เตือน! อธิบดีกรมที่ดิน “อย่าดันทุรัง” ต้องยึด คำพิพากษาศาล “เขากระโดง” เป็นของ รฟท.
อัยการอาวุโส อสส. เตือน อธิบดีกรมที่ดิน ต้องทำตามคำพิพากษาศาล ที่ดิน “เขากระโดง” เป็นของการรถไฟ อย่าดันทุรังตั้งกก.ตรวจสอบอีกเลย ชี้ หากพ้นตำแหน่ง จะโดน ป.ป.ช. สอบแล้วจะจบไม่สวย
วันที่ 26 พ.ย.2567 นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ไลฟ์สดทางเฟซบุ๊กว่า เรื่องที่ดินเขากระโดงนั้น ศาลมีคำพิพากษาแล้วทั้ง ศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ และ ศาลปกครองกลาง ว่า “เขากระโดง” เป็นที่ดินของการรถไฟ เมื่ออธิบดีกรมที่ดิน จะไปตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ตามมาตรา 61 วรรค 1 ประมวลกฎหมายที่ดิน ในกรณีออกโฉนดโดยมิชอบ หรือ ออกโดยหลงผิด ซึ่งได้ตั้งกรรมการตรวจสอบรายละเอียดการตรวจสอบตามวรรค 2 ถึง 7
“แต่ในวรรคที่ 8 เป็นวรรคที่อธิบดีกรมที่ดิน ต้องอ่านมากๆ เพราะกฎหมายเขียนว่า ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาอย่างไร ให้ อธิบดีกรมที่ดิน หรือ เจ้าพนักงานปฏิบัติตามนั้น นั่นคือต้องเพิกถอนโฉนดที่ดินของราษฏร หรือ ของใครก็ตามออกไป แล้วเปลี่ยนใหม่เป็นที่ดินของการรถไฟ ต้องปฏิบัติตาม การที่ท่านตั้งกรรมการสอบสวนจึงไม่มีอำนาจ มีอำนาจแค่เพียงสั่งเพิกถอนตาม ม.61 วรรค 8 ผมถึงบอกว่าอธิบดีกรมที่ดิน อาจจะกำลังปฏิบัติหน้าที่อาจจะโดยมิชอบก็ได้ คดีประเภทนี้ผมไม่อยากให้ดำเนินคดีกับใครทั้งสิ้น กว่าจะเป็นอธิบดีได้มันใช้เวลานาน และ เมื่อพ้นจากอธิบดี หรือ เกษียณแล้วไม่เกิน 5 ปี เขาสามารถกล่าวโทษให้ ป.ป.ช.ดำเนินคดีได้ อย่าจบไม่สวยเลย ทางที่ดีควรดำเนินการตามที่ศาลมีคำพิพากษา”
นายปรเมศวร์ กล่าวอีกว่า ส่วนปัญหา สนามอารีน่า หรือ ชาวบ้านที่อยู่แถวนั้น รัฐบาลก็คุยกับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ให้ รฟท.ยอมให้สนามอารีน่า เช่าแข่งรถ สนามกีฬา อย่าไปทุบ ไปทำลาย ไม่มีประโยชน์ ให้เช่าได้ เหมือนกับที่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลฯ เช่า รฟท. เอารายได้เป็นของรัฐ เจ้าของสนาม ก็ได้กำไรถึงจุดคุ้มทุนพอแล้ว เช่า 30 ปี ต่อสัญญาทุก30 ปี ไม่มีปัญหาอะไรเลย อย่าทำให้น่าเกลียดเลย.