มุมนี้ Strategy X (ep.3) ตอน : ส.ว.กำแพงรอวันร้าว! ‘ผลไม้พิษ’ คอยขัดขวางประชาธิปไตย

>>OO>> “ถ้า คสช.คือต้นไม้พิษ ส.ว.คือผลไม้ ที่เป็นผลิตผลของต้นไม้นั้น” วลีเด็ดข้างต้นนี้ ช่างเข้ากับ สถานการณ์การเมืองไทย ยามนี้ยิ่งนัก แม้ ฝั่งประชาธิปไตย ที่ได้ “ก้าวไกล” เป็นพรรคแกนนำ เพราะได้ ส.ส.เข้าสภาฯมากสุด 152 เสียง ตามมาด้วย “เพื่อไทย” 141 เสียง รวมกับ ฝ่ายค้านเดิมและพรรคตั้งใหม่ เป็น 310 เสียง รอการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ แต่เพราะผลพวงความเป็นพิษ! เรื่องง่ายๆ ที่บ้านเมืองประชาธิปไตยทั้งหลาย…ทำกันได้ทันที จึงทำได้ไม่ง่ายในบ้านเมืองไทย แม้ ส.ว.หลายคน จะแนะให้ ฝ่าย ส.ส.ไปรวมเสียงให้ได้เสียก่อน ก่อนจะหวังเสียงจาก ส.ว. ที่ส่วนใหญ่ “ไม่ยี่ระ” ต่อ ฉันทามติของประชาชน ที่ต้องการจะเห็นความเป็นไปบนความเปลี่ยนแปลงในประเทศนี้ และความเป็น ประชาธิปไตย สักเท่าใด?

>>OO>> ทว่าเสียงที่ “ก้าวไกล” ในฐานะ แกนนำ จะต้องไปรวบรวมมาให้ได้นั้น จะต้องมีมากถึง 376 เสียง หากหวังจะ “ปิดสวิทซ์ – ผลไม้พิษ” และนั่น…อาจทำให้ทั้ง พรรคและแกนนำฯ ต้อง พลิกลิ้น…กลืนเลือดในทางการเมือง เพื่อให้ผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้ เรื่องราวเหล่านี้…คนที่ขาดประสบการณ์ในทางการเมือง และไม่เคยบริหาร “อำนาจ” ที่ว่ากันว่า…บริหารยากสุด! จะเข้าใจในปรากฏการณ์เหล่านี้มากน้อยแค่ไหน? ที่สำคัญ บรรดาแฟนคลับฐานเสียง ในฐานะ “ด้อมส้มจะรู้และเข้าใจในสถานการณ์ทางการเมือง ที่ “ก้าวไกล” และฝ่ายประชาธิปไตย กำลังประสบปัญหาในเวลานี้หรือไม่? อย่างไร?

>>OO>> หากอยากเห็น “ก้าวไกล” เป็น แกนนำจัดตั้งรัฐบาล อยากให้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็น นายกฯคนที่ 30 หรืออย่างน้อย…เปิดทางให้พรรคการเมืองฝ่ายเดียวกัน เป็นแกนนำจัดตั้ง “รัฐบาลฝั่งประชาธิปไตย” แม้กระทั่ง ดึงเอาบางพรรคการเมือง? ที่เคยประกาศจะไม่ร่วมงานการเมือง มาร่วมรัฐบาล พร้อมวางเป้าหมาย “ปลดล็อก” ให้อำนาจ ส.ว. เลือกนายกรัฐมนตรี แล้ว…ทั้ง “ด้อมส้มและคนในฟาก “ประชาธิปไตย” ทำใจยอมรับความเป็นไปในสถานการณ์นี้กันได้แค่ไหน? ครั้นจะหวังให้ ส.ส.ฝั่งตรงข้าม ทั้ง…พรรค 2 ลุง พรรคที่สนับสนุนนโยบายกัญชาเสรี และ พรรคที่เปรียบตัวเองเป็น “แมลงสาบ” ยึดหลักการ…รัฐบาลเสียงข้างมาก ยกมือสนับสนุน…การรวม ส.ส. เกินกึ่งหนึ่งของสภาฯ (400+100) หรือมากกว่า 251 เสียงขึ้นไปนั้น พูดให้ช้ำใจกันตรงนี้…ผิดหวังแน่!

