ชัดเจน! 50 ล.คนไทยได้สิทธิรับแจกเงินหมื่น เผย! รายได้ไม่เกิน 5 หมื่น/เงินฝากไม่เกิน 5 แสน เริ่มใช้ พ.ค.67
![](https://yutthasartonline.com/wp-content/uploads/2023/11/12-1.jpg)
นายกฯเศรษฐา แถลงชัด! โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ให้สิทธิคนไทยวัย 16 ปีอัพ รายได้ไม่เกิน 5 แสนบาท/เดือน หรือมีเงินฝากต่ำกว่า 5 แสนบาท ติดเกณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่ง จะเสียสิทธิทันที ระบุ! ใช้ครั้งแรกภายใน 6 เดือน ในพื้นที่อำเภอตามบัตรประชาชน แล้วใช้ได้จนถึง เม.ย.2570 คาดจะมีคนไทย50 ล้านคนได้รับสิทธินี้ พร้อมใช้แนวทางผ่าน พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้าน ใช้กับโครงการนี้รวม 5 แสนล้าน ที่เหลือ 1 แสนล้านบาทใช้ใน 2 โครงการใหม่ “e-refund + กองทุนเพิ่มขีดความสามารถ” เผย! รายละเอียดการใช้จ่าย! อะไรที่ใช้จ่ายได้-ไม่ได้
![](https://yutthasartonline.com/wp-content/uploads/2023/11/02-1-1.jpg)
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง แถลงสรุปนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 2/2566 ว่า รัฐบาลรับฟังข้อเสนอแนะจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและฝ่ายต่างๆ แล้วนำมาปรับให้สอดรับกับสถานการณ์เศรษฐกิจ โดยจะมอบสิทธิการใช้จ่ายให้กับประชาชนผู้ที่อายุ 16 ปีขึ้นไป รายได้ไม่ถึง 70,000 บาท ต่อเดือน และมีเงินฝากต่ำกว่า 500,000 บาท โดยให้สิทธิครั้งแรกภายใน 6 เดือน หลังจากเริ่มโครงการฯ และใช้จ่ายได้จนถึงเดือน เม.ย.2570 ทั้งนี้ ได้ขยายพื้นที่การใช้จ่ายเงินครอบคลุมในอำเภอตามบัตรประชาชน คาดว่าจะเริ่มได้ พ.ค. 2567
![](https://yutthasartonline.com/wp-content/uploads/2023/11/08-1.jpg)
“จากข้อมูลพบว่าตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทย (จีดีพี) โตเฉลี่ยแค่เพียง 1.9% ต่ำมากเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านอาเซียน แถมยังมีปัจจัยลบอื่นๆ ทั้งเรื่องปัญหาสงครามในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งกระทบการส่งออกของไทย รวมถึงปัญหาจากการที่เม็ดเงินหายไปจากระบบ เพราะพนันออนไลน์ หากไม่มีการเติมเงินใส่ในระบบ จะทำให้คนไทยยิ่งจนลง และนำไปสู่การซ้ำเติมระบบเศรษฐกิจให้เลวร้ายยิ่งขึ้น แถมยังตรวจสอบและจัดเก็บภาษีไม่ได้ ดังนั้น โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet จึงเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ” นายกรัฐมนตรี ระบุและว่า
![](https://yutthasartonline.com/wp-content/uploads/2023/11/17-1.jpg)
โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาในระยะสั้น แล้วยังจะมีโครงการอื่นๆ ตามมาในระยะกลางและยาวอีก อย่างไรก็ตาม โครงการฯดังกล่าวจะเป็นการใช้จากเงินกู้ โดยรัฐบาลจะออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5แสนล้านบาท ซึ่ง จะใช้ในโครงการนี้ แล้วยังจะเตรียมไว้อีก 1 แสนล้านบาท จะนำไปจัดทำนโยบายโครงการ e-refund เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายร้านค้าออนไลน์ และกองทุนเพิ่มขีดความสามารถ เพื่อนำมาต่อยอดอุตสาหกรรมใหม่ๆของประเทศ เช่น ยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมดิจิทัล การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ การพัฒนาบุคลากรและการศึกษา เป็นต้น
![](https://yutthasartonline.com/wp-content/uploads/2023/11/258930-1.jpg)
