ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดโครงการ “ไทยพาณิชย์รวมใจไทยให้โลหิต” ประจำปี 2568 พร้อมส่งมอบปริมาณโลหิตจำนวน 73 ล้านซีซี ให้แก่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดโครงการ “ไทยพาณิชย์รวมใจไทยให้โลหิต” ประจำปี 2568 ซึ่งจัดมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2539 เป็นต้นมาพร้อมส่งมอบปริมาณโลหิตที่ธนาคารได้ร่วมรณรงค์เชิญชวนพนักงาน ลูกค้า ประชาชนร่วมบริจาคโลหิตทุก 3 เดือน รวมถึงสนับสนุนและร่วมจัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิตทั้งที่สำนักงานใหญ่และสาขาของธนาคาร ภาคบริการโลหิต และหน่วยรถเคลื่อนที่ตลอดปี 2567 ที่ผ่านมา จำนวน 73 ล้านซีซี ให้แก่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ซึ่งสามารถนำไปช่วยชีวิตผู้ป่วยได้มากกว่า 547,500 คน ทั้งนี้เพื่อเติมเต็มปริมาณโลหิตในคลังโลหิตให้มีเพียงพอต่อการรักษาพยาบาลผู้ป่วยทั่วประเทศ บรรเทาปัญหาการขาดแคลนโลหิต และส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย โดยมี นายวรวัจน์ สุวคนธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานทรัพยากรบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์ ส่งมอบปริมาณโลหิต ให้แก่ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์ชัยเวช นุชประยูร ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย และร่วมกันเปิดโครงการ ณ หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่

ในโอกาสนี้ธนาคารได้จัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิต ซึ่งมีพนักงาน ลูกค้า ประชาชน รวมถึงพนักงานหน่วยงานองค์กรใกล้เคียงธนาคารมาร่วมบริจาคโลหิตจำนวนมาก สำหรับ 500 ท่านแรกที่มาร่วมบริจาคโลหิต ณ หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ จะได้รับพัดลมมือถือ “ชื่นใจ” แทนคำขอบคุณ ซึ่งกำหนดจัดขึ้นทุก 3 เดือน ครั้งต่อไปกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 13 พฤษภาคม 13 สิงหาคม และ 13 พฤศจิกายน นอกจากนี้ธนาคารยังได้รณรงค์ ปลูกฝังให้คนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มนักศึกษาฝึกงานของธนาคารได้เห็นถึงความสำคัญของการบริจาคโลหิต โดยร่วมเป็นจิตอาสาอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่มาบริจาคโลหิตและร่วมบริจาคโลหิต พร้อมรณรงค์เชิญชวนพนักงาน ลูกค้า ประชาชน ร่วมบริจาคโลหิตเป็นประจำสม่ำเสมอทุก 3 เดือน

ยังมีผู้ป่วยจำนวนมากที่กำลังรอรับโลหิตเพื่อต่อลมหายใจ ทุกๆ การบริจาคโลหิต 1 ครั้ง สามารถนำไปช่วยชีวิตผู้ป่วยได้มากกว่า 3 ชีวิต ขอเชิญชวนผู้ที่มีสุขภาพดี ร่วมบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง การบริจาคโลหิตทุก 3 เดือน นอกจากจะเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่แล้ว ยังช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตดี กระตุ้นการทำงานของไขกระดูกได้สร้างเม็ดเลือดใหม่ ทำให้ผู้บริจาคโลหิตมีสุขภาพที่แข็งแรงอีกด้วย.