>>OO>> นาทีนี้ “ฮาร์วาร์ด” เอง ก็ไม่ได้สอนให้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” แก้ปมปัญหาการเมือง โดยเฉพาะ การเมืองแบบไทยๆ เช่นที่…เมื่อเกิดปรากฏการณ์ “เติบโตไว” ชนิดทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายเดียวกันและฝั่งตรงข้ามเองก็คาดไม่ถึง…ประหนึ่ง “ต้นถั่ว” ในเทพนิยายเด็ก “แจ็คผู้ฆ่ายักษ์” มันจึงเกิดเป็นปัญหาอย่างที่เห็น แม้หลายคนจะเคยมี ประสบการณ์ทางการเมือง มาตลอด 4 ปี แต่ก็ไม่ถือว่า…เชี่ยวกราก มากพอจะรับมือกับบรรดา “เขี้ยวการเมือง” ที่ผ่านการ “กรำศึก” มายาวนาน…ต่อเนื่อง แถมยัง ไม่เคยผ่านการบริหารประเทศ ไม่เคยบริหารอำนาจ ที่สำคัญ…รู้กันหรือยัง? ว่าจะเอาใครมาทำหน้าที่ “ประมุข” แห่งอำนาจนิติบัญญัติ ดูแลและควบคุมการประชุมสภาฯ เตรียมการบรรจุร่างกฎหมายที่หวังจะแก้ไข นี่ยังไม่รวมว่าจะหาใครมาเป็น รัฐมนตรีกระทรวงสำคัญๆ ขับเคลื่อนนโยบายของพรรคฯและรัฐบาล หวังใจว่า…การประชุมร่วม “ถกจัดตั้งรัฐบาล” กับ “เพื่อไทย” และพันธมิตรการเมือง ช่วงเวลา 4 โมงเย็นวันนี้ (17) คงจะมีกรอบแนวคิดและแนวทางที่จะเป็นทางออกให้กับบ้านเมืองและการเมืองไทย

>>OO>> สิ่งที่ ไอติม – พริษฐ์ วัชรสินธุ ผกจ.การสื่อสารและการรณรงค์นโยบายของ “ก้าวไกล” โพสต์ จดหมายเปิดผนึก 6 ข้อ ถึง ส.ว. 250 คน เมื่อวันวาน (16) หวังโน้มน้าวให้ 64 ส.ว. ที่ครั้งหนึ่งเคยมีแนวคิด เคยให้สัมภาษณ์ หรือลงมือกระทำบางอย่าง ในช่วงปี 2563 – 2565 สนับสนุนการยกเลิก มาตรา 272 ที่ให้อำนาจ ส.ว. เลือกนายกรัฐมนตรี นั้น ถือเป็นเรื่องดีงามกับบ้านเมืองที่มีอารยะและความเป็นประชาธิปไตย แต่อาจใช้ไม่ได้กับคนกลุ่มนี้ ต้องไม่ลืมว่า…ส่วนใหญ่ของพวกเขา คือ “ผลไม้พิษจากผลพวงการทำรัฐประหารยึดอำนาจประชาชน เมื่อปี 2557 ดังนั้น การดำรงอยู่ของ ส.ว.ชุดนี้ จึงมีเป้าหมายเดียว! คือ เหนี่ยวรั้งประชาธิปไตย…ไม่ให้เบ่งบาน เท่านั้นจริงๆ

>>OO>> คนกลุ่มนี้…อยู่กันแบบสุขสบาย บนกองเงินภาษีของพี่น้องประชาชนคนไทยกว่า 60 ล้านคน ตลอด 4 ปีเศษของการทำหน้าที่ ส.ว. และยังสามารถเสนอแต่งตั้ง “พี่น้องลูกเมียและคนใกล้ชิด” มาพ่วงกินเงินเดือนในฐานะ “ที่ปรึกษา” โดยไม่รู้สึกรู้สาถึงความรู้สึกของประชาชนผู้เสียภาษีแต่อย่างใด? พวกเขาพร้อมเอาตัวเองไปทำหน้าที่เป็น “กำแพง” กันขวาง “สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง” ชนิดไม่สนใจว่า…สิ่งนั้น จะสร้าง “รอยร้าว” ให้กับตัวเอง กระทั่ง “กำแพง” ที่ว่า…กลายเป็นเศษซากปรักหักพัง แทนการจะเป็น “กังหันลม” ที่โอบรับและก้าวไปด้วยกันกับความเปลี่ยนแปลงเช่นที่สังคมไทยต่างปรารถนา ถึงบรรทัดนี้…ทั้ง “ไอติม” “ด้อมส้ม” “ก้าวไกล” และฝ่ายประชาธิปไตย จงอย่าได้ตั้งความหวังอันใด? ไว้กับ ส.ว.กลุ่มนี้เด็ดขาด!

