ไอเดียกระฉูด!! สทท.ดึง ‘พิธา’ เป็นแอมบาสเดอร์ท่องเที่ยวไทย โหนกระแสคนรุ่นใหม่

สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ สทท. ผุดไอเดียเกาะกระแส “พิธา ฟีเวอร์” คว้าตัว ‘พิธา’ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ท่องเที่ยวไทย ชี้บุคลิกเข้าถึงคนรุ่นใหม่ มีความเป็นผู้นำทางความคิด (KOL)

วันที่ 25 พ.ค.2566 นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า เมื่อการจัดตั้งรัฐบาลใหม่สำเร็จ ไม่ว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ตาม รวมถึง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ทาง สทท.อยากเห็นนายกฯ คนใหม่เป็นแอมบาสเดอร์ โปรโมตการท่องเที่ยวของประเทศไทย ดึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เป็นกลยุทธ์แบบควิกวิน กระตุ้นการเติบโตของภาคท่องเที่ยว ซึ่งมีศักยภาพเป็นแม่งานในการสร้างรายได้แก่เศรษฐกิจไทย ขณะเดียวกันต้องการให้ภาคท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติด้วยจะดีมากๆ และขอให้นายกฯ เป็นประธานในที่ประชุมร่วมกับกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กำกับภาคท่องเที่ยวและทำงานแบบบูรณาการ

ทั้งนี้ สทท. สามารถทำงานร่วมกับทุกคนที่มาเป็นรัฐบาลใหม่ หากเป็นไปได้อยากได้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จากพรรคก้าวไกล หรือ พรรคเพื่อไทย โดยอยากเห็นการเชื่อมกันแบบไร้รอยต่อ เพราะตอนนี้การฟื้นตัวของดีมานด์นักท่องเที่ยวไม่น่ามีปัญหา ชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทยน่าจะถึงเป้าหมายไม่น้อยกว่า 25 ล้านคนในปีนี้ แต่ที่ยังน่ากังวลคือฝั่งซัพพลายรองรับนักท่องเที่ยวที่ยังมีปัญหาคอขวด และต้องเร่งยกระดับประสบการณ์ สร้างความประทับใจเพื่อให้เกิดการซื้อซ้ำ

ล่าสุด นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ได้ติดต่อ สทท. ว่า พรรคก้าวไกลจะขอเข้าหารือร่วมกับภาคเอกชนท่องเที่ยวในเร็วๆ นี้ โดยรอสรุปอย่างทางการว่าเป็นวันใด

ด้าน นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า หากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่สำเร็จลุล่วง และ นายพิธา ขึ้นเป็นนายกฯ มองว่าน่าจะเป็นแอมบาสเดอร์ที่ ดีของภาคท่องเที่ยวไทยได้ เพราะมีบุคลิกเข้าถึงคนรุ่นใหม่ และในฐานะเป็นผู้นำทางความคิด (KOL) ซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะแถบเอเชียตะวันออก เช่น จีน เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น ที่ทาง ททท.ต้องการดึงนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่ (Young Traveler) เพิ่มมากขึ้น

โดยจากไทม์ไลน์การจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จในเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งกำลังเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ช่วงปลายปีพอดี ถ้ารัฐบาลใหม่มีมาตรการช่วยเหลือสนับสนุนผู้ประกอบการเพิ่มเติม คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดความเสี่ยงเรื่องชะลอการใช้จ่าย ทั้งในมิติการท่องเที่ยวและอุปสงค์ใช้จ่ายในประเทศ ทั้งยังมีส่วนช่วยผลักดันให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติไปถึงเป้าหมายไม่น้อยกว่า 25 ล้านคนตลอดปี 66

สำหรับแนวโน้มตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 5 เดือนแรกของปี 66 (ม.ค.-พ.ค.) ทาง ททท.ประเมินว่าจะมีจำนวนทะลุ 10 ล้านคน และเมื่อดูกระแสการเดินทางเฉพาะเดือน พ.ค. ซึ่งเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นหลังผ่านช่วงพีคเทศกาลสงกรานต์ โดยปัจจุบันเดินทางเข้าไทยประมาณ 50,000 คนต่อวัน จากก่อนหน้านี้เข้ามาเฉลี่ย 70,000-80,000 คนต่อวัน ถ้าเดือน พ.ค. ได้นักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 2 ล้านคน เดือนที่เหลือก็ไม่ต้องกังวลแล้ว

ส่วนเป้าหมายรายได้รวมการท่องเที่ยวไทยจากทั้งตลาดในและต่างประเทศปี 66 ททท.ยังคงเป้าการฟื้นตัวที่ระดับ 80% ของรายได้รวม 3 ล้านล้านบาทในปี 62 ก่อนโควิด-19 ระบาด และสร้างแรงส่งไปยังปี 67 ที่วางเป้าหมายรายได้รวมฟื้นตัว 100%

“จากนโยบายของรัฐบาลก้าวไกลที่มุ่งเน้นการกระจายรายได้สู่ชุมชนมากขึ้น สร้างการเติบโตแบบ Inclusive Growth ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรม ททท.จึงต้องปรับยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทยปี 67 ให้สอดรับกับนโยบายดังกล่าวด้วย” ผู้ว่าฯ ททท. กล่าว.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password