13 ตุลาคมของทุกปี คือ วันครบรอบการสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี นับเป็นอีกวันสำคัญของประเทศไทย ที่พสกนิกรชาวไทยต่างร่วมรำลึกถึงพระองค์…พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยทั่วประเทศ… กลับมาพบกับ “12 ข่าวฮอต เม้าท์มันส์ สนั่นเมือง” ประจำจันทร์ที่ 13 ตุลาคม 2568 เริ่มกันที่ข่าวนี้เลย…

(1) ร่วมสะสม “เสบียงบุญ” – สำนักพระราชวัง เชิญชวนประชาชนร่วมเจริญอริยมรรค ระลึกถึง “พระรัตนตรัย” ในทุกอิริยาบถ ด้วยบทว่า…พุทโธ เม นาโถ (พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า) ธัมโม เม นาโถ (พระธรรมเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า) สังโฆ เม นาโถ (พระสงฆ์เป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า) ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร หรือ “วันนวมินทรมหาราช” 13 ตุลาคม 2568 บันทึกเวลาการทำสมาธิเจริญจิตตภาวนาผ่าน แอปพลิเคชัน “สมาธิเสบียงบุญ” ถึง 15 ตุลาคม 2568 เวลา 08.00 น.

(2) นายกฯ-ครม.วางพวงมาลา – ช่วงสายวันนี้ (13 ต.ค.68) อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย นำ คณะรัฐมนตรี วางพวงมาลาเนื่องใน วันนวมินทรมหาราช 13 ตุลาคม 2568 ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ถนนพิษณุโลก เขตดุสิต กรุงเทพฯ โดย นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ถวายความเคารพพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร แล้ววางพวงมาลาจำนวน 2 พวง ในนามนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี จากนั้นถ่ายภาพหมู่.

(3) ข่าวปลอม! ตำหนิ ‘รองแม่ทัพ’ – นายกฯอนุทิน ยืนยัน กรณีมีการเผยแพร่ข่าว ตำหนิ “รองแม่ทัพภาคที่ 2” ว่า… ไม่เป็นความจริง ลั่น! จะดำเนินการทางกฎหมายกับ “มือปล่อยข่าวลวง – ข่าวปลอม” ด้าน สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ “โฆษกรัฐบาล” ย้ำ! รัฐบาลพร้อมสนับสนุนฝ่ายความมั่นคงเสมอมา เตือน! อย่าปล่อยข่าวลือสร้างความสับสนแก่ประชาชนในสถานการณ์ประเทศขณะนี้ หากไม่หยุด จะพิจารณาดำเนินคดีกับผู้เผยแพร่ข้อความเท็จต่อไป ขณะที่ พล.ต. ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์เฟซบุ๊ก กราบขอบพระคุณท่านนายกฯ ที่ได้แจ้งให้คนไทยทราบว่า…เป็นข่าวลวง พร้อมยืนยัน เป็นทหาร รับผิดชอบงานความมั่นคง และจากสถานการณ์ชายแดนได้ปลุกสำนึกความรักชาติแก่คนไทยทั้งแผ่นดิน.  

(4) ชนวนเหตุสำคัญ? – ชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงปมความขัดแย้งไทย-กัมพูชา เกิดจากผลประโยชน์ส่วนตัวของ ทักษิณ–ฮุนเซน ไม่ใช่ปัญหาระหว่างประชาชนของ 2 ชาติ และชี้ว่า ปัญหาของ MOU 43 (บนบก) และ MOU 44 (ในทะเล) เกี่ยวกับผลประโยชน์ใต้ทะเล บริเวณเกาะกูด ที่เป็น ชนวนสำคัญ ทำให้คน 2 คนสร้างความวุ่นวายจนชาวบ้านเดือดร้อนและต้องอพยพ ตนรู้สึกสงสาร แพทองธาร ชินวัตร ที่เป็น “เหยื่อ” ของเรื่องนี้ ส่วนกรณี “ซาวด์หลอน” ถือเป็นการปฏิบัติการจิตวิทยา ถือเป็นรูปแบบสงครามยุคดิจิทัล ไม่ได้เป็นการยิงหรือฆ่า แต่สร้างแรงกดดันและความกลัว อีกทั้งยังมีขบวนการ IO ฝั่ง “ค่ายแดง” ที่พยายามโยงเอาตนเข้าไปเกี่ยวข้อง เรียกฮุนเซนว่า “พ่อฮุนเซน” ตนรู้ว่าใครทำ แต่ไม่อยากทะเลาะ ไม่อยากเอาความขัดแย้งของคนอื่นมาของตนเอง ยืนยันเราไม่ได้ทะเลาะกับเขมร เราทะเลาะกับไอ้ฮุนเซน.

