ปปง.ร่วมผลักดันใช้ ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ปลอดภัยจากการฟอกเงิน

“โฆษก ปปง.” แจง สำนักงาน ปปง. ขานรับนโยบายรัฐ ร่วมกับอีก 3 หน่วยงานหลักด้านเศรษฐกิจ เดินหน้าผลักดันใช้ “สินทรัพย์ดิจิทัล” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ปลอดภัยจากการฟอกเงิน

นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน  (สำนักงาน ปปง.) ในฐานะ โฆษกประจำสำนักงาน ปปง. กล่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (คณะกรรมการ ปปง.) ในคราวประชุมครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งมี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นประธานการประชุม และ นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นกรรมการและเลขานุการ ได้มีมติเห็นชอบในหลักการให้ 4 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงาน ปปง. กระทรวงการคลัง สำนักงาน ก.ล.ต. และ ธนาคารแห่งประเทศไทย ไปหารือร่วมกันในการออกนโยบายร่วม (Joint Policy Statement)

วิทยา นีติธรรม

เพื่อผลักดันการใช้สินทรัพย์ดิจิทัล ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยผ่านสินทรัพย์ดิจิทัลให้ปลอดภัยจากการฟอกเงิน อันเป็นการเสริมสร้างการลงทุนและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านสินทรัพย์ดิจิทัลให้เกิดความเชื่อมั่นได้ว่าจะไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือของการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และสามารถนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับภาคธุรกิจและเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน จึงสมควรวางมาตรการเพื่อป้องกันอาชญากรรมการฟอกเงินผ่านธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ดังนี้

 1. มาตรการกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยการกำกับ ตรวจสอบให้ผู้ประกอบการต้องมีมาตรการตรวจสอบและติดตามธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างรัดกุม เช่น กำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับการทำความรู้จักลูกค้า การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า และการรายงานการทำธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย 

 2. มาตรการเฝ้าระวังและติดตามธุรกรรมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบุคคลหรือองค์กรที่อยู่ในพื้นที่หรือประเทศที่มีความเสี่ยงสูงด้านการฟอกเงิน หากมีการทำธุรกรรมผ่านธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

ทั้งนี้ สำนักงาน ปปง. จะจัดประชุมหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงาน ก.ล.ต. และ ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อพิจารณาการจัดทำนโยบายร่วมกัน (Joint Policy Statement) ให้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการ ปปง. ต่อไป.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password