ก่อนการปะทะระหว่างไทยกับเขมร เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ผมและคนไทยส่วนใหญ่เชียร์กันสุดกำลัง ให้…ทหารไทยทำสงครามกับเขมรให้มันรู้แล้วรู้รอดกันเสียที

แต่วันที่ ทหารไทยสูญเสียขาที่ 7 เมื่อวานนี้ (10 พฤศจิกายน)  ผมกลับคิดไม่เหมือนเดิมครับ

ทหารไทยเราเสียชีวิตวันนั้น 15 นาย พลเรือนเสียชีวิต 17 คนและบาดเจ็บมากกว่า 200 ราย  ฝ่ายเขมรอ้างว่าทหารเขาตาย 45 นาย  แต่ข่าวที่ไม่อาจปกปิดได้ทั่วโลกรู้ดีว่า ทหารเขมรตายไปกว่า 6,000 คน

คนไทยที่ติดตามข่าวนี้อย่างใกล้ชิดก็เชื่อว่า ทหารเขมรตายจำนวนมากเช่นนั้นจริง

ใครๆ ก็รู้ว่า ทหารเขมรสวาปาม “ไข่สวรรค์” จากนกเหล็กกริ๊พเพ่น และ F-16 ไปจน

อ่วมอรทัย โดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว  และเป็นความชาญฉลาดของกองทัพไทย ที่ไม่รบแบบโบราณอีกแล้ว แต่ด้วยฝีมืออันชาญฉลาดและเงียบกริบทางเทคโนโลยีชั้นสูง ที่ผสมผสานของกองบินกริ๊พเพ่นกับกองบิน F-16 อย่างกลมกลืน บวกกับกำลังทหารทุกส่วนตามชายแดน

ทหารไทยเราจึงรบชนะโดยไม่ต้องประกาศอย่างเป็นทางการ และตรงตามทฤษี “หลีกเลี่ยงการรบที่ยืดเยื้อ เพื่อคว้าชัยชนะมาแบบสูญเสียน้อยที่สุด”

แต่คราวนี้  ไม่ใช่ครับ…..เหตุการณ์เปลี่ยน เวลาเปลี่ยน แม้ความพร้อมของกองทัพไทยยังพร้อมรบทุกนาที

คราวนี้ฝ่ายเขมรไม่น่าเหมือนเดิมอีกแล้ว เขาอาจพร้อมเท่าไทย หรืออาจมากกว่าไทยด้วยซ้ำ

เราจึงระแคะระคายมาว่า เขมรแอบซุ่มกำลัง ยกอาวุธยุทโธปกรณ์มาประชิดชายแดนไทยมากกว่าเก่าเสียอีก

แถมแอบซุ่มอาวุธลับที่จะ “สอยนกเหล็ก”ของไทยให้ได้ด้วย

บางคนอาจลืมว่า ข่าวทางเขมรระบุว่า ทางทูตจีนประจำเขมรเคยกล่าวหลังการปะทะเสร็จไม่นานว่า จีนจะสนับสนุนกองทัพเขมรตามพันธะสัญญาเดิมไม่เปลี่ยนแปลง  จึงตีความได้ว่า เขมรก็ยังได้รับอาวุธจากจีนต่อไป

ใครที่ยังไม่ทราบก็รีบรับรู้ให้เร็วๆด้วยว่า  เบื้องหลังการพร้อมรบรอบใหม่นี้ ผมเป็นชาวบ้านธรรมดายังคิดได้เลยว่า เขมรต้องเอาคืนแน่ๆ

เอาคืนยังไง  ก็แอบขออาวุธที่ทันสมัยจากจีน เพื่อ “สอยนกเหล็กไทย”ให้ได้

เครื่องบินรบไทย ที่คุยๆว่าทันสมัยและระบือลือลั่นในยุทธจักรสงคราม ณ วันนี้ คือ

กริ๊พเพ่น

ถ้าฮุนเซนสอยกริ๊พเพ่นไทย (หรือรุ่นไหนก็ได้ ) ตกแค่เพียงลำเดียว  พี่น้องรู้หรือไม่ว่า สวีเดนจะหน้าแหกขนาดไหน  และประชาชนไทยยังจะเชิดหน้าไชโยโห่ฮิ้วกันต่อไปได้ยังไง

ถ้าผมคิดแบบคนเล่นกีฬายิงปืนแบบรณยุทธ(  IPSC ) ผมเชื่อว่า ทหารไทยเราคงฉลาดกว่าผมอีกหลายเท่า และพี่น้องอีกหลายท่านได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จะเข้าใจถึงบริบทในพื้นที่แล้ว จะรู้ว่าเวลานี้สถานการณ์ชายแดนไทย-เขมรจะไม่เดินตามรอยเก่าอีก

ฉะนั้น อย่าบ้าจี้ สุ่มสี่สุ่มห้า อย่าเอาแต่ลำพอง จองหองหาญว่าเราเคยรบชนะมาแล้ว คราวนี้น่าจะลิงโลดอีหรอบเดิม

อย่าลืมว่า ฮุน เซน เป็น เผด็จการในคราบเลือกตั้งมานาน ฮุน เซน ล้ม! สถาบันกษิตริย์เขมรมาอยู่ในกำมือได้ และครอบครองเงินทองนอกงบประมาณแผ่นดินเขมร (ทุนเทา)มหาศาล สามารถตั้งกองทัพ BHQ พิทักษ์ตระกูลตัวเองได้ พูดง่ายๆ ว่า ถ้าเกิดปัญหาไม่ว่าใหญ่โตขนาดไหนในแผ่นดินเขมร

ฮุนเซน สั่งเบิกเงินก้อนใหญ่ไปแก้ปัญหา เหมือนมาเฟียทั่วโลกเขาทำ ได้ทันที

ผมคิดเล่นๆต่อไปอีกว่า ถ้า ฮุน เซน จะโน้มตัวเข้าไปกราบขออาวุธลับจากมหาอำนาจใดชาติหนึ่งเพื่อ “ปราบนกเหล็กไทย”

และหาก ฮุน เซน จะทุ่มเงินซักก้อนเติบแล้วไปจ้างนักรบรับจ้างจากต่างชาติ เหมือน “นักรบว้ากเนอร์”ของรัสเซีย มาช่วยรบแทนหรือเสริมกองกำลังลับให้เขมรได้ไหม

ผมเชื่อว่า ฮุนเซน ทำ และน่าจะทำไปแล้ว ซึ่งถ้าเราสังเกตข่าวจากเขมรบางข่าว ปรากฏชายคล้ายทหารรัสเซียมายืนประกอบหลังฮุนเซนมาแล้ว

สถานการณ์วันนี้ จึงไม่เหมือนวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิง!!!

ตำราพิชัยสงคราม ไม่ว่าเล่มเดิมหรือเล่มไหนๆ จึงบันทึกไว่ว่า “เมื่อพร้อม  ให้ทำเสมือนไร้พลัง  เมื่อเคลื่อนไหว  ให้ทำเสมือนนิ่งเฉย  เมื่ออยู่ใกล้  ให้ทำเสมือนอยู่ไกล”

และเมื่อขาที่ 7 ขาดไป ก็อย่าสุ่มสี่สุ่มห้า บ้าจี้รบ แต่คิดให้ลึกซึ้งเนียนๆ ดีกว่าครับ !

เคาะหัวหลายๆที  ติ๊กต็อก ติ๊กต็อก…..!!!.

ณรงค์  ปานนอก