ยอกย้อน…ซ่อนคนปนข่าว! ไม่รู้จะให้ความสำคัญกับข่าวการเมืองไหนดี?

นาทีนี้ สังคมไทย…คงยากจะแยกแยะ! ควรให้ความสำคัญกับข่าวไหน? ในความเป็นการเมืองไทย!!!
หนึ่ง…ปมคลิป นายวันมูฮัมหมัด นอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เปิดบ้านต้อนรับ นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธาน ป.ป.ช.คนใหม่
อีกหนึ่ง…สภาฯล่ม! ในวันพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ในวันแรก
ปมแรก…ลำพัง นายวันนอร์ จะอ้างพยานเป็น “คนในบ้าน – ตัวเอง” หักล้างคำปฏิเสธของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ตัวเขาเชื่อฝังใจว่า…คือ มือถ่ายคลิป ที่ตกเป็นข่าวดังกระหึ่มเมือง
โดยที่อีกฝ่าย…อ้างว่า ตนไม่ได้ร่วมคณะของ “ประธาน ป.ป.ช. – ป้ายแดง” ในวันนั้น
คำตอบที่ชัดเจนสุด! คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด แต่เป็น นายวันนอร์ ที่ให้สัมภาษณ์สื่อบางสำนัก ทำนอง…กล้องวงจรปิดที่มีในบ้านมันเก่าเกินไป แต่ยังขยักปมที่ว่า…ที่สุด กล้องวงจรปิดในบ้าน มันจับภาพของ “บิ๊กโจ๊ก” ในวันร่วมคณะของนายสุชาติ ได้หรือไม่?
ถ้าไม่มี…แล้วจะอ้าง “พยานปากสำคัญ” เป็นคนในบ้านตัวเอง น้ำหนักความน่าเชื่อถือก็น่าจะน้อยลง หากเทียบกับภาพจากกล้องวงจรปิด
กระนั้น ภาพที่ นายวันนอร์ พูดคุยกับ นายสุชาติ ย่อมสะท้อนภาพ! อำนาจผสาน…ระหว่างองค์กรอิสระ และฝ่ายนิติบัญญัติ อย่างยากให้คิดเป็นอื่น!!!
เช่นกัน…หากไม่มีคลิปดังกล่าว สังคมไทยจะได้รู้เห็นความเป็นไปเช่นนี้น่ะหรือ?
คนที่ร้อนตัวไม่ต่างจาก นายวันนอร์ และนายสุชาติ นั่นคือ “หมาแก่” นายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ คนจัดและนำคลิปข้างต้นมาเผยแพร่สู่สาธารณะ ผ่านรายการ “เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์” เมื่อ 2 วันก่อน
เจ้าตัวโอดครวญ…ถูกผู้ใหญ่ตำหนิ! ทำนอง…เผยแพร่คลิปทำไม? ในเมื่อมีคนได้และเสียประโยชน์ ก่อนจะฟาดกลับ…เรื่องพรรค์นี้ ใครได้ใครเสียนั่นเรื่องนึง แต่ที่ได้แน่ๆ คือ ผู้คนในสังคมไทย ที่ได้รู้เช่นเห็นชาติในความเป็น “คนในระบบการเมืองไทย”
แม้จะโดนเปลี่ยนสรรพนาม จาก “หมาแก่” เป็น…อะไรแก่? ก็ตามที! แต่ดูเหมือนเจ้าตัว…จะทำใจเอาไว้บ้างแล้ว
กลับมาที่ คนซึ่งถูกมองว่าเป็น “ต้นเรื่อง” อย่าง…“บิ๊กโจ๊ก” ไม่ว่าตัวเขาจะไปร่วมงานในวันนั้นหรือไม่? และเป็นคนที่แอบถ่ายคลิปหรือเปล่า?
