ฝ่ายค้านจี้รัฐเร่งควานหามือปืนยิง ‘อดีตฝ่ายค้านกัมพูชา’ ชี้! อียู-ทั่วโลกจับตาท่าที่ทางการไทย

ฝ่ายค้าน “พรรคประชาชน” ไล่บี้รัฐบาลเร่งติดตามมือปืนยิง “อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านกัมพูชา” ตายกลางเมืองหลวง ชี้! นานาชาติ โดยเฉพาะยุโรปจับตามองใกล้ชิด เหตุคนตายถือสัญชาติฝรั่งเศส ย้ำ! หากล่าช้า ยากจะลบข้อครหาเมืองไทยเป็นศูนย์กลางแก๊งอาชญากรข้ามชาติ ระบุ! ยิงแกนนำรัฐบาลมีสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้าน ยิ่งต้องเร่งเคลียร์คดีนี้โดยเร็ว

กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก และทำให้ประเทศไทยถูกตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของนักเคลื่อนไหวในทางการเมืองระหว่างประเทศ เมื่อ นายลิม กิมยา (LIM Kim Ya) วัย 74 ปี อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านจากพรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา (Cambodia National Rescue Party หรือ CNRP) ถูกยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงเย็นวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา หลังจากที่ตัวเขา ซึ่งปัจจุบันมีสัญชาติฝรั่งเศส พร้อมภรรยาและผู้ติดตามเดินทางเข้ามายังประเทศไทยในฐานะนักท่องเที่ยว และยังคงทำการเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยมีจุดยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล ของ สมเด็จฯ ฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา มาโดยตลอด

ล่าสุด เมื่อช่วงสายวันที่ 8 มกราคม 2568 นายปิยรัฐ จงเทพ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน ได้แถลงถึงกรณีถึงกรณีดังกล่าว โดยขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทย ในฐานะสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนของ UN เร่งกอบกู้ความเชื่อมั่นด้านความมั่นคง ปลอดภัยและความยุติธรรมกลับมาสู่ความรู้สึกของคนไทยและชาวโลกโดยเร็วที่สุด อย่าให้สังคมโลกจะมองประเทศไทยของเราเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน และเห็นว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของเหล่าแก๊งอาชญากร ใครจะอุ้มฆ่า ใครจะลอบสังหาร ใครจะลักพาตัวหลอกล่อไปเพื่อการค้ามนุษย์หรือใครจะส่งยาเสพติดไปที่ไหนๆ ต้องผ่านประเทศไทยก่อน เหตุการณ์ดังกล่าว ตนไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่รัฐบาลก็ควรเร่งเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามขบวนการอาชญากรเหล่านี้ให้สิ้นชาก และติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษโดยเร็วที่สุด

ส่วนสาเหตุเกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองหรือไม่นั้น ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายตั้งคำถาม แต่เราเองก็ไม่กล้าฟันธงไปเช่นนั้น เนื่องจากเขาเองก็เคยถูกข่มขู่จากฝั่งรัฐบาลของประเทศของเขา ทั้งนี้ เราคงไม่เข้าไปยุ่งกับกระบวนการยุติธรรมที่กำลังสืบสวนอยู่ แต่การเร่งจับกุมและได้มาซึ่งผู้ต้องหา เป็นการดีที่สุดที่จะนำมาสู่การสอบสวนในอนาคต ตนหวังว่าเรื่องนี้จะเป็นเพียงการก่อเหตุที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจงใจเข้ามาสังหารในประเทศไทย

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่บิดาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความสัมพันธ์กับผู้นำกัมพูชาหรือไม่นั้น ตนเห็นว่า อย่างไรรัฐบาลก้ควรตอบคำถามเรื่องนี้ให้ชัด และรัฐบาลคงไม่ทำให้เป็นไฟลามทุ่ง เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลพรรคใดก็แล้วแต่ ไม่ควรจะทำให้เป็นเรื่องปกติ ก็เชื่อได้ว่ารัฐบาลไทยจะพิสูจน์ข้อครหานี้ได้ หากมีการจับกุมได้เร็วที่สุด ก็จะคลายข้อสงสัยนี้ไปได้

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องเฉพาะกัมพูชา แต่จะเกี่ยวข้องกับฝรั่งเศสด้วย เพราะนายลิม ถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วย และเชื่อว่า ทั้งยุโรป และสหประชาชาติ จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะทั่วโลกจับตาอยู่แล้วว่า พรรคฝ่ายค้านของกัมพูชา กำลังถูกเล่นงานจากรัฐบาลกัมพูชา จึงถือเป็นเรื่องท้าทายของรัฐบาลไทย” ส.ส.พลังประชาชน ระบุ

ด้าน นายกัณวีร์ สืบแสง​ ส.ส.​บัญชีรายชื่อพรรคเป็นธรรม​ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรียกว่า การกดปราบ ข้ามชาติ ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่ใช่กรณีแรก โดยเป็นการที่ผู้ลี้ภัยหนีการประหัตประหารจากประเทศหนึ่งมาอีกประเทศหนึ่ง และมีการร่วมมือกันไม่ว่าจะเป็นอย่างเปิดเผยหรือในทางลับ ทำให้เกิดการกดปราบข้ามชาติ เหมือนกรณีของ นายวันเฉลิม ​สัตย์ศักดิ์สิทธิ์​ ที่หายตัวในกัมพูชา​ เช่นกัน เมื่อเดือนที่ผ่านมา ทางการไทยเองก็ได้ส่งตัวอดีตนักเคลื่อนไหวชาวกัมพูชากลับไปยังประเทศกัมพูชา สะท้อนให้เห็นความหย่อนยานในกระบวนการกฎหมายของไทย

ขณะที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานนสภาฯคนที่สอง เป็นประธานการประชุม ได้เปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่ ก่อนจะเข้าสู่วาระประชุมอย่างเป็นทางการ ซึ่ง นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้หารือถึงการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่รัฐสภา ว่า ตนเดินทางเข้าสภามาเมื่อเวลา 07.30 น. ไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตรวจอาวุธ และในเวลาดังกล่าวมีคนเดินตามหลังตนมาหนึ่งคน สะพายกระเป๋าเข้ามาโดยไม่มีการสแกนใดๆ ตนไม่อยากคิดว่าหากเขาซุกซ่อนปืนในกระเป๋าเข้ามาคงเดินเล่นในสภาฯ ได้อย่างสบาย ทั้งนี้ หลายคนคงจำเหตุการณ์ไล่ยิ่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น มีการไล่ยิงประชาชนและนักเรียน ตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ในรัฐสภาไทยของเรา เพราะหากเกิดขึ้นคงเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกแน่นอน ดังนั้นอยากให้เข้มงวดระบบรักษาความปลอดภัยในพื้นที่รัฐสภา ที่สำคัญอาจต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญมาหาจุดบกพร่องในรัฐสภาด้วย.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password