เลิก! สหรัฐอกัมพูชา

ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันล่าสุด! ผ่าน นายกฯมาเลเซีย ถึง “ผู้นำไทย” ถือเป็น “จุดเปลี่ยนสำคัญ!” ต่อข้อหา…เข้าข้างกัมพูชา จนเสมือนเป็น “สหรัฐอกัมพูชา” เมื่อ “วอชิงตัน” ยืนยันจะไม่โยงกรณี “ระงับปฏิญญา” เข้ากับการเจรจาการค้า ทำให้แรงกดดัน! ต่อไทย พลิก! เป็นความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ทันที! สะท้อน…กระดานภูมิรัฐศาสตร์อาเซียน ยังต้องอาศัยการวางหมากที่แม่นยำ! เพื่อหยุดจีน

กลับลำแทบไม่ทัน!!?? นี่หาก นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่บริการ “ลูกหาบ” ประธานอาเซียนคนปัจจุบัน นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โทรศัพท์สายตรงมายัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีไทย ล่ะก็…

ข้อกล่าวหาระดับโลก ที่ระบาดในสังคมไทย ก็จะยังคงอยู่??? กับข้อหาที่ว่า…สหรัฐอกัมพูชา (United States of Cambodia)

เปลี่ยนจาก อเมริกา เป็น…อกัมพูชา เพราะทีท่าของ ปธน.ทรัมป์ ก่อนหน้านี้ มันชัดเจนว่า…พวกเขาเลือกกัมพูชามากกว่าไทย???

แม้จะรู้เต็มอก! ผู้นำกัมพูชา…มันเชื่อถือไม่ได้!!! กลับกรอก ปลิ้นปล้อน กระล่อน ตอแหล พร้อมหักหลัง และสร้างเรื่องโกหก หลอกลวงชาวโลก แบบไม่มีเหน็ดเหนื่อย

ท่ามกลางกระแสเดือดแรง! ในสังคมไทย กับวลีร้อนๆ “สหรัฐอกัมพูชา” ที่สุด! นกรู้? ปธน.ทรัมป์ และนายกฯอัลวาร์ แห่งมเลเซีย ร่วมกันสร้าง “ชุดข้อมูลใหม่” โดย ปรับ “สมการ” การรับรู้ครั้งใหญ่…ในข้อพิพาทไทย–กัมพูชา???

เริ่มจาก…ทุ่นระเบิดเพียงไม่กี่ลูก แต่ลุกลามเป็น…แรงสั่นสะเทือน! ทางภูมิรัฐศาสตร์ในระดับภูมิภาค

ความเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนเกมนี้ ก็คือ…คำยืนยันโดยตรงของ ปธน.ทรัมป์ ส่งผ่าน นายกฯอันวาร์ ที่ว่า…

“สหรัฐอเมริกาจะไม่นำประเด็นการระงับปฏิญญาของไทย มาเกี่ยวข้องกับการเจรจาภาษีไทย–สหรัฐที่กำลังดำเนินการอยู่”

แตกต่างอย่างสิ้นเชิง!!! กับข้อความก่อนหน้านั้น…

นี่ไม่ใช่แค่เพียง…ข้อความธรรมดาจาก “ผู้นำมหาชาติอำนาจ” แต่นี่คือ…การ “ลดแรงปะทะทางการเมืองระหว่างประเทศ” และทำให้ข้อกล่าวหาว่า…สหรัฐฯเข้าข้างกัมพูชา ไม่อาจยืนอยู่บน “หลักฐาน” เชิงยุทธศาสตร์ได้อีกต่อไป


นายกฯอนุทิน เผยชัดว่า…ข้อความดังกล่าวเป็นคำสั่งยืนยันจาก ปธน.ทรัมป์ โดยตรง ผ่านสายการสื่อสารทางการเมือง ระหว่าง “ผู้นำ 2 ชาติ” และเกิดขึ้น “หลัง” จดหมายของ “ผู้แทนการค้าสหรัฐ” (USTR) ที่ระบุ…การระงับเจรจาถูกพิมพ์ก่อนหน้า

ข้อความล่าสุดนี้…จึงทำให้ข้อมูลของฝ่ายไทย เป็น…ปัจจุบันกว่า และแม่นยำกว่า!!!

