นับเป็นอีกวันที่มีความเคลื่อนไหวของข่าวเยอะเกินปกติ! หลายเรื่องยังจะเป็นข่าวต่อเนื่อง บางเรื่องมองเห็นเค้าลาง “คดีความ” ตามมา เอาเป็นว่า…ข่าวไหนที่ยังไม่ได้ลงในช่องทางปกติของเว็บไซต์ข่าวยุทธศาสตร์ ออนไลน์ ก็ขออันเชิญมาลงใน “12 ข่าวร้อนๆ” เม้าท์มันส์…สนั่นเมือง ประจำวันอังคารที่ 7 ตุลาคม 2568 มาเริ่มกันเลย…

(1) ระวัง! หลอน – “นายกฯอนุทิน” ออกตัวแรง! บอกไม่ได้ดูรายชื่อ???…ปมโยกย้ายล็อตใหญ่นอกฤดูกาลของกระทรวงการคลัง ทั้งที่เพิ่งตั้งกันได้ไม่นาน หลายคนได้ย้ายไปอยู่ที่ที่เคยอยู่? บางคน “ส้มหล่น” นั่งตบยุงในกระทรวงฯได้แค่เพียง 7 วัน ก็กระโดดขึ้นไปใหญ่ในบ้านเก่า ส่วนใครเป็นใคร? ขอยังไม่ฉาย…แต่ที่น่าสนใจคือ เก้าอี้ “อธิบดีกรมสรรพากร” ลือกันว่า…“ปิ่นสาย สุรัสวดี” บุตรชายของ “ปลอดประสพ” แกนนําพรรคเพื่อไทย โดนเด้งกลับไปนั่งเก้าอี้รองปลัดฯ ทั้งที่เจ้าตัวเพิ่งดำรงตำแหน่งแค่เพียงปีเดียว ภาพที่ “ถวิล เปลี่ยนสี” ถูกสั่งย้ายจาก “เลขาฯสมช.” เมื่อปี 2554 แล้วฟ้องต่อ ศาลปกครอง เอาผิด…อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สุดท้าย ชนะคดี! ได้คืนตำแหน่ง เพราะศาลฯเห็นว่า…เป็นการโยกย้ายที่ใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบ พร้อมเพิกถอนประกาศให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ถูกสั่งย้าย ภาพนั้น…ลอยมาให้เห็น และเหตุการณ์นี้…อาจกลับมาตามหลอกหลอน “นายกฯอนุทิน” ในฐานะ “หัวหน้ารัฐบาล”.

(2) คนมีพวก – ระดับหัวหน้าส่วนราชการ…ที่ต้องแสดงความยินดี เพราะไม่เกี่ยวกับ…เกมการเมือง? นั่นคือ พันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ และ จินดารัตน์ วิริยะทวีกุล ทั้งคู่เพิ่งได้นั่งเก้าอี้…ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง แค่เพียงไม่กี่วัน!!! ก็ได้เขยิบกันไปไกล? คนแรก…ข่าวว่าไปนั่งเก้าอี้ อธิบดีกรมศุลกากร แทนที่ กุลยา ตันติเตมิท “อธิบดีฯ 7 วัน” ที่ขยับกลับไปเป็น…อธิบดีกรมสรรพากร ซึ่งเมื่อ 1 ปีก่อน…เจ้าตัวเคยนั่งเก้าอี้ตัวนี้มาแล้ว ส่วน คนหลัง…กลับไปโตที่ บ้านเก่า บนเก้าอี้ ผอ.สบน. และที่ต้องดีใจด้วย ก็คือ อัครุตม์ สนธยานนท์ รองปลัดฯคลังด้านบริหาร ที่รอบนี้ ได้นั่งเก้าอี้ อธิบดีกรมธนารักษ์ หลังพลาดพลั้งกันมาหลายหน! แต่ที่ต้องเสียใจ เพราะ “อาวุโสสูงสุด!” แถมเคยมีชื่อติดกลุ่ม “อธิบดีฯ” มาก่อนใคร? คงไม่พ้น ศุกร์ศิริ อภิญญานุวัฒน์ รองปลัดฯคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านทรัพย์สิน เฮ่อ! ชีวิตข้าราชการไทย มันก็เป็นเช่นนี้ ดังวลี “นกมีขน คนมีพวก!!!”.

