กลยุทธ์สำรองเงินสด

(เงินสดไม่ใช่อดีต แต่คือ…เสถียรภาพ : กลยุทธ์สำรองเงินสดของแบงก์ไทยกับเศรษฐกิจช่วงปีใหม่)

ปีใหม่…เป็นมากกว่าฤดูกาลท่องเที่ยว มันคือ…บททดสอบ “สภาพคล่องของระบบเศรษฐกิจจริง” กรณีแบงก์พาณิชย์เร่งสำรองเงินสด 1.6 แสนล้านบาท มิต่างจากการ “อัดฉีด” ความเชื่อมั่นล่วงหน้าให้ประชาชนและธุรกิจเงินสดที่พร้อมใช้ ทำให้การจับจ่ายไม่สะดุด และช่วยให้เศรษฐกิจเดินต่อได้ในช่วงเวลาสำคัญ สิ่งนี้…ควรจะขยายไปถึงเทศกาลเลือกตั้งใหญ่และการท่องเที่ยวของภูมิภาค
เป็นประจำใน ทุกๆ เทศกาลสำคัญ โดยเฉพาะ เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และเทศกาลสงกรานต์ ที่บรรดา ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่และกลาง ต่างประกาศแผนการสำรองเงินสดรองรับความต้องการของประชาชนในห้วงเทศกาล นั้น
เช่นกัน กับ…เทศกาลส่งท้ายปีเก่า 2568 ต้อนรับปีใหม่ 2569 ธนาคารพาณิชย์ ต่างประกาศแผนการสำรองเงินสด ทั้งนี้ เมื่อแยกดูในแต่ละธนาคาร จะเห็น ยุทธศาสตร์ของแผนข้างต้นที่สอดคล้องกัน แต่มีน้ำหนักที่แตกต่างกัน ดังนี้…
ธนาคารกรุงเทพ สำรองเงินสดราว 40,000 ล้านบาท สะท้อนบทบาทแบงก์ขนาดใหญ่ที่ต้องดูแลเครือข่าย ATM และสาขาจำนวนมาก
ธนาคารกรุงไทย เตรียมเงินสดประมาณ 37,950 ล้านบาท ควบคู่บทบาทแบงก์ภาครัฐที่เชื่อมโยงกับประชาชนวงกว้าง
ธนาคารกสิกรไทย สำรองราว 35,100 ล้านบาท เพื่อรองรับฐานลูกค้ารายย่อยและ SME ทั่วประเทศ
ธนาคารไทยพาณิชย์ จัดเตรียมประมาณ 30,500 ล้านบาท กระจายทั้งเขตเมืองและภูมิภาค
ขณะที่ ธนาคารทหารไทยธนชาต สำรองราว 11,000 ล้านบาท และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ประมาณ 9,800–9,900 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องในจุดบริการหลัก
นักวิเคราะห์การเงิน มอง “กลยุทธ์การสำรองเงินสด” ข้างต้น ตรงกันว่า…ในห้วงเทศกาลปีใหม่ เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับ “จุดเปลี่ยน!” ชั่วคราว จาก…“เศรษฐกิจปกติ” สู่ “เศรษฐกิจเคลื่อนย้าย” ด้วยเหตุผลเพราะ…
ผู้คนจำนวนมากต้องเดินทางออกจากเมือง ทำให้เม็ดเงินจำนวนมหาศาล ไหลจาก…ศูนย์กลางสู่ภูมิภาค
บรรดาร้านค้าขนาดเล็ก และภาคบริการทั้งหลาย กลายเป็น “ด่านหน้า” ในการรองรับกำลังซื้อ ในบริบทนี้ แม้ ระบบการเงินจะพัฒนาไปไกลด้วย “ดิจิทัลเพย์เมนต์” แต่ “เงินสด” ก็ยังจะทำหน้าที่เป็น…โครงสร้างพื้นฐานเงียบ ๆ ที่คอยหล่อเลี้ยง “กิจกรรมทางเศรษฐกิจ” ในช่วงหยุดยาว ได้เช่นกัน…
ข้อมูลการเตรียมสำรองเงินสดของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ช่วงเทศกาลปีใหม่ สะท้อนภาพดังกล่าวอย่างชัดเจน โดย ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่และขนาดกลางรวม 6 แห่ง ร่วมกันสำรองเงินสด รวม ประมาณ 164,000–165,000 ล้านบาท
รองรับการเบิกถอนผ่านตู้ ATM สาขา และจุดบริการต่าง ๆ ทั่วประเทศ
เม็ดเงินสดจำนวนมหาศาลดังกล่าว ไม่ใช่ตัวเลขเชิงเทคนิค แต่เป็น “สัญญาณเชิงนโยบายตลาด” ว่า…ระบบการเงินไทย ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมล่วงหน้า รองรับความต้องการของประชาชน มากกว่าเรื่องอื่น…