ในการ วิเคราะห์เชิงความมั่นคง นี่คือ…รูปแบบคลาสสิกของสถานการณ์ ที่เรียกว่า Policy–Timing Dislocation

หรือ…ความคลาดเคลื่อนระหว่างเอกสารราชการ กับเจตจำนงทางการเมืองระดับ “ผู้นำชาติมหาอำนาจ” ซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงวิกฤตระหว่างประเทศ…ที่สถานการณ์เปลี่ยนรวดเร็ว และหน่วยงานราชการในต่างประเทศ ปรับการสื่อสารไม่ทัน “โมเมนต์” ทางการทูตระดับสูง!

สิ่งสำคัญ ก็คือ…คำยืนยันของ ปธน.ทรัมป์ ได้ “ปิดประตู” ภาพลักษณ์ที่ทำให้ไทย “เสีย” อำนาจต่อรอง
พร้อมดึงสถานการณ์กลับเข้าสู่ขอบเขตที่ไทยสามารถบริหารได้
โดยไม่ต้องปล่อยให้ เรื่องภาษี…กลายเป็นอาวุธทางเศรษฐกิจในความขัดแย้งเชิงความมั่นคงบริเวณชายแดน

ใน อีกมุมหนึ่ง การที่ ปธน.ทรัมป์ ย้ำว่า Humanitarian Demining หรือ การเก็บกู้ทุ่นระเบิด…เพื่อมนุษยธรรม เป็น “หัวใจของปฏิญญาไทย–กัมพูชา” นั่นคือ…

การยอมรับว่าฝ่ายใดละเมิด! ย่อมเสียความชอบธรรมระหว่างประเทศทันที!!!

เพราะประเด็นด้าน “มนุษยธรรม” เป็นส่วนหนึ่งและเป็นส่วนสำคัญใน “หลัก” ความมั่นคงสากล ที่ไม่อาจตีความหลบเลี่ยงได้

การที่ นายกฯอนุทิน ชี้ชัดว่า…มีการลักลอบติดตั้งทุ่นระเบิดใหม่! จึงทำให้ไทยมีฐานหลักฐานที่แข็งแรงกว่าในเวทีนานาชาติ

น้ำหนักของคำยืนยันนี้ ยังสะท้อนว่า ปธน.ทรัมป์“ไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งบานปลาย”ซึ่งอาจทำให้ ทางการจีน ได้ “แต้ม” ทางยุทธศาสตร์ ในกัมพูชาเพิ่มมากยิ่งขึ้น!!!

หากมองผ่านเลนส์ ภูมิรัฐศาสตร์รัฐบาลสหรัฐฯ ย่อมไม่ต้องการผลักดันกัมพูชาไปสู่อ้อมกอกจีน…ได้มากกว่านี้

ขณะเดียวกัน ก็ไม่อาจทำให้ไทย ซึ่งเป็น “พันธมิตรที่มั่นคง (which is a stable ally)” ของสหรัฐฯ รู้สึกถูกกดดัน! จนเกิดแรงสะท้อนกลับทางนโยบายได้

นั่นเพราะ…“ตำแหน่ง” ของสหรัฐฯ ในเกมนี้ คือ “ผู้รักษาสมดุล” ไม่ใช่ “ผู้เลือกข้าง” และคำยืนยันทิศทางล่าสุด! ของ ปธน.ทรัมป์ ได้ทำให้ภาพนี้ชัดเจนขึ้นอย่างมาก

การที่ นายกฯอันวาร์ แห่งมาเลเซีย ซึ่งก่อนหน้านี้…ได้ทำ “ผิดมหันต์?” ต่อไทย!!! ก่อนจะออกมาขอโทษ…เรื่องตีข่าวผ่าน “สื่อรัฐระดับชาติ” ถึงระเบิดทำลายขาที่ 7 ของทหารไทย ว่าเป็น…“ทุ่นระเบิดเก่า”

แต่รอบนี้…เขาขอทำหน้าที่เป็น “ผู้สื่อสาร” ระหว่าง “ผู้นำไทย-สหรัฐฯ” สิ่งนี้…ทำให้บทบาทของ “ผู้นำมาเลเซีย” ในฐานะ…ประธานอาเซียน โดดเด่นขึ้นมากอีกครั้ง…ทันที!

