‘รองฯพิชัย’ เข้มแก้หนี้ครัวเรือน จ่อคุยแบงก์พาณิชย์ ยืดผ่อนหนี้ 10 ปี ตามรอย ธอส.
รองนายกฯและรมว.คลัง “พิชัย ชุณหวชิร” จ่อเจรจาแบงก์พาณิชย์ หวังยืดอายุการผ่อนชำระลูกหนี้กู้ซื้อบ้าน พร้อมดัน ธอส. นำร่องยืดผ่อนหนี้ออกไปอีก 10 ปีเป็น 75 ปี ในกลุ่มบุคคลทั่วไป และ 85 ปี สำหรับข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ด้านเอ็มดี. ธอส. รับลูกขยายปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้ากู้ซื้อบ้าน 7-10 ล้านบาท ตั้งเป้าปล่อยกู้ครึ่งหลังปี 2567 อีก 1.7 แสนล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจไทย เผย! นำร่องแก้หนี้ ผ่านมหกรรมแก้ไขหนี้และไกล่เกลี่ยภาคครัวเรือน ร่วมกับศาลยุติธรรม จุดพลุที่ จ.นครราชสีมา
เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ณ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สาขานครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงานมหกรรมแก้ไขหนี้และไกล่เกลี่ยภาคครัวเรือน จัดโดย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และ สำนักงานศาลยุติธรรม เพื่อเปิดโอกาสให้ ลูกค้ากลุ่มเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) และ ลูกค้าสถานะ NPL ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ เข้าเจรจากับธนาคาร โดยมีบุคลากรจากศาลเป็นคนกลางในการประนีประนอม โดยการเจรจาขอประนอมหนี้กับเจ้าหน้าที่ ธอส. ครบจบในวันเดียว แบบ One Stop Service ลดขั้นตอนกระบวนการทางศาล ทำให้ลูกค้าสามารถรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป
“บุคลากรศาลที่มาร่วมเปิดโต๊ะเจรจาประนอมหนี้ในครั้งนี้ เป็นผู้มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์ในการช่วยแก้ไขปัญหาหนี้ให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และกลับมามีความสามารถในการผ่อนชำระเงินงวดได้ตามปกติ ทำให้ลูกค้ายังคงรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป” นายพิชัย ย้ำและว่า
ความร่วมมือของ ธอส. และสำนักงานศาลยุติธรรมในครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญที่หน่วยงานรัฐ บูรณาการความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มีภาระหนี้สินลดลง รัฐบาลและกกระทรวงการคลัง จึงมั่นใจว่าการจัดงานในครั้งนี้ จะมีประโยชน์กับประชาชน และลูกค้าของ ธอส. ในการแก้ไขปัญหาหนี้ของตนเองได้รวดเร็วมากขึ้น ลูกค้าไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการทางศาล และลูกค้าสามารถเลือกเข้ามาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ของธนาคาร ที่เหมาะสมกับลูกค้าอีกด้วย
นอกจากนี้ ภายในงานมหกรรมแก้ไขหนี้และไกล่เกลี่ยภาคครัวเรือน ธอส. ยังจัดบูธ ธอส. โรงเรียนการเงิน
สำหรับให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการออม สำหรับผู้ที่ยังขาดโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัย, บูธให้คำปรึกษาด้านสินเชื่อ สำหรับลูกค้าที่มีความสนใจสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำตามนโยบายรัฐบาลของ ธอส. อาทิ สินเชื่อบ้าน Happy Home, สินเชื่อบ้าน Happy Life และ สินเชื่อบ้าน Mild Home และ บูธกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ซึ่ง ธอส. ดำเนินโครงการสร้าง/ซ่อมที่อยู่อาศัย เพื่อผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้พิการมาอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการดำเนินงานตามภารกิจหลักในการสนับสนุนสินเชื่อที่อยู่อาศัยแก่ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางให้สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง
นายพิชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ตนยังได้มอบนโยบายให้ ธอส. ปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตราดอกเบี้ยต่ำในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 อีกราว 170,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ให้ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ธอส.ถือได้ว่าได้นำร่องในการแก้ไขปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนให้กับแบงก์พาณิชย์อื่นๆ ซึ่งปัจจุบันพบว่าภาพรวมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบมีประมาณ 4 ล้านล้านบาทเศษ โดยกว่า 60% เป็นสัดส่วนของธนาคารพาณิชย์ โดยตนจะเร่งสื่อสารเพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ได้ช่วยลดปัญหาของลูกหนี้ ด้วยการยืดอายุการผ่อนชำระออกไป เหมือนเช่นที่ ธอส.พร้อมจะยืดอายุการผ่อนชำระสำหรับคนทั่วไป จาก 70 ปีเป็น 80 ปี และข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจจาก 75 ปีเป็น 85 ปี ซึ่งจะทำให้คนกลุ่มนี้มีเงินเหลือใช้จ่ายมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังให้ ธอส.พิจารณาปล่อยสินเชื่อในกลุ่มบ้านราคา 7-10 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์กลุ่มนี้อีกด้วย
ด้าน นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า ธอส.พร้อมจะดำเนินนโยบายของ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยเฉพาะการขยายระยะเวลาผ่อนชำระ ซึ่งจะทำให้ลูกหนี้ประหยัดเงินผ่อนรายเดือนทุกๆ 1 ล้านบาท ได้ 500-2,000 บาท จากเดิมที่ต้องผ่อนประมาณเดือนละ 4,000 บาทเศษ ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวเชื่อว่าจะช่วยลดปัญหาเอ็นพีแอลของ ธอส. จากเดิม 5.7% เหลือเพียง 5.0% โดยปัจจุบัน ธอส.มีการสำรองหนี้ฯสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อยู่แล้ว
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th.