ทั้งนี้ เพื่อให้เงินสด 1.65 แสนล้านบาท พร้อมหมุนเวียนใน “ระบบเศรษฐกิจจริง” ก่อนที่ประชาชนจะเริ่มแห่ถอนและใช้จ่ายช่วงเทศกาล โดยไม่ต้องรอให้เกิดปัญหา “เงินขาด” หรือ “ตู้ ATM เงินหมด” แล้วค่อยตามแก้
นี่คือ กลยุทธ์การบริหารสภาพคล่องเชิงรุก! ทำให้สังคมไทยในห้วงเทศกาลปีใหม่ ได้มีเงินสดพร้อมใช้ทันที และในจุดที่ผู้คนต้องการ
สิ่งนี้…ไม่เพียงจะช่วยป้องกันความสะดุดของการจับจ่าย และรักษาความเชื่อมั่นของระบบเศรษฐกิจทั้งช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้อีกด้วย
ในมิติของเงินสะพัด! วงเงินสำรอง 1.6 แสนล้านบาทไม่ได้ไหลออกมาทั้งหมด แต่ทำหน้าที่เป็น “คลังพลังซื้อสำรอง” เมื่อประชาชนมั่นใจว่า…สามารถถอนเงินได้ทุกเมื่อ พฤติกรรมการใช้จ่ายจะไม่ถูกชะลอโดยความกังวล
“เงินสด” ที่ถูกถอนออกมาบางส่วน จะหมุนเวียนทันทีในร้านอาหาร, ร้านค้าชุมชน, ปั๊มน้ำมัน, ที่พัก และบริการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่ง “เงินสด” ยังคงเป็นสื่อกลางสำคัญของธุรกรรม
ผลเชิงบวกต่อร้านค้าและภาคธุรกิจ จึงเกิดขึ้นเป็น “ลูกโซ่” เชิงสร้างสรรค์ ทำให้…ร้านค้ารายย่อยมีสภาพคล่องหมุนเวียนเร็วขึ้น, ลดปัญหาเงินขาดมือในช่วงพีค
ภาคบริการสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ต่อเนื่องโดยไม่สะดุด!
ขณะที่ SME ใน “ห่วงโซ่” ท่องเที่ยวและค้าปลีก ก็จะได้รับอานิสงส์จาก “กำลังซื้อ” ที่ไม่ถูกจำกัด! ด้วยปัญหาการเข้าถึงเงิน
นี่คือ…กลไกสำคัญที่ทำให้ “เศรษฐกิจเทศกาล” ไม่ใช่แค่…สร้างความคึกคักเชิงภาพ แต่ทำให้มีการหมุนเงินจริงในระบบเศรษฐกิจ กระจายไปทั่วประเทศ
ในเชิงระบบ! การสำรองเงินสด ยังทำงานร่วมกับบทบาทของ ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งดูแล “เสถียรภาพ” ของธนบัตรและความต่อเนื่องของระบบการชำระเงิน
ภาพรวมที่ปรากฏ ก็คือ การบริหารสภาพคล่องเชิงรุก! โดยไม่ปล่อยให้ความต้องการตามฤดูกาล กลายเป็นแรงกระแทกต่อระบบการเงิน
มองไปข้างหน้า…บทเรียนจากเทศกาลปีใหม่ ชี้ให้เห็นว่า…การ “สำรองเงินสด” ควรถูกยกระดับเป็น “นโยบายตามฤดูกาล” อย่างเป็นระบบมากขึ้น
และอาจไม่เฉพาะในห้วงเทศกาลปีใหม่ หรือสงกรานต์ แต่ยังอาจรวมถึงในช่วงการเลือกตั้งใหญ่ หรือแม้กระทั่ง เทศกาลท่องเที่ยวระดับภูมิภาค ฯลฯ อีกด้วย
ข้อเสนอเชิงกลยุทธ์ ที่ “ทีมข่าวยุทธศาสตร์” ชี้ให้เห็น นั่นคือ จำที่ทุกฝ่ายทั้งจากภาครัฐ และภาคเอกชน จะต้องร่วมกันบูรณาการข้อมูลด้านการเดินทาง, การท่องเที่ยว และพฤติกรรมการใช้จ่าย เพื่อคาดการณ์ถุง “จุด” ที่ต้องเพิ่มสภาพคล่องล่วงหน้า
รวมถึง การผสาน “เงินสด” กับ “ดิจิทัลเพย์เมนต์” อย่างสมดุล โดยไม่เป็นการ “ผลัก” ประชาชนไปด้านใดด้านหนึ่งจนเกิดช่องว่างตามมาได้…
ในโลกที่กำลังมุ่งสู่ “สังคมไร้เงินสด” การเตรียมเงินสดจำนวนมาก อาจดู “สวนทาง” ในเชิงภาพลักษณ์??? แต่ในเชิงเสถียรภาพ มันคือ..การลงทุนเพื่อความเชื่อมั่น อย่างเข้มแข็งที่สุด!
เพราะเมื่อ “ระบบการเงิน” ทำงานได้อย่างไร้รอยต่อ ในช่วงเวลาที่เปราะบางที่สุด! เศรษฐกิจ…ก็มีโอกาสเดินหน้าต่อได้อย่างมั่นคง
และนี่คือ…บทบาทที่แท้จริง! ของ “กลยุทธ์สำรองเงินสด” ในระบบเศรษฐกิจไทย!!!.