ทว่าการปฏิเสธว่า ตัวเองไม่ได้เข้าพบกับ นายวันนอร์ ในวันที่ นายสุชาติ เข้าพบและหารือหลากหลายเรื่องราวในทางการเมือง เท่ากับปฏิเสธการถ่ายคลิปดังกล่าวไปในตัว
หากใครจะมอง “บิ๊กโจ๊ก” เป็นคนไม่น่าคบ และไม่ใช่สุภาพบุรุษ เช่นที่ นายวันนอร์คิด ก็คงห้ามความคิดกันไม่ได้
“บิ๊กโจ๊ก” จะเละเป็นโจ๊กสมชื่อหรือไม่? นอกภาพในกล้องวงจรปิด แล้วยังจะมีอะไรมายืนยันได้อีกเล่า?
พักปมแรก…มาต่อปมหลัง หลังจากที่ การประชุมรัฐสภาล่ม! ในวันแรก (13 ก.พ.2568) ของการพิจารณาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ก็เป็นกองทัพสื่อมวลชน ที่รุมถามเอากับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถึงประเด็นที่ พรรคเพื่อไทยเป็น “ต้นเหตุ” ทำสภาฯล่ม!
เรื่องนี้ “ลูกสาวของพ่อทักษิณ” ตอบชัด! “…เป็นกลไกทางสภา เมื่อสองสภามีความเห็นที่ต่างกัน จึงเป็นแบบนี้ หากเรื่องใดที่เห็นตรงกันจะไม่ออกมาเป็นแบบนี้”
ส่วนเรื่องที่ พรรคเพื่อไทยจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ชัดเจนก่อนหรือไม่? เนื่องเพราะมี ส.ส.บางส่วนไปลงชื่อสนับสนุนญัตติให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย คำตอบที่สื่อมวลชนได้รับ คือ “คิดว่าพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคเอง ก็อาจจะส่งคำถามไปเพื่อดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายด้วย”
ก่อนที่ น.ส.แพทองธาร จะกล่าวในเวลาต่อมาว่า…เรื่องนี้พรรคร่วมรัฐบาลเคยคุยมาบ้างแล้วและต้องคุยกันต่อไป เนื่องจากเป็นข้อเสนอที่แต่ละพรรคมีมาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง และทราบอยู่แล้วว่าแต่ละพรรคเสนออย่างไร และที่คุยกันแต่ละพรรคก็คิดไม่เหมือนกัน
ข้ามไปยังสาระสำคัญที่ นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกันเลย โดยเฉพาะปมที่อาจถูกมองว่าพรรคเพื่อไทยกำลังเปิดปฏิบัติการ “หน้าอย่างหลังอย่าง” เรื่องนี้ เจ้าตัวยืนยัน…พรรคเพื่อไทยไม่ใช่หน้าอย่างหลักอย่าง แต่เพราะมีจุดยืน คือจะไม่แตะหมวด 1- หมวด 2 และไม่ใส่ความก้าวร้าว กระนั้น การพูดคุยกันในสภาผู้แทนราษฎร…ยังเป็นเรื่องจำเป็น ต้องคุยกันด้วยเหตุผล รักษาความสงบ และแสดงจุดยืนประชาธิปไตยของตัวเอง
ภาพรวมถือว่า…นายกฯแพทองธาร ตอบคำถามของสื่อมวลชนได้ดีทีเดียว ดูมีมิติมากกว่าการให้สัมภาษณ์หลายเดือนก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้…อาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคมไทย โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เคยหย่อนบัตรเลือกตั้งให้กับพรรคการเมืองที่เคยหาเสียง ทำนอง…หากได้เป็น ส.ส. ถึงขั้นเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะเดินหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ในทันที! แต่อย่างใด?
นี่แค่ 2 ข่าวหลักๆ นะ ถึงได้บอก…นาทีนี้ สังคมไทย…คงยากจะแยกแยะ! ว่าเราคนไทย…ควรให้ความสำคัญกับข่าวไหน? ในความเป็นข่าวการเมืองไทยกันแน่…นั่นไง!!!.