NEDA ดันปล่อยกู้ 5.8 พันลบ. หนุน 4 โครงการหลักของ 3 ชาติเพื่อนบ้าน

ฉลอง 18 ปี! NEDA ประกาศเดินหน้าปล่อยเงินกู้ หนุนไทยร่วมพัฒนาประเทศเพื่อนบ้านผุด “โครงสร้างพื้นฐานฯ” พร้อมดัน 4 โครงการสำคัญให้ “เมียน – ลาว – กัมพูชา” มูลค่ารวมกว่า 5.8 พันล้านบาท ด้าน ผอ.พีรเมศร์ วอน “รัฐบาลใหม่” หนุนโครงการ R12  ช่วงเมืองท่าแขก (ไทย) – จุดผ่านแดนนาเพ้า (ลาว) วงเงินกู้ 1.83 พันล้านบาท มั่นใจ! ช่วยผลักดันการค้าและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศได้อย่างมาก

นายพีรเมศร์ วุฒิธรเนติรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (สพพ.) หรือ NEDA เปิดเผยระหว่างการเข้าร่วมกิจกรรม “ผู้บริหารพบสื่อมวลชน” เนื่องในวันสถาปนาครบรอบ 18 ปี โดยมี ศ.พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน คพพ. และคณะผู้บริหาร NEDA ร่วมงานฯ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 พ.ค.2566 ณ ร้านอาหาร HEY! Beanstro สาขา S-OASIS วิภาวดี-รังสิต กรุงเทพฯ ว่า ช่วงเวลา 3-4 ปีผ่านมา แม้โลกและประเทศไทยจะประสบปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนทำให้การปฏิบัติงานของหลายๆ หน่วยงานต้องหยุดและมีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ข้างต้น ซึ่ง NEDA เองก็ได้ปรับตัวเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในลักษณะ Work from Home หรือการนำเทคโนโลยีสมัยมาใช้ทำงาน ซึ่งหากพูดถึงเนื้องาน ถือว่า NEDA สามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานได้โดยไม่ติดขัดแต่อย่างใด ในช่วงเวลาดังกล่าวสามารถปล่อยกู้ให้กับหน่วยงานและรัฐบาลของประเทศเพื่อนบ้านรวมกันมากกว่า 2,000 ล้านบาท

“แม้หลายประเทศเพื่อนบ้านกำลังประสบปัญหาการเมืองภายในประเทศ (เมียนมา) และปัญหาเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรง (สปป.ลาว) แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งคืนเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับ NEDA ซึ่งแต่ละปี เราจะได้รับเงินต้นคืนราว 230 ล้านบาท และดอกเบี้ยอีกราว 300 ล้านบาท รวมปีละกว่า 500 ล้านบาท แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะมีไม่สูงนัก แต่ก็ทำให้เราสามารถดำเนินงานได้โดยไม่ต้องพึงพาเงินงบประมาณแผ่นดิน ยกเว้นว่าหากรัฐบาลชุดใหม่จะมีนโยบายเชิงรุกในการช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศเหล่านั้น มีอัตราการเติบโตที่เข้มแข็ง สามารถจะพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรือง ก็จะต้องเพิ่มงบประมาณในส่วนนี้ให้กับ NEDA ซึ่งเราก็พร้อมจะดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มที่” นายพีรเมศร์ ย้ำและว่า

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้และปีถัดไป NEDA มีแผนจะดำเนินการปล่อยกู้ให้กับโครงการต่างๆ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยเฉพาะการปล่อยเงินกู้ให้กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนความเชื่อมโยงด้านการคมนาคมขนส่ง การพัฒนาเมืองและพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนระหว่างไทยและประเทศเพื่อนบ้าน โดยยังมี โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการและโครงการใหม่ที่จะส่งเสริมภาคเอกชนไทยให้มีบทบาทสำคัญในการร่วมพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาค ได้แก่…

1. โครงการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรสตึงบทและถนนเชื่อมโยงไปยังถนนหมายเลข 5 ระยะที่ 1

(วงเงินกู้ 928.11 ล้านบาท, FA : กัมพูชา)

2. โครงการก่อสร้างทางรถไฟไทย – ลาว ระยะที่ 2 (สายท่านาแล้ง – เวียงจันทน์) ส่วนที่ 2

(วงเงินกู้ 1,650 ล้านบาท, FA : สปป.ลาว)

 3. โครงการปรับปรุงระบบไฟฟ้าในเมืองย่างกุ้ง (เขต North Okkalapa และเขต North Dagon) (วงเงินกู้ 1,458.25 ล้านบาท, FA : เมียนมา) และ

4. โครงการพัฒนาเส้นทางหมายเลข 12 (R12) ช่วงเมืองท่าแขก – จุดผ่านแดนนาเพ้า (วงเงินกู้ 1,833.747 ล้านบาท, FA : สปป.ลาว)

“ทั้ง 4 โครงการข้างต้นนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงิน คาดว่าคงต้องรอรัฐบาลชุดใหม่ ส่วนตัวผมอยากเห็นการเดินหน้าในโครงการ R12 ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการค้าชายแดนและการท่องเที่ยวระหว่างกันกับประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว) จึงอยากให้รัฐบาลชุดใหม่ได้ช่วยพิจารณาผลักดันโครงการ R12 ได้ดำเนินการตามเป้าหมายที่วางไว้” ผอ. NEDA ย้ำ

อนึ่ง ปัจจุบันมีประเทศเพื่อนบ้าน ที่ได้รับเงินกู้จาก NEDA เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ โดย สปป.ลาว มีสัดส่วนเงินกู้มากที่สุด มากกว่า 4,800 ล้านบาท รองลงมาคือ เมียนมาที่กว่า 2,000 ล้านบาท ขณะที่ กัมพูชามีสัดส่วนเงินกู้เพียง 928 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีประเทศนอกภูมิภาคอาเซียนที่ได้รับเงินกู้จาก NEDA อาทิ ภูฏาน, ศรีลังกา เป็นต้น โดยเงินกู้ดังกล่าวจะต้องสั่งซื้อสินค้าจากไทยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของวงเงินกู้ข้างต้น.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password