คปภ. ล่องใต้! จุดประกาย ‘ประกันภัยท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน’ ที่กระบี่

สำนักงาน คปภ. ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ เปิดโครงการ “ส่งเสริมประกันภัยเชิงรุก” เสริมเศรษฐกิจฐานรากและการท่องเที่ยวคุณภาพ

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) นำโดย นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ เปิดโครงการส่งเสริมประกันภัยเชิงรุก ภายใต้แนวคิด “กิน เดิน เที่ยวท่อง ล่องใต้อย่างยั่งยืน ด้วยการประกันภัย” ณ โรงแรมกระบี่รีสอร์ท ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่

เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า จังหวัดกระบี่เป็นหนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวหลักของประเทศ มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงเป็นอันดับต้นๆ จากข้อมูลตั้งแต่เดือนมกราคม – กันยายน 2568 จังหวัดกระบี่มีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 77,917 ล้านบาท จากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมกว่า 4.7 ล้านคน สะท้อนถึงศักยภาพและแนวโน้มการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง แต่ความเติบโตดังกล่าวก็มีความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ดินถล่ม และอุบัติเหตุจากการเดินทาง ทั้งอุบัติเหตุทางรถยนต์ อุบัติเหตุจากการใช้บริการสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร รวมถึงอุบัติเหตุทางน้ำและทางเรือ ซึ่งจังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดที่มีจำนวนเที่ยวเรือโดยสารมากที่สุดในประเทศถึง 204,179 เที่ยวต่อปี และนักท่องเที่ยวใช้บริการเรือ จำนวน 4,226,913 คนต่อปี

สำนักงาน คปภ. มุ่งผลักดันให้ระบบประกันภัยเป็นกลไกสำคัญในการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และคุ้มครองประชาชนอย่างเหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ โครงการนี้เกิดจากความร่วมมือของหลายภาคส่วนเพื่อสร้างวัฒนธรรมการบริหารความเสี่ยงด้วยประกันภัย ภายใต้กรอบความร่วมมือยังได้จัดเวทีเสวนาในหัวข้อ “บริหารความเสี่ยงด้วยการประกันภัย สร้างโอกาสสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการบริหารความเสี่ยงแก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยได้รับเกียรติจากผู้แทน 6 หน่วยงานได้แก่

1.นายวิภุช วิเศษสิงห์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ กล่าวถึง “แนวทางขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของจังหวัดให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ และย้ำความสำคัญของประกันภัยในมาตรฐานความปลอดภัยการให้บริการแก่นักท่องเที่ยว”

2.นางสาวมลิวัลย์ จริตงาม นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขากระบี่ กล่าวถึง “มาตรการควบคุมความปลอดภัยทางน้ำ พร้อมเสนอให้ผู้ประกอบการเรือโดยสารเข้าใจประกันภัยทางทะเลเพื่อคุ้มครองทั้งผู้โดยสารและผู้ประกอบการ”

3.นางสาววิชุพรรณ ภูเก้าล้วน ศรีสัญญา รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นำเสนอแนวคิด “การยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วยมาตรฐานความปลอดภัย และการใช้ประกันภัยเป็นเครื่องมือสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศ”

4.นายประสาน โลหะจรีกุล รองประธานคณะกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวถึง “บทบาทของภาคเอกชน ในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าถึงระบบประกันภัยเพื่อบริหารความเสี่ยงเชิงรุกและสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น”

5.ดร.พงษ์ภาณุ ดำรงศิริ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมประกันวินาศภัยไทย ให้มุมมองเกี่ยวกับ “บทบาทของภาคธุรกิจประกันภัยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การท่องเที่ยว ทั้งประกันภัยเดินทางและประกันภัยเรือโดยสาร”

6.นายอมรศักดิ์ มาลา ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการประกันภัย สำนักงาน คปภ. กล่าวสรุป “แนวทางการส่งเสริมประกันภัยเชิงรุก พร้อมย้ำความสำคัญของการสร้าง “วัฒนธรรมประกันภัย” ให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนในทุกพื้นที่”

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรม CSR มอบเสื้อชูชีพ ให้แก่ ชมรมผู้ประกอบการเรือโดยสารอ่าวนาง สหกรณ์เรือหางยาวอ่าวนาง และชมรมผู้ประกอบการเรือโดยสารหาดนพรัตน์ธารา พร้อมรณรงค์ 5 เช็กอุ่นใจ ลงเรือปลอดภัย มีประกันภัยคุ้มครอง” ได้แก่

1. เช็กสภาพเรือ สภาพดีไม่ชำรุด ไม่บรรทุกเกินกำหนด

2. เช็กความพร้อมของผู้ขับเรือ มีใบอนุญาตถูกต้อง ไม่ดื่มสุราหรือของมึนเมา มีการแนะนำความปลอดภัย

3. เช็กอุปกรณ์เรือและเสื้อชูชีพ เสื้อชูชีพครบ สภาพดี มีอุปกรณ์ช่วยชีวิต

4. เช็กเอกสาร มีใบอนุญาต และทะเบียนเรือถูกต้องไม่หมดอายุ

5. เช็กการทำประกันภัยคุ้มครองผู้โดยสาร มีกรมธรรม์คุ้มครองผู้โดยสารตามกฎหมาย คุ้มครองกรณีเสียชีวิต บาดเจ็บ และค่ารักษาพยาบาล

โดยกิจกรรมดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่จำนวนมาก อาทิ โรงแรม รถเช่า เรือโดยสาร และธุรกิจบริการท่องเที่ยวอื่นๆ

เลขาธิการ คปภ. กล่าวย้ำว่า “สำนักงาน คปภ. มุ่งผลักดันให้ระบบประกันภัยเป็นกลไกสำคัญในการบริหารความเสี่ยงของพื้นที่ ช่วยสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ พร้อมสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากและ การท่องเที่ยวคุณภาพ ประกันภัยจึงไม่ใช่เพียงเครื่องมือชดเชยความเสียหาย แต่เป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยให้ทุกภาคส่วนขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างมั่นคง ปลอดภัย และยั่งยืนในระยะยาว”.

Login

Welcome! Login in to your account

Remember me Lost your password?

Lost Password