(5) สั่งล็อคแก๊งยาเสพติด – พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะ ผบ.หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ผบ.นบ.ยส.24) ลงพื้นที่ตรวจงานปราบยาเสพติดที่อุดรธานี ย้ำ! ทหารต้องทำงาน “เชิงรุกและบูรณาการ” ร่วมทุกหน่วยในภาคอีสานตอนบน แถมยังสั่งเข้มการข่าว ห้ามปล่อยขบวนการลำเลียงยาเสพติดเล็ดลอดแนวชายแดน และให้ตั้งด่านตรวจ–จุดสกัดทั้งเส้นหลักและรอง จับทั้ง “ผู้ค้า – ผู้ลำเลียง – ผู้เสพ” แบบเด็ดขาด! อีกทั้ง ยังให้เน้นเฝ้า ระวัง! เส้นทางน้ำ ที่กลายเป็นช่องทางใหม่ของขบวนการยา ทั้งนี้ ได้สั่งบูรณาการกับตำรวจ ศุลกากร และฝ่ายปกครอง “ปิดจุดเสี่ยง” ทั้งหมด ระบุ! ทุกหน่วยต้อง “ทำจริง ไม่ทำเล่น” เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชน ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า…“ภารกิจนี้ต้องสำเร็จ เพราะยาเสพติดคือศัตรูตัวจริงของชาติ!”.

(6) เกาะติดเก็บทุ่นระเบิด – พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 ลงพื้นที่ชายแดนสระแก้ว ติดตามภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดในเขตบ้านหนองหญ้าแก้ว กำชับทุกหน่วยทำงานด้วยความระมัดระวัง ย้ำ! “ต้องปลอดภัยก่อนส่งคืนแผ่นดินให้ประชาชนทำกิน” พร้อมตรวจความพร้อม ทหารม้า–ทหารปืนใหญ่ เสริมยุทธวิธีป้องกันชายแดนให้แข็งแกร่งทุกจุด นอกจากนี้ ยังได้ มอบสิ่งของเป็นขวัญกำลังใจแก่กำลังพล และสอบถามปัญหาครอบครัว เพื่อคลายความกังวล นอกจากนี้ ยังได้หารือร่วมกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เพื่อบูรณาการกำลังทหาร–ตำรวจ ดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน ยืนยัน! ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต้องแน่นแฟ้น ทั้งในพื้นที่และแนวชายแดน ทั้งยังได้ขอบคุณประชาชนและมวลชนที่ส่งแรงใจให้ทหารในภารกิจปกป้องผืนแผ่นดิน ก่อนประกาศหนักแน่นว่า…“ทหารไทยจะไม่ถอยแม้ก้าวเดียว เพื่อความสงบและศักดิ์ศรีของชาติ!”.

(7) ใช้ร่าง ภท. ไม่แตะ ‘หมวด 1-2’ – “โฆษกพรรคภูมิใจไทย” แนน บุณย์ธิดา สมชัย ยืนยันจุดยืนชัด “แก้รัฐธรรมนูญ ใช้ร่างภูมิใจไทยเป็นหลัก” ประกาศไม่แตะ หมวด 1-2 เด็ดขาด  ย้ำ! “ใครจะแก้ก็เรื่องของเขา แต่ภูมิใจไทยไม่ยุ่งแน่” เผยการโหวตถือเป็น “เอกสิทธิ์ของ ส.ส.” ไม่บังคับ ไม่ล็อกเสียง แต่เชื่อพรรคร่วมไปในทิศทางเดียวกัน ไม่หวั่น พรรคเพื่อไทยห่วงเกมสภา  บอก “ภูมิใจไทยไม่เล่นการเมืองสกปรก” พิจารณาจากเนื้อหาไม่ใช่ชื่อพรรค ระบุ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย มาที่พรรคเพื่อให้คำแนะนำเรื่องสาระรัฐธรรมนูญ ปัดข่าวตั้ง “องครักษ์พิทักษ์ร่างฯ” บอก ผู้อภิปรายต้องรับผิดชอบคำพูดตัวเอง ภายใต้ข้อบังคับสภา ยืนยัน! ไม่กังวลเกมการเมืองกลางสภา และขอ “โฟกัส” กฎหมายที่สำคัญกว่า เช่น “พ.ร.บ.อากาศสะอาด” ก่อนจะย้ำทิ้งท้ายว่า “ภูมิใจไทยชัดเจน โปร่งใส ไม่แตะต้องหมวดหลักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์แน่นอน!”.

