แบงก์ชาติผนึกธนาคารกลางฮ่องกง  เปิดตัวบริการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่าน QR code เพิ่มความสะดวกให้ผู้เดินทางระหว่างไทยและฮ่องกง 1.5 ล้านคนต่อปี จ่ายชำระเงินระหว่างประเทศได้ง่ายขึ้น เผย! ร้านค้าไทยได้รับอานิสงส์เต็ม หลังจากลูกค้าฮ่องกงชำระเงินจะถูกแปลงเป็นเงินเงินบาททันที

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการให้บริการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่าน QR ระหว่างฮ่องกงและไทย ว่า เป็นความร่วมมืออีกก้าวสำคัญในการพัฒนาด้านดิจิทัลของไทย ทำให้ผู้ใช้บริการระหว่าง 2 ชาติสามารถทำรายการชำระเงินกับร้านค้าได้ง่าย ผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือสแกน QR มาตรฐานของไทย (Thai QR code) และผู้ใช้บริการที่มาจากประเทศไทย สามารถใช้แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือสแกน QR ของฮ่องกง (Hong kong FPS QR code) ที่ร้านค้าได้แสดงไว้ ทำให้ผู้ใช้บริการมีช่องทางชำระเงินที่สะดวก ขณะที่ร้านค้าจะได้รับเงินค่าสินค้าในทันที ทั้งยังเป็นการสนับสนุนธุรกิจการท่องเที่ยวและกิจกรรมทางเศรษฐกิจของฮ่องกงและประเทศไทยด้วย ซึ่งปัจจุบันมีผู้เดินทางระหว่างฮ่องกงและไทย ประมาณ 1.5 ล้านคนต่อปี

สำหรับ บริการ Cross-border QR Payment ซึ่งเป็นระบบชำระค่าสินค้าและบริการระหว่างประเทศ โดยการสแกน QR ผ่านโมบายแอปพลิเคชั่นของธนาคาร (เป็นบริการเดิม) ไม่มีความแตกต่างจากบริการชำระเงินด้วย Thai QR code (เปิดตัวใหม่ครั้งนี้) แต่จะต่างตรงที่ เมื่อมีการชำระเงินในต่างประเทศ ธนาคารจะแปลงค่าสินค้าและบริการเป็นเงินบาท ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนขณะทำรายการ แล้วจึงหักเงินในบัญชีเงินฝากของลูกค้าที่ผูกไว้กับโมบายแอปพลิเคชั่น กรณีร้านค้าในประเทศไทยเป็นผู้ขาย ก็จะได้รับเงินเป็นเงินบาทตามราคาสินค้าและบริการทันที โดยธนาคารจะใช้อัตราแลกเปลี่ยนตามปัจจัยตลาด ซึ่งแข่งขันได้กับผู้ให้บริการอื่นๆ บริการ Thai QR code นี้ ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียม และไม่จำกัดวงเงินใช้จ่าย

แตกต่างจากระบบการชำระเงินผ่าน Cross-border QR ที่มีการกำหนดวงเงินใช้จ่าย สำหรับผู้ใช้งานที่มาจากไทยที่ใช้จ่ายผ่าน Cross-border QR สำหรับผู้ใช้งานไทย ใช้จ่ายผ่าน Cross-border QR ได้สูงสุด 1 แสนบาท/รายการ หรือสูงสุดไม่เกิน 5 แสนบาท/วัน ส่วนผู้ใช้งานจากฮ่องกง ใช้จ่ายผ่าน Cross-border QR ได้สูงสุดไม่เกิน HKD 1 หมื่นบาท/วัน (ไม่กำหนดวงเงินต่อรายการ)

ทั้งนี้ ผู้ใช้งานจากฮ่องกง เดินทางมายังไทย ชำระเงินค่าสินค้าโดยสแกน QR code ผ่านแอปพลิเคชั่นของผู้ให้บริการฮ่องกงในมือถือของผู้ใช้งาน ซึ่งผูกบัญชีเงินฝากไว้ แล้วสแกน Thai QR code ร้านค้าในไทย ออกโดยผู้ให้บริการไทยที่ร่วมโครงการ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทยและธนาคารไทยพาณิชย์ โดยร้านค้าไทยจะได้รับเงินจากลูกค้าจากฮ่องกง เมื่อเงินถูกตัดจากบัญชีผู้ใช้งานฮ่องกง และนำเข้าบัญชีของร้านค้าไทยทันทีเป็นเงินบาท

ส่วน ผู้ใช้งานจากไทย เดินทางไปฮ่องกง ธนาคารจะใช้อัตราแลกเปลี่ยนตามปัจจัยตลาด โดยผู้ใช้งานต้องใช้ผ่านแอปผู้ให้บริการคือ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาและธนาคารกรุงไทย และผู้ใช้งานได้ผูกบัญชีเงินฝากไว้ สแกน FPS QR ร้านค้าในฮ่องกง ซึ่งออกโดยผู้ให้บริการฮ่องกงที่ร่วมโครงการ เมื่อชำระค่าบริการเสร็จสิ้น ผู้ใช้งานจะได้รับการยืนยันการตัดบัญชีเป็นเงินบาทผ่านแอปฯ เมื่อผู้ใช้งานทำรายการสำเร็จ จะได้รับ e-slip เป็นหลักฐานทุกรายการทันที

ทั้งนี้ ภายใต้บริการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่าน QR code นี้ มีผู้ให้บริการระบบชำระเงินได้แก่ Hong Kong Interbank Clearing Limited (HKICL) และบริษัท เนชั่นแนลไอทีเอ็มเอ็กซ์ (NITMX) ผู้ให้บริการชำระดุลระหว่างประเทศ ได้แก่ HSBC Hong Kong และธนาคารกรุงเทพ รวมทั้งผู้ให้บริการชำระเงินหลายรายที่เข้าร่วมให้บริการแอปพลิเคชัน ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ 7 แห่ง และ Non-bank 2 แห่งของฮ่องกง และธนาคารพาณิชย์ 3 แห่งของไทย และอีกหลายแห่งของทั้งสองฝ่ายร่วมให้บริการ QR แก่ร้านค้า  

ด้าน นาย Eddie Yue ผู้ว่าการธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA) กล่าวเสริมว่า ธนาคารกลางฮ่องกงยินดีต่อความร่วมมือของสองฝ่ายในการพัฒนาช่องทางการชำระเงินข้ามพรมแดนรายย่อยที่สะดวก ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ โดยการเปิดตัวบริการในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของระบบ Fast Payment System ในการขยายบริการชำระเงินข้ามพรมแดนในภูมิภาค.