จาก…“ตัวกลางทางการทูต” กลายเป็น…“ผู้คั่นกลางทางยุทธศาสตร์ (Strategic Interlocutor)ที่ได้ช่วย คงเสถียรภาพของอาเซียน ไม่ให้ถูก “ดึง” เข้าสู่…เกมมหาอำนาจ มากจนเกินไป

กระบวนการนี้ ยังช่วย “เสริม” ความชอบธรรมให้กับฝ่ายไทย กรณี “ผู้นำไทย” ระงับข้อตกลงตาม “ปฏิญญา” กับฝ่ายกัมพูชา และยังช่วยลดแรงกดดันต่อทั้ง 2 ฝ่าย “ไทย – สหรัฐฯ” ลงในเวลาเดียวกัน

เมื่อประกอบภาพทั้งหมด…ที่ปรากฏขึ้นในห้วงเวลาไม่ถึง 24 ชม. ทุกฝ่ายชี้ ไปในทิศทางเดียวกัน ว่า…

จาก แรงกดดัน! ที่เคยทำให้ไทยดูเหมือน “ถกบีบเข้ามุม” ทั้งจากเหตุ…ทุ่นระเบิดและการเชื่อมโยงประเด็นภาษี นั้น…

ได้คลี่คลายและเปลี่ยนไปเป็น “โอกาส” ให้ไทยสามารถย้ำท่าที…ด้านความมั่นคง! ได้อย่างหนักแน่นยิ่งขึ้น!!!

ไทยสามารถประกาศได้ชัดเจนว่า…สถานการณ์นี้เป็น “ภัยคุกคามด้านมนุษยธรรมและความมั่นคง” ไม่ใช่การเมืองทวิภาคีธรรมดา

และไทย…พร้อมปฏิบัติตาม “ปฏิญญา” อย่างเคร่งครัด เพื่อให้พลเรือนทั้ง 2 ประเทศ “ไทย-กัมพูชา” ปลอดภัย

ในระดับยุทธศาสตร์…สิ่งที่เกิดขึ้น! นั่นคือ ไทยได้ “ฐานความชอบธรรม” ทั้งจากหลักฐานจริง, การลงพื้นที่ตรวจของอาเซียน และคำยืนยันจาก “ผู้นำสหรัฐ”


บทบาทของไทย…จึงไม่ใช่ “ฝ่ายตั้งรับ!” แต่เป็น…ฝ่าย กำหนดทิศทางให้เกม “เดินหน้า” ในกรอบ “สันติภาพ” ที่ตรวจสอบได้จริง!!!


จุดเด่น! ของไทย คือ…ความสามารถที่จะเดินเกม ด้วยท่าที “นิ่ง–เฉียบ” ควบคู่ไปกับการแยกประเด็นความมั่นคงออกจากเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ

ทั้งเพื่อ…ปกป้องอธิปไตย และเพื่อ…ไม่ให้ประเทศที่ 3 ใช้ “เครื่องมือทางเศรษฐกิจ” เป็นตัวกำกับท่าทีของไทย

บททดสอบครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่…การพิสูจน์ว่ากัมพูชาละเมิดเงื่อนไขดใด? แต่คือการชี้ว่า…ประเทศไทยสามารถรักษาเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ในเวทีโลกได้มากเพียงใด? ในสถานการณ์ที่ “ผู้เล่นรายใหญ่” ทุกฝ่ายต่างมีผลประโยชน์ของตนเองเป็นเดิมพัน


คำยืนยันล่าสุด! ของ ปธน.ทรัมป์ ได้ลดแรงเสียดทาน และ “เปิดพื้นที่” ให้ไทยสามารถยืนในจุดที่แข็งแรงที่สุด! บนกระดานภูมิรัฐศาสตร์อาเซียน

ที่สำคัญ…ภาพการ “อุ้ม” ชนชาติที่เป็น “ศูนย์กลาง” ธุรกิจฉ้อฉล…ทั้ง สแกมเมอร์, คอลเซ็นเตอร์, การพนันออนไลน์, การค้ามนุษย์ และการหลอกลวงออนไลน์อื่นๆ รวมถึง “ผู้นำ” มีพฤติกรรมเลวร้าย ตามที่ “ทีมข่าวยุทธศาสตร์” เขียนติดกลางหน้าผาก! ในตอนต้นของบทความชิ้นนี้ (ย้อนกลับไปอ่าน….)

เมื่อ ปธน.ทรัมป์ “กลับลำ!” ผ่าน…นายกฯมาเลเซีย ย่อมให้ภาพที่ สังคมไทย ชี้หน้าว่าเป็น…สหรัฐอกัมพูชา หรือ United States of Cambodia ย่อมจางหายกันไป…

วันนี้…อย่างน้อยก็นาทีนี้ สหรัฐอเมริกา หาได้เป็น…สหรัฐอกัมพูชา อีกต่อไป!!!.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password