>>OO>> อยากให้ “ก้าวไกล” ตั้งแต่ หัวหน้าฯยันสมาชิกพรรคฯ รับรู้เอาไว้…การเติบโตแบบก้าวกระโดด ท่ามกลางความอ่อนด้อยประสบการณ์ในทางการเมืองและการบริหารอำนาจรัฐ! พวกคุณเอง…อาจตกเป็น “เหยื่อ” ในทางการเมือง ได้! ลำพัง “ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ” เมาแล้วขับ แค่นี้…ก็อาจทำลายความชอบธรรมของพรรคฯได้แล้ว ยังดีที่กลับได้ลำทัน…เมื่อ ว่าที่ ส.ส.ต้นเรื่อง ประกาศ “ขอลาออก” เรื่องก็คงถูกนำไปขยายได้ไม่ไกลมากนัก แต่ที่ยากยิ่งกว่า ก็คือ…การวางยา จากฝั่งตรงข้าม ปม “ชูวิทย์ VS สันทนะ” หน้าที่ทำการพรรคฯ เมื่อวันก่อน…คิดหรือว่า สิ่งนี้คือเรื่องปกติวิสัย…จะเป็นไปได้หรือไม่? หากมี ใครบางคนหรือคนบางกลุ่ม?จัดฉาก ให้การวิวาทระหว่าง “คู่กัด” ไปเกิดขึ้น หน้าที่ทำการพรรคก้าวไกล เมื่อรู้และเห็นกันอย่างนี้แล้ว…คงต้องระวัง! อย่าได้ปล่อยให้ใครคนใด? เอา ตราสัญลักษณ์ของพรรคฯ ไปใช้ในทางที่ผิดทำนองคลองธรรมเด็ดขาด! ตีกันเสียแต่เนิ่นๆ…ยังไม่สาย

>>OO>> เห็น ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ ที่ สภาพัฒน์ ประกาศไว้เมื่อ 2 วันก่อน…ก็เบาใจแทน “รัฐบาลชุดใหม่” ยิ่งข้อมูลที่ เลขาฯดนุชา พิชยนันท์ แถลงไว้…เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกปีนี้ โตถึง 2.7% โดยมีแรงหนุนจากการใช้จ่าย การส่งออกบริการ และอุปโภคบริโภคภาคเอกชน แม้การส่งออกจะติดลบ 4.6% สวนทางกับการนำเข้าที่ขยายตัว 1.3% แต่บางส่วนก็เป็นการนำเข้าวัตถุดิบมาเพื่อผลิตและส่งออก โดยที่การลงทุนเอกชนขยายตัว 2.6% และลงทุนภาครัฐขยายตัว 4.7% ขณะที่เงินเฟ้ออยู่ที่ 3.9% ทั้งนี้ สภาพัฒน์ ประเมินไว้…ทั้งปี จีดีพีไทย น่าจะโตได้ถึง 2.7-3.7% เพราะได้ปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ที่ ททท.มั่นใจอย่างมาก นักท่องเที่ยวต่างชาติแตะ 28 ล้านคนแน่ๆ รวมถึง การขยายตัวดีของการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน และการขยายตัวต่อเนื่องของการลงทุน ที่อยู่ในเกณฑ์เติบโตอย่างน่าพอใจ หาก “รัฐบาลชุดใหม่” มีความเป็นประชาธิปไตยและตั้งได้ไว โอกาสของประเทศไทยก็น่าจะมีมากยิ่งขึ้น ไม่แน่ว่า…ตัวเลขจีดีพี ที่ สภาพัฒน์ ตั้งต่ำไว้แค่นี้ อาจจะขยับเพิ่มขึ้นเป็น 5% เช่นที่ “เศรษฐา ทวีสิน” ฝันไว้…ก็เป็นไปได้

>>OO>> ทิ้งท้าย…ขอแสดงความเสียใจกับแฟนบอล นักฟุตบอล และผู้เกี่ยวข้องของทีมฟุตบอลทีมชาติไทย U22 ชุดชิงแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 23 ณ กรุงพนมเปญ กัมพูชา โดยเฉพาะ “บิ๊กหยิม” ยุทธนา หยิมการุณ ผจก.ทีมฟุตบอลฯ และอดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง หลังจากทีมฟุตบอลทีมชาติไทย พลาดท่า…พ่ายแพ้ให้แก่ ทีมฟุตบอลอินโดนีเซีย ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2 : 5 โดยตลอดทั้งเกม…มีสารพัดเรื่องราวที่ไม่น่าจดจำ ทั้งในและนอกสนาม หวังว่า…การแข่งขันซีเกมส์ครั้งถัดไปที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ…สิ่งนี้ จะไม่บังเกิดให้เห็นอีกแล้ว แล้วพบกันใหม่ – ep.4.

By : ทีมข่าวยุทธศาสตร์ No.1

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password