‘พิชัย’ ลุยด่านแม่สาย เชียงราย ถกแก้ปมค้าชายแดน – เร่งเปิดประตูการค้าเชื่อม 4 ชาติ ตั้งเป้าปีหน้า แตะ 2 ลล.

รมว.พาณิชย์ ลุยด่านแม่สาย เชียงราย ถกแก้อุปสรรคค้าชายแดน กำชับเร่งเปิดประตูการค้า เชื่อมโยงการค้า”ไทย-เมียนมา-ลาว-จีน” ปลื้ม 10 เดือนแรกปี 2567 มูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยรวมกันถึง 1.51 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น +6.18% แยกเป็นส่งออก 8.72 แสนล้านบาท  นำเข้า 6.42 แสนล้านบาท เกินดุลกว่าเฉียด 2.30 แสนล้านบาท เผย! วางเป้าขยายมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนเติบโตแตะ 2 ล้านล้านบาทภายในปี 2570  

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลัง ประชุมติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนและผ่านแดนจังหวัดเชียงราย ณ ด่านศุลกากรแม่สาย จ.เชียงราย โดยมี นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์  นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ คณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ด่านศุลกากร ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเชียงราย เพื่อเร่งทำงานเชิงรุก ส่งเสริมการค้าชายแดน-ผ่านแดน รับฟังข้อเรียกร้องภาคเอกชนแก้อุปสรรคการค้า ยกระดับศักยภาพท่าเรือเชียงแสนรองรับการค้ากับจีน กำชับศุลกากรป้องกันสินค้านำเข้าด้อยคุณภาพ

รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นปีทองของการค้าชายแดน ตนได้รับรายงานจาก กรมการค้าต่างประเทศ ว่าช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม – ตุลาคม) การค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยมีมูลค่าการค้ารวม 1,514,837 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +6.18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็นการส่งออก 872,043 ล้านบาท (+5.64%) และ การนำเข้า 642,794 ล้านบาท (+6.92%) โดยไทยได้ดุลการค้าถึง 229,248 ล้านบาท ซึ่ง กระทรวงพาณิชย์ มีเป้าขยายมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนให้เติบโตขึ้นไปเป็น 2 ล้านล้านบาทต่อปี ภายในปี 2570 ภายใต้ ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุนชายแดนและผ่านแดน ปี 2567 – 2570

ปัจจุบัน มีจุดผ่านแดนฝั่งไทยเปิดแล้ว 86 แห่ง จากทั้งหมด 94 แห่ง ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านเปิด 73 แห่ง โดยในวันนี้ ตนได้มาที่ด่านศุลกากรแม่สาย และได้เน้นย้ำถึงการทำงานเชิงรุกของกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ และภาคธุรกิจในพื้นที่ เพื่อเปิดประตูการค้าของไทย ทั้งในตลาดเดิมและประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการส่งเสริมการค้าชายแดนและผ่านแดนเพื่อขับเคลื่อนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และพิจารณาการยกระดับศักยภาพของท่าเรือพาณิชย์เชียงแสนเพื่อรองรับการค้ากับประเทศจีน ตามข้อเสนอของสภาหอการค้าจังหวัดเชียงราย โดยที่ประชุมฯได้มอบหมายให้ การท่าเรือแห่งประเทศไทยประสานงานกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด เพื่อศึกษาความคุ้มค่าของการลงทุน และมอบหมายกรมการค้าต่างประเทศติดตามความคืบหน้า เนื่องจากท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน เป็นเส้นทางการค้าที่มีศักยภาพเนื่องจากสามารถเชื่อมต่อการค้าระหว่างประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน (สปป. ลาว เมียนมา และจีน)

โดยในปี 2567 (มกราคม –ตุลาคม) ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสนมีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนรวม 5,962 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.53 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 5,650 ล้านบาท และการนำเข้า 312 ล้านบาท และจะเป็นเส้นทางขนส่งผลไม้ที่สำคัญ เนื่องจากจีนได้เห็นชอบให้ด่านกวนเหลี่ย เป็นด่านรองรับผลไม้ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา

นายพิชัย กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ ขอทำหน้าที่ส่งเสริมและอำนวยความสะดวกการค้าชายแดนและผ่านแดนไทยกับเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่องและเต็มที่ โดยในปี 2568 จะมีการจัดมหกรรมการค้าในพื้นที่จังหวัดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษและจังหวัดชายแดนหรือระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษ 4  ภาค รวม 6 ครั้ง และจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเปิดด่านตรงข้ามกับที่ฝั่งไทยเปิดแล้วหรือมีความพร้อมที่จะเปิดด่านอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มมูลค่าทางการค้าให้กับประเทศ

“กระทรวงพาณิชย์มีหน้าที่ส่งเสริมให้เอกชนค้าขายได้ดีขึ้น พร้อมช่วยผลักดันเพื่อเพิ่มการลงทุน ขอให้ภาคเอกชนที่ต้องการการสนับสนุนเตรียมข้อมูลให้กับทางรัฐบาล จะได้ซัพพอร์ตให้เต็มที่ในการแก้ไขอุปสรรคทางการค้าให้ภาคเอกชน เรื่องไหนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงพาณิชย์ก็พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนทันทีและยินดีที่จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และก่อนหน้านี้ ท่านนายกรัฐมนตรี (นางสาวแพทองธาร ชินวัตร) ได้ตั้งให้ผมเป็นประธานคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ขอให้ทางศุลกากรช่วยควบคุมเรื่องสินค้าด้อยคุณภาพที่จะเข้ามาในประเทศ ป้องกันไม่ให้มีปัญหาที่จะส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ด้วย” นายพิชัย ระบุ.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password