(3) ซักฟอกรัฐบาล – ยังไม่ทันขาดคำ! นาทีนี้ พรรคเพื่อไทย ก็จ่อยื่นขอเปิด อภิปรายไม่ไว้วางใจ กันแล้ว ลึกๆ มันจะใช่ปม… “เงินเยียวยาเหตุปะทะชายแดน-น้ำท่วม” และ “คนละครึ่งพลัส” หรือ??? ดูทรงแล้ว…ประเด็น ย้ายไม่ธรรม! “ลูกชายนักการเมืองใหญ่” น่าจะเป็นหัวข้อหลัก เอาเป็นว่า…“นายกฯอนุทิน” ในฐานะ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย คงต้องทำใจ!…แม้รัฐบาลจะเพิ่งเริ่มบริหารประเทศได้ไม่ถึงเดือน แต่เมื่อปล่อยให้เรื่องเล็กๆ กลายเป็น…เรื่อง “ปลายบาน” ก็ต้องรับสภาพกันไป? เมื่อ ฝ่ายแค้น เอ้ย! ฝ่ายค้านเพื่อไทย…เปิดเกมซักฟอก ไม่ใช่เพราะ…ไม่ไว้วางใจเรื่องเงินงบประมาณ แต่น่าจะเพราะ…รัฐบาล “อาจหาญ” กล้าเปิดเกม “ย้ายใหญ่นอกฤดู” ก็คงต้องสู้รบกับการ ตรวจสอบทางการเมืองในสภาผู้แทนราษฎร กันไป.

(4) “3 ปลัดฯ+1 เลขาฯ” ร่วม ครม. – ท่ามกลาง…สถานการณ์การเมืองและความมั่นคงที่ดูไม่ค่อยปกติสักเท่าใด? การประชุม ครม.นับจากวันนี้ไป…ขาดไม่ได้ที่จะต้องเชิญเข้าร่วมประชุมด้วย นั่นคือ ข้าราชการระดับสูง ดีกรีเต็มหรือเทียบเท่า “3 ปลัดฯ” ประกอบด้วย…ปลัดกระทรวงกลาโหม,ปลัดกระทรวงมหาดไทย, ปลัดสำนักงานนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทั้ง 4 คน จะต้องเข้าร่วมประชุม ครม.ทุกครั้ง เรื่องนี้…“นายกฯอนุทิน” แจ้งให้ที่ประชุมฯรับทราบแล้ว เหตุผลคือ…เพื่อให้ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้รับทราบเรื่องราวและรายละเอียด ที่นำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ตั้งแต่เริ่มต้น จะได้นำนโยบายไปปฏิบัติในทันที! ซึ่งจะทำให้งานมีประสิทธิภาพ สามารถรับสนองต่อนโยบายของรัฐบาล รวมถึงสามารถจะเสนอความเห็นต่อ ครม.ได้ทันทวงที!!!.