ทั้งนี้ คาดว่าภายในปีนี้ จะเสนอร่างโครงการฯให้สำนักงานกฤษฎีกาพิจารณา และจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมรัฐบาลในช่วงต้นปี 2567 ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะช่วยทำให้โครงการฯมีความโปร่งใสมากขึ้น ภายใต้การตรวจสอบถ่วงดุลในระบบรัฐสภา ซึ่งตนมั่นใจว่า จะได้รับการอนุมัติโดยรัฐสภา และเป็นไปตาม มาตรา 53 พรบ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ซึ่งการกู้เงินดังกล่าวจะ ระบุวัตถุประสงค์ของการกู้เงิน ระยะเวลาในการกู้เงิน แผนงานหรือโครงการที่ใช้จ่ายเงินกู้ วงเงินที่อนุญาตให้ใช้จ่ายเงินกู้ และหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินแผนงานหรือโครงการที่ใช้จ่ายเงินกู้ในโครงการ Digital Wallet ให้ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย
![](https://yutthasartonline.com/wp-content/uploads/2023/11/11-1.jpg)
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ในการกู้เงินมาใช้นั้น รัฐบาลจะทำการกู้เงิน ต่อเมื่อมีการนำเงินไปใช้และนำมาขึ้นเป็นเงินสด แนวทางดังกล่าวจะช่วยเพิ่มเงินระบบมากกว่า 500,000 ล้าน เนื่องจากจะหมุนเวียนและกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยยะสำคัญ เมื่อรวมกับเงินอีกก้อน 100,000 ล้านบาท ทำช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ คนไทยไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของการใช้เงินคืน เพราะรัฐบาลจะมีแผนจัดสรรเงินงบประมาณมาเพื่อจ่ายคืนเงินส่วนที่เป็นเงินกู้ตลอดระยะเวลา 4 ปี จากปี 2567 – 2570
ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่า นโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ไม่ใช่การสงเคราะห์ประชาชนผู้ยากไร้ แต่เป็นการเติมเงินลงไปในระบบเศรษฐกิจผ่านสิทธิการใช้จ่าย เพื่อให้ประชาชนมีบทบาทร่วมกับรัฐบาล (Partnership) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ผ่านสิทธิการใช้จ่าย 10,000 บาท
![](https://yutthasartonline.com/wp-content/uploads/2023/11/ใช้ได้-ไม่ได้.jpg)
สำหรับการใช้จ่ายเงินในโครงการนี้ เนื่องจากเป็นการเติมเงินบาทผ่านแอปฯเป๋าตัง ที่ได้พัฒนาระบบบล็อกเชนขึ้นมารองรับและสามารถตรวจสอบการใช้จ่ายให้ตรงตามจุดประสงค์ของรัฐบาล ซึ่งจะป้องกันการทุจริตได้ดีขึ้น หากใครฝ่าฝืนหรือทุจริต ระบบก็จะตรวจสอบได้ทันที ดังนั้น จึงกำหนดแนวทางการใช้จ่ายดังนี้ กล่าวคือ รัฐบาลจะเติมเงิน 10,000 บาท ให้กับผู้มีสิทธิทุกคน ผ่านกระเป๋าดิจิทัลในแอปฯเป๋าตัง โดยประชาชนไม่สามารถโอนให้ผู้อื่น หรือแลกเป็นเงินได้ การใช้จ่ายจะต้องทำการต้องลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ และใช้สำหรับซื้อของอุปโภคบริโภคเท่านั้น และจะใช้จ่ายได้ภายในอำเภอตามบัตรประชาชน และต้องใช้ครั้งแรกภายใน 6 เดือนหลังจากเริ่มโครงการฯ ที่จะสิ้นสุดเดือน เม.ย.2570
ทั้งนี้ ไม่สามารถใช้ซื้อสินค้าออนไลน์ได้ ไม่สามารถใช้ซื้อของที่เป็นอบายมุข เช่น เหล้า บุหรี่ , ไม่สามารถซื้อบัตรกำนัลบัตรเงินสด เพชร พลอย ทองคำ อัญมณี, ไม่สามารถชำระหนี้ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ น้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติได้ ไม่สามารถจ่ายค่าเทอม ค่าเรียนได้ ร้านค้าไม่ต้องจด VAT เพื่อรับเงิน และ ร้านค้าที่จะขึ้นเงินได้ต้องอยู่ในระบบภาษี.
![](https://yutthasartonline.com/wp-content/uploads/2023/11/12-1-1.jpg)