(8)ไม่หวั่นคะแนนนิยมหด – ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หน.พรรคประชาชน เมินผล สวนดุสิตโพล ที่ให้ “ภูมิใจไทย” คะแนนนิยมแซงหน้า บอก! ไม่หวั่น เพราะประชาชนเองก็รู้ว่า นโยบายรัฐบาลตอนนี้เป็นเพียง “ยาแก้ปวดระยะสั้น” ชี้! ปัญหาเศรษฐกิจไทยต้องแก้เชิงโครงสร้าง ไม่ใช่แค่แจกเงิน หรือมาตรการกระตุ้นชั่วคราว ย้ำ! ผลโพลไม่ใช่เรื่องน่ากังวล แต่เป็นเสียงสะท้อนให้ทุกพรรคต้องคิดยาว เหน็บเบาๆ “บางนโยบายเหมือนหาเสียงล่วงหน้า มากกว่าแก้ปัญหาจริง” มั่นใจ…ประชาชนมองออก ว่า อะไรคือการเมืองระยะสั้น อะไรคือการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมยกกรณี “ดิจิทัลวอลเล็ต” เป็นตัวอย่างของ นโยบายที่ไม่ช่วยเศรษฐกิจได้จริง! ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยความมั่นใจว่า “เลือกตั้งหน้า คนไทยจะเลือก “ผู้นำ” ที่แก้ปัญหาได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ไม่ใช่แค่แจกแล้วจบ!”.

(9) หนุนอุตฯป้องกันประเทศ – ธนกร วังบุญคงชนะ รมว.อุตสาหกรรม ตรวจติดตามความคืบหน้าการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ณ บริษัท อาร์ วี คอนเน็กซ์ จำกัด จ.ปทุมธานี โดยมี รศ.ดร.​สุเจตน์ จันทรังษ์ ประธานบริษัท ให้การต้อนรับและนำเสนอผลงานด้านเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับ (UAV) และระบบป้องกันโดรน (Anti-Drone) ยืนยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุน “อุตสาหกรรมเทคโนโลยีป้องกันประเทศ” ลดการพึ่งพาอาวุธต่างชาติ ประกาศภารกิจใหม่! สร้างขีดความสามารถคนไทย ดันเทคโนโลยีป้องกันชาติสู่ระดับโลก ชี้! อุตสาหกรรมนี้ไม่ใช่แค่เรื่องมั่นคง แต่คือ “เศรษฐกิจใหม่” สร้างรายได้และศักยภาพชาติ ย้ำ! พร้อมหนุนเต็มสูบ ทั้งทุน วิจัย และปรับกฎหมาย ให้เอกชนไทยโตได้จริง กำหนดเป็นหนึ่งใน “New S-Curve” อุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคต ด้าน รศ.ดร.สุเจตน์ เผย UAV ฝีมือคนไทย เข้าประจำการจริงในกองทัพอากาศ ย้ำความร่วมมือรัฐ–เอกชน–มหาวิทยาลัย คือกุญแจสร้างบุคลากรสายเทคโนโลยีความมั่นคง ประกาศเสียงดัง “ไทยพร้อมยืนด้วยขาของตัวเอง สร้างอาวุธ–เทคโนโลยีป้องกันประเทศได้ไม่แพ้ใคร!”.