(5) พ้น! รับผิดชอบ – ใครที่เคยกังขา! บทบาทของ กกต.? นั้น ล่าสุด สำนักงาน กกต. ได้ชี้แจงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง อ้างถึง…ข่าวประชาสัมพันธ์ที่ 379/2568 ที่เคยเผยแพร่ เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะ กรณีเอกสารและรายชื่อผู้ถูกกล่าวหา 229 คน ในคดีดังกล่าวหลุดออกมา!!! ยืนยันว่า…บันทึกแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าว…ไม่ได้หลุดออกจาก สำนักงาน กกต. หรือ คกก.การสืบสวนฯ คณะที่ 26 หรือ พนักงานที่รับผิดชอบสำนวนดังกล่าว แต่อย่างใด? เพราะบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาจะมีการ ส่งต้นฉบับให้กับ “ผู้ถูกกล่าวหา” โดยวิธีการลับ และ “เก็บสำเนาคู่ฉบับ” ไว้ในสำนวนการไต่สวนเป็นอย่างดี เอกสารต้นฉบับดังกล่าวที่อยู่กับ “ผู้ถูกกล่าวหา” ถือว่า…พ้นจากการครอบครองของสำนักงาน กกต.แล้ว ดังนั้น กรณีปรากฏรายชื่อ “ผู้ถูกกล่าวหา” คดีการเลือก สว. ทั้ง 229 คนนั้น จากการตรวจสอบรายชื่อดังกล่าว พบเป็นการ “จัดพิมพ์ขึ้นมาใหม่” เนื่องจากมีรายชื่อคลาดเคลื่อนและจำนวน “ผู้ถูกกล่าวหา” ไม่ตรงกับความเป็นจริง.

(6) ปะเฉยๆ ไม่(ปะ)ทะ!!! –แล้ว “2 คนดัง” ก็ได้พบกัน? หนึ่ง…สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ของไทย อีกหนึ่ง…จาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย “ป้ายแดง” หลังพบปะและหารือกว่า 1.30 ชม. โดยมี 1 ใน 2 เรื่องหลัก! ที่อยู่บนความสนใจของทั้งคนไทยและทั่วโลก นอกเหนือความเป็น “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” ฉลองความสัมพันธ์ไทย-จีนครบ 50 ปี ก็คือ…การแสดงความจริงใจของฝ่ายจีน?…จาง เจี้ยน ยืนยันหนักแน่น! ปมปะทะ “ไทย-กัมพูชา” กับข่าวทางการจีนส่งอาวุธให้กัมพูชานั้น ฝ่ายจีนได้ใช้ท่าทีที่เป็นกลาง ยุติธรรม ช่วยให้ 2 ฝ่าย…พูดคุย คลี่คลายปัญหา และย้ำว่า…ตั้งแต่เกิดเหตุปะทะฯ จีนไม่เคยสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ใดๆ ให้กับกัมพูชา เพื่อใช้โจมตีประเทศไทย ปัญหานี้ ทางจีนมีท่าทีที่เสมอต้นเสมอปลาย พยายามส่งเสริมให้ 2 ชาติ พูดคุยเจรจาด้วย วิธีการทวิภาคี เพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง เช่นที่ หวัง อี้ รมต.ต่างประเทศของจีน ได้ใช้โอกาสต่างๆ เพื่อพูดคุยกับ รมต.ต่างประเทศ ของทั้ง 2 ฝ่ายก่อนหน้านี้.

(7) ไม่ได้โม้!!?? – บางพรรคที่เคยใหญ่…บางพรรคที่ใกล้(จะ)ใหญ่ ต่างออกมาโพทนากันแต่หัววัน??? นัยว่า…การเมืองไทย ใกล้ถึงวันเลือกตั้งใหญ่ ซะงั้น??? เริ่มที่…พรรคเพื่อไทย ทั้ง “หน.อิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร และ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผอ.การเลือกตั้งฯ “คนใหม่” ต่างประกาศความมั่นใจ หลัง พรรคประชาชน ไปหนุนให้ พรรคภูมิใจไทย เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และดัน อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี ฉุดกระแสความนิยมลดต่ำฮวบ เป็นโอกาสของ พรรคเพื่อไทยที่จะกวาด ส.ส.รอบนี้…200 เก้าอี้ ชนิดไม่สนใจ “ภาวะทิ้งพรรคฯ” แต่อย่างใด? ขณะที่ “ผู้กองธรรมนัส” ปธ.ที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ก็ไม่มีเบา!!! ลั่นดังๆ ให้ได้ยินถึง บ้านจันทร์อะไรสักอย่าง??? ทำนอง… “พรรคกล้าธรรมไม่ใช่พรรคสาขาของพรรคการเมืองใด แต่เป็นพรรคที่ยืนหยัดบนอุดมการณ์ของตนเอง โดยมีเป้าหมายคือการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นร่วมกัน” โวต่อ…ตอนนี้ มี สส.ร่วมอุดมการณ์ อยู่ในมือแล้ว 80 คน อนาคตอาจมี “ตั๋วไหลเพิ่ม” เชื่อว่า…เลือกตั้งรอบหน้า คงไม่น้อยไปกว่านี้…แหม! ขอดูวันจริง…จะสมคำโม้หรือเปล่า???.

