวาระพิจารณาที่เป็นประเด็นสำคัญ และได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.เอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ทำหน้าที่ประธานการประชุมฯ จากนั้น ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณี พรรคฝ่ายค้านฯได้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยพุ่งเป้าไปที่ตัวนายกรัฐมนตรีเพียงผู้เดียว โดยระบุว่า ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ และมีการวางแผนจะเข้าสภาตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้ว ส่วนการยื่นอภิปรายฯไปที่ตนเพียงลำพังนั้น ไม่เกินความคาดหมาย เป็นสิทธิของฝ่ายค้านอยู่แล้ว

ส่วนที่ฝ่ายค้านระบุว่า นายกรัฐมนตรีเป็นนั่งร้านให้กับนายทักษิณ นั้น ตนได้เตรียมตอบในสิ่งที่ถามมาทุกประเด็น และไม่กังวลหากจะมีการพุ่งเป้าไปที่นายทักษิณ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะพูดอะไรหรือจะถามกระทบกับอะไร ถ้าเราไม่หลักยึดอย่างเช่นกฎหมายก็จะแย่ แต่ถ้าหากมีหลักยึด ก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย พร้อมตอบ สำหรับญัตติที่ระบุว่า นายกรัฐมนตรีไม่มีวุฒิภาวะ ความเป็นผู้นำ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ทำให้ต่างชาติไม่มีความเชื่อมั่น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ต้องดูข้อมูลจริงประกอบด้วย ว่าต่างชาติไม่เชื่อมั่นจริงหรือไม่ แต่ก็เข้าใจเพราะพรรคเพื่อไทยก็เคยเป็นฝ่ายค้านร่วมกับพรรคประชาชนมา 8-9 ปี ไม่ได้ไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นอยากรู้อะไรมาก็ตอบไป

“การตั้งองครักษ์คงต้องมีขึ้นมาแน่นอน เพราะทุกคนต้องช่วยกันตอบ ตอบคนเดียวอาจจะคอแห้ง” น.ส.แพทองธาร ตอบคำถามนักข่าวเมื่อถูกถามถึงปมตั้งองค์รักษ์ในสภาฯ.