(10) ฉุดราคาทองคำไม่อยู่? – นับเป็นอีกหนึ่งวัน ที่ราคารทองคำผันผวน ปรับขึ้น–ลงถี่ถึง 18 ครั้ง ก่อนปิดตลาดพุ่งรวม 650 บาท โดยเปิดตลาดเมื่อช่วงเย็นวันนี้ (13 ต.ค.) ราคาทองแท่งปิดที่ ขายออก 62,750 บาท – ทองรูปพรรณ 63,550 บาท ทำสถิติ “นิวไฮ” อีกครั้ง สมาคมค้าทองคำ เผย! การเคลื่อนไหวตามราคาทองโลกที่พุ่งแตะ 4,077 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แรงซื้อทองพุ่งจากภาวะตลาดโลกผันผวน นักลงทุนแห่หาที่พักเงินปลอดภัย ขณะที่ เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อย อยู่ที่ 32.54 บาทต่อดอลลาร์ หนุนราคาทองในประเทศทะยาน ถือเป็นการพุ่งขึ้นแรงสุดในรอบหลายเดือน สะท้อนความกังวลเศรษฐกิจโลก นักลงทุนจ้องจับตาทิศทางเฟดและค่าเงินดอลลาร์ในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ วงการทองซุบซิบกันสนั่น ทำนอง…“เร็วๆ นี้อาจเห็นราคาทะลุ 63,000 บาทต่อบาททองแท้!”.

(11) เตือนระวังภัย! นายร้อยปอยเปต – ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชน ให้ระวังภัยร้าย…แก๊งคอลเซ็นเตอร์เปลี่ยนหน้าใช้ “นายร้อยปอยเปต” รุ่นใหม่ แต่ไม่พ้นแผนเดิม คือ แอบอ้างเป็นตำรวจ โทรวิดีโอคอลหลอกให้โอนเงิน โดย ตำรวจตัวจริง ยืนยันชัด “ตำรวจจริงไม่วิดีโอคอล ไม่ขอเงินตรวจสอบบัญชีเด็ดขาด!” ย้ำ! ใครเจอให้รีบตัดสาย หรือบล็อกทันที อย่าเผลอหลงเชื่อแม้แต่วินาทีเดียว พร้อมฝากเตือน “อย่าให้ความกลัวทำให้เสียเงิน” เพราะของปลอมมันแสดงเนียนขึ้นทุกวัน แนะประชาชนจำไว้ ไม่มีตำรวจที่ไหน? เรียกโอนเงินผ่านโทรศัพท์ ขอความร่วมมือส่งเบาะแสผ่าน Inbox เพจ “ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)” ได้ตลอด 24 ชม. ก่อนจะปิดท้ายเสียงแข็ง! “อย่าให้พวกหลอกลวงได้ค่าความโง่จากประชาชนอีกต่อไป!”.

และ (12) รื้อผนังอาคาร สน.สามเสน – ภารกิจซ่อม “หลุมยักษ์สามเสน” ยังเดินหน้า แม้ฝนกระหน่ำต้องหยุดทำงานชั่วคราว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เร่งรื้อถอนโครงสร้าง อาคาร สน.สามเสน (หลังใหม่) ที่ทรุดตัว เพื่อลดน้ำหนักกดดิน โดยใช้ เครนหุ่นยนต์–เครื่องจักรหนัก เข้ารื้อผนังและโครงสร้างอย่างระมัดระวัง ด้าน ผศ.ดร.ธเนศ วีระศิริ เผย! อาคารเริ่มนิ่ง ไม่มีสัญญาณทรุดซ้ำ แฟลตตำรวจ–รพ.วชิรฯ ยังปลอดภัย ซึ่ง เจ้าหน้าที่เจาะหลุม 8 หลุมอัดปูนพิเศษ (Grouting) เสริมความแข็งแรงใต้ดิน ทำแล้ว 6 เหลืออีก 2 ขณะเดียวกัน ปรับหน้าดินเป็นแนวบันไดป้องกันดินสไลด์ซ้ำ หลังฝนถล่มเมื่อคืนที่ผ่านมา ด้าน สุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สปภ.กทม. ยืนยัน! คุมเข้มตรวจวัดอาคาร 24 ชม. เป้าหมายใหญ่ คือ การถมดินคืนระดับ 7 เมตร ฟื้นผิวถนน และสร้างความปลอดภัยก่อนเปิดใช้เส้นทางอีกครั้ง!…แล้วพบกันใหม่พรุ่งนี้!.