(8) แจ้งความสินบน 40 ลบ. – ไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดีอี ผู้เปิดเผยกลางสภาฯ ปม “สินบน 40 ล้านบาท” แลกกับการไม่ให้เร่งปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ และพนันออนไลน์ กระทั่ง ถูกสังคมไทยกดดันให้ต้องจัดการอย่างเด็ดขาด!!! ล่าสุด มีรายงานข่าวจาก กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ว่า เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าตัวได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.เผ่าภูมิ สมหมาย รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. แล้ว โดยให้ ตำรวจกองปราบฯ ติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี ซึ่งผู้ประสานงานเพื่อติดสินบนดังกล่าว เบื้องต้นถูกระบุว่าเป็น “นายบ่อนดังกัมพูชา” ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 144 “ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

(9) ตั้งใหม่ AMC แบงก์ชาติ – หลังสร้าง 2 ข่าวสุดฮอต ทั้งเรื่อง…คนละครึ่งพลัส และ โยกย้าย ขรก.คลัง นอกฤดู ล่าสุด “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” รองนายกฯและรมว.คลัง พูดถึงการ จัดตั้ง AMC รับซื้อหนี้เสียจากธนาคาร โดยรับมาบริหารจัดการ และจะใช้เงินจำนวน 1 หมื่นล้านบาท จากที่มีเหลือราว 2.6 หมื่นล้านบาท ของ กองทุนฟื้นฟูฯ ในสังกัดแบงก์ชาติ แม้วันนี้…กองทุนฟื้นฟูฯจะมี AMC อยู่แล้ว 2 แห่ง…ใหญ่สุดในธุรกิจ คือ  BAM จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และ SAM ที่ค่อยเป็นค่อยไป “ความชั่วไม่มี ความดีไม่ปรากฏ!!!” สำหรับ AMC ที่จะตั้งขึ้นมาใหม่นี้ ยังอยู่ระหว่างการหารือกับแบงก์ชาติ โดย ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ จะเข้ามาช่วยดูแลเองโดยตรง เพื่อร่วมกันผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว อาจใช้รูปแบบ “บริหารหนี้” เหมือนกับช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ”ต้มยำกุ้ง“ ปี’40 รับซื้อหนี้ในราคาต่ำกว่ามูลหนี้ เพราะขณะนี้ ธนาคารส่วนใหญ่ตั้งสำรองหนี้สูญเต็มจำนวนแล้ว โดยจะใช้ แนวทางบริหารจัดการ ยกระดับ และพัฒนาลูกหนี้ ควบคู่กันไปด้วย หวังลดภาระการผ่อนชำระของลูกหนี้ลงกึ่งหนึ่ง.

