คมนาคมเร่งผลักดัน Dry Port ได้เกิด! ลดต้นทุนการขนส่งเชื่อมโยง ‘บก – ราง – น้ำ’
“รมช.คมนาคม – มนพร เจริญศรี” ประกาศเดินหน้าผลักดันท่าเรือบก (Dry Port) พร้อมให้เกิดแน่! หวังลดต้นทุนการขนส่งเชื่อมโยงระบบการขนส่งทั้งทางบก ระบบ ราง และการขนส่งทางน้ำ เผย! โซนอีสาน เล็งพื้นที่นครราชสีมา ยกระดับเป็นการขนส่งสินค้าในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้าน “ผอ.การท่าเรือฯ” ระบุ! ผลศึกษาชี้ 4 รูปแบบการลงทุน คือ 1.PPP 2. Joint Venture 3. กทท.ลงทุนเอง และ 4.รูปแบบอื่นๆ
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า รัฐบาลได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการขับเคลื่อนการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port)ให้เกิดเป็นรูปธรรม เพื่อลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและเชื่อมโยงโครงข่ายการขนส่งสินค้าของประเทศให้มีประสิทธิภาพ การพัฒนา Dry Port จึงเป็นหนึ่งในการดำเนินโครงการสำคัญของกระทรวงคมนาคมที่จะช่วยส่งเสริมโครงข่ายการเชื่อมโยงสินค้าและระบบโลจิสติกส์ ทั้งภายในและระหว่างประเทศให้ใช้การขนส่งทางรางและทางน้ำเป็นหลัก เนื่องจากเป็นระบบการขนส่งที่มีความปลอดภัย ต้นทุนต่ำกว่าการขนส่งทางถนน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
จากการศึกษาเบื้องต้นพบว่า จังหวัดนครราชสีมา เป็น 1 ใน 4 จังหวัดที่มีความเหมาะสมที่สุดในการพัฒนา Dry Port เพื่อยกระดับการขนส่งสินค้าในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามนโยบายส่งเสริมการลงทุนและระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐบาล เนื่องจากมีความพร้อมด้านการเป็นศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างที่เชื่อมต่อกับ สปป.ลาว ตอนใต้ และเมียนมา และยังมีศักยภาพที่จะสามารถเชื่อมโยงการขนส่งไปยังประเทศจีนได้ในอนาคต นอกจากนี้ พื้นที่ยังครอบคลุมการขนส่งทั้งทางถนนและทางราง โดยอยู่ห่างจากท่าเรือแหลมบัง 320 กิโลเมตร ประกอบกับมีจุดแข็งที่สำคัญ คือ มีสินค้าส่งออกที่สำคัญทั้งสินค้าทางการเกษตร อาทิ แป้งมันสำปะหลัง ข้าว น้ำตาล และยังเป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่เน้นการขนส่งภายในประเทศด้วย
ทั้งนี้ ตนได้มอบให้ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เร่งสำรวจพื้นที่ภายในจังหวัดนครราชสีมาที่มีความเหมาะสมกับการพัฒนา Dry Port และผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรม เพื่อช่วยสนับสนุนการขนส่งหลายรูปแบบอย่างไร้รอยต่อ (Seamless Transport) ที่จะช่วยลดปัญหาความแออัดจากการขนส่งสินค้าเข้า – ออกที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งหลักของประเทศในขณะนี้ ช่วยยกระดับการให้บริการให้สะดวกรวดเร็ว ลดระยะเวลาการรอคอย ลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของประเทศ รองรับการเติบโตด้านการขนส่งสินค้าผ่านทางเรือชายฝั่งและทางรถไฟที่จะเกิดขึ้นจากโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศโดยรวม อันจะเป็นกลไกที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของภูมิภาค
ด้าน นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสำรวจพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือบก Dry Port บริเวณสถานีรถไฟบ้านกระโดน ตำบลหนองไข่น้ำ อำเภอเมือง และบริเวณตำบลกุดจิก อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา และการประชุมศึกษาแผนการดำเนินการความเป็นไปได้ของรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม ร่วมกับสถาบันชุณหะวัณเพื่อการพัฒนาธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยราชมงคลอีสาน ในฐานะผู้จัดการโครงการพัฒนาท่าเรือบกในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และคณะที่ปรึกษาโครงการฯ พบว่า มีความเป็นไปได้ของรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับ กทท. ในการพัฒนา Dry Port 4 แนวทาง ได้แก่ รูปแบบพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 (PPP) รูปแบบการลงทุนร่วมกับบริษัทเอกชน (Joint Venture) รูปแบบการใช้เงินลงทุนของ กทท. และรูปแบบอื่น ๆ แผนการลงทุน และการป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นของโครงการฯ ที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกมิติ โดยจะพิจารณาด้านความพร้อมในการดำเนินโครงการฯ เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมต่อไป.