(10) “ชีวิต…พลัสได้ทุกวัน” – ผกาฉัตร เตชาบูรพานนท์ รอง ผจก.ใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย ประกาศพลิกโฉม “บัตรเครดิตแพลทินัมกสิกรไทย” สู่ชื่อใหม่ “บัตรเครดิต KBank PLUSTINUM” สะท้อนถึงสิทธิพิเศษที่ลูกค้าจะได้รับมากขึ้น พร้อมดีไซน์ใหม่ทันสมัยและสิทธิประโยชน์ที่ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การใช้จ่ายที่คุ้มค่าในหมวดที่ลูกค้าใช้บ่อย เช่น ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า แฟชั่น และการเดินทาง ซึ่งลูกค้าสามารถใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตใบนี้ได้ทุกวัน ไม่ต้องรอโปรโมชันพิเศษ ให้ “ชีวิต…พลัสได้ทุกวัน” กับสิทธิพิเศษใหม่ พลัสคะแนน K Point สูงสุด X3 รวมสูงสุด 3 เท่า, พลัสสิทธิ์กดรับ e-Coupon บน K PLUS มูลค่าสูงสุด 260 บาท, พลัสเครดิตเงินคืน (Cashback) สูงสุด 25% ในเดือนเกิด, พลัสบริการห้องรับรอง Miracle Lounge ไม่จำกัดสายการบิน เมื่อเดินทางไปต่างประเทศ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สูงสุด 2 ครั้ง/คน/ปี และ พลัสประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล แลกคะแนน K Point เริ่มต้นเพียง 500 คะแนน เพื่อรับประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล วงเงินสูงสุด 100,000 บาท ลูกค้ายังสามารถใช้บัตรเครดิตแพลทินัมกสิกรไทยใบเดิมได้อย่างต่อเนื่อง และได้รับสิทธิพิเศษใหม่ตั้งแต่วันนี้  – 31 ธ.ค.2569.

(11) เปิดเวทีสู่รายงาน EIA –  นำชัย นิลทอง ผจก.ฝ่ายวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน ระบุถึงการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 สำหรับ โครงการนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง (ส่วนขยาย) ระยะที่ 7 โดยเปิดโอกาสให้มีส่วนได้ส่วนเสีย ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูล ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะ อันเป็นประโยชน์ต่อการจัดทำร่างรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โดยจัดขึ้นในจังหวัดระยอง (3 ต.ค.) และชลบุรี (4 ต.ค.)  สำหรับพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง นับเป็นพื้นที่การลงทุนที่มีศักยภาพในโครงการ EEC รองรับการลงทุนจากทั่วโลก โดยมีพื้นที่ใหม่ 2,985.63 ไร่ รวมของเดิม เป็น 20,104.42 ไร่ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งการสร้างงาน สร้างรายได้ และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ทั้งนี้ บริษัทฯจะนำข้อมูลที่ได้รับไปปรับปรุงในร่างแผน EIA ให้เกิดความรอบคอบ นำไปสู่แนวทางการปฏิบัติในอนาคต โดยหลังได้รับการอนุมัติผ่านความเห็นชอบฯแล้ว ทั้งนี้ เพื่อตอกย้ำถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและความโปร่งใส ในฐานะ ผู้พัฒนาเมืองอุตสาหกรรมอัจฉริยะ (Smart City) ที่พร้อมขับเคลื่อนการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่อย่างมั่นคงและยั่งยืน.

(12) กทม.รับมือ 3 น้ำ – ผู้ว่าฯชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แถลงความพร้อม รับมือ 3 สถานการณ์น้ำ ที่มีโอกาสจะถาโถมใส่พื้นที่ของเมืองหลวง ไม่ว่าจะเป็น “น้ำเหนือ น้ำหนุน และน้ำฝน” จากนั้น ได้นำคณะสื่อมวลชนลงเรือสำรวจการเตรียมความพร้อมบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ผลจากที่มีฝนตกในsลายพื้นที่ โดยเฉพาะ ภาคเหนือ ที่หลายฝ่ายกังวลใจว่าอาจส่งผลกระทบต่อระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาหรือไม่? ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้ติดตามสถานการณ์และประสานข้อมูลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กรมชลประทาน ศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำ ที่อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในบางพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ได้ โดยวาง 3 มาตรการรับมือน้ำ ดังนี้ (1) ตรวจสอบแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา และเฝ้าระวังจุดเสี่ยงน้ำท่วม (2) การเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และ (3) มาตรการพร้อมรับสถานการณ์น้ำฝน ประกอบด้วย (3.1) ลดระดับน้ำรองรับสถานการณ์ฝน (3.2) เตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำ และ (3.3) เตรียมความพร้อมอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่.