‘พาณิชย์’ ส่งทีมลงพื้นที่สำรวจ ‘ด่านโหย่วอี้กวนแบบอัจฉริยะ’ ดูความพร้อมรับฤดูผลไม้ไทย

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ส่ง “ทีมทูตพาณิชย์” ลงพื้นที่สำรวจ “ด่านโหย่วอี้กวน” แบบอัจฉริยะ เผย!ก่อสร้างเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างทดลองการใช้งาน ชี้! ระบบอัจฉริยะก่อประโยชน์ต่อการส่งออกผลไม้ไทยไปจีน รถผ่านด่านเร็วขึ้น คาดเปิดให้บริการ มิ.ย.นี้ แนะช่วงฤดูผลไม้ ควรดูด่านอื่น ๆ เป็นทางเลือกไว้ด้วย

น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯมอบนโยบายให้ “ทูตพาณิชย์” ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้า และโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ล่าสุด ได้รับรายงานจาก นายนิติ ประทุมวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงความคืบหน้าของ การก่อสร้างด่านโหย่วอี้กวนแบบอัจฉริยะ (Smart Port) ซึ่งเป็นด่านทางบกมีชายแดนติดกับประเทศเวียดนาม และเป็นเป็นด่านทางบกนำเข้าผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดของจีน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของด่าน เป็นการเตรียมความพร้อมรองรับฤดูกาลผลไม้ของไทยที่กำลังจะมาถึง
ทั้งนี้ “ทูตพาณิชย์” ได้รายงานว่า ด่านโหย่วอี้กวนได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนกลางให้สร้างเป็นโครงการด่านทางบกข้ามพรมแดนแบบอัจฉริยะ (Smart Port) แห่งแรกของประเทศจีน ซึ่งโครงการนี้ได้เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2566 ในพื้นที่ระหว่าง ด่านโหย่วอี้กวน (จีน)–ด่านหูหงิ (เวียดนาม) มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาช่องทางการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์แบบไร้คนขับสำหรับการขนส่งสินค้าข้ามแดนระหว่างด่านโหย่วกวนและด่านหูหงิ และบรรลุการผ่านด่านได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้ได้ก่อสร้างเสร็จแล้ว และอยู่ระหว่างการทดลองการใช้งานพื้นที่ด่านอัจฉริยะ ที่มีระบบนำเข้าส่งออกสินค้าในพื้นที่ควบคุม โดยแยกจากพื้นที่การนำเข้าส่งออกเดิม และในพื้นที่ด่านอัจฉริยะจะใช้รถไร้คนขับ (IGV) ส่งมอบ เคลื่อนย้ายตู้สินค้า และมีโครงยกตู้สินค้าเพื่อขนถ่ายสินค้าแบบอัตโนมัติ

“ทูตพาณิชย์ได้นำทีมประเทศไทย ประกอบด้วย สถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง สำนักงานที่ปรึกษาฝ่ายเกษตรกว่างโจว และสำนักงานศุลกากรประจำนครกว่างโจว เดินทางไปด่านโหย่วอี้กวน เพื่อสำรวจความคืบหน้าสถานการณ์ของด่านโหย่วอี้กวนแบบอัจฉริยะ และสำรวจความพร้อมของด่านก่อนฤดูกาลผลไม้ไทยในปี 2568 แล้ว ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ด่านโหย่วอี้กวนว่าด่านอัจฉริยะดังกล่าว คาดว่าจะสามารถใช้งานอย่างเป็นทางการได้ภายในเดือนมิถุนายน 2568 โดยด่านโหย่วอี้กวนจะใช้ระบบการนำเข้าและส่งออกสินค้ารูปแบบเดิมควบคู่กับระบบอัจฉริยะ ซึ่งจะทำให้ด่านสามารถรองรับปริมาณรถเข้าออกด่านเพิ่มขึ้นจากเดิมได้ถึงหนึ่งเท่าตัวคิดเป็น 2,800–3,000 คันต่อวัน จากเดิมรถเข้าออกประมาณ 1,200–1,500 คันต่อวัน และจะทำให้การขนส่งผลไม้จากไทยไปจีนทำได้ดีขึ้นเร็วขึ้น” อธิบดี DITP ระบุ
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวดำเนินการโดยรัฐบาลประชาชนเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีระบบนําทางด้วยดาวเทียมและสัญญาณ 5G ใช้รถขนส่งตู้คอนเทนเนอร์แบบไร้คนขับ (IGV) อุปกรณ์เครนอัตโนมัติ ระบบตรวจสอบตู้คอนแทนเนอร์ (H986) ระบบตรวจสอบภาพอัจฉริยะและสามารถดำเนินการแลกเปลี่ยนข้อมูลโลจิสติกส์ข้ามพรมแดนระหว่างเวียดนามและจีนได้ สามารถควบคุมกำกับดูแลสินค้าด้วยระบบสมาร์ท การตรวจสอบแบบครบวงจร และการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนโดยอัตโนมัติ
สำหรับสินค้าที่ผ่านด่านทุกประเภท สามารถใช้บริการได้ รวมถึงสินค้าที่ต้องการตรวจสอบและกักกันโรค เช่น ผลไม้ หากผลไม้ไทยที่มาถึง จะผ่านโมเดลการทำงานของ Smart Port ดังนี้

ตู้คอนเทนเนอร์ผลไม้ขึ้นรถขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ไร้คนขับ (IGV)ที่ลานสินค้าชูนเจียงของประเทศเวียดนามโดยผ่านอุปกรณ์เครนอัตโนมัติ แล้วขับผ่านเส้นศูนย์กิโลเมตรชายแดนจีน–เวียดนาม ผ่านระบบตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ (เครื่องเอ็กซเรย์ขนาดใหญ่) ถ้าสินค้าที่ไม่มีปัญหาจะส่งไปลานสินค้าเพื่อส่งมอบสินค้าโดยตรงได้ สำหรับสินค้าที่ถูกสุ่มตรวจจะไปต่อที่พื้นที่ตรวจสอบและกักกันสินค้าต่อเพื่อรับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ของศุลกากร
นอกจากนี้ หลังเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ ด่านโหย่วอี้กวนแบบอัจฉริยะจะช่วยลดต้นทุน และสามารถยกประสิทธิภาพในการผ่านด่าน กล่าวคือ รูปแบบการทำงานของ Smart Port จะลดขั้นเอกสารที่ต้องยื่น 28 ฉบับ และลดขั้นตอนการพิธีการศุลกากร 28 รายการ รวมถึงลดแรงงานในการตรวจสอบร้อยละ 50 และยังช่วยลดความแออัดของรถบรรทุกสินค้าที่ด่าน ซึ่งจะสามารถช่วยประหยัดต้นทุนของสินค้ากว่า 1,000 หยวนต่อตู้ ทั้งนี้ ด่านอัจฉริยะดังกล่าวสามารถดำเนินงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง และการขนส่งสินค้าจากเมืองฮานอยถึงเมืองหนานหนิงจะใช้เวลาภายใน 24 ชั่วโมง

“ด่านโหย่วอี้กวน เป็นด่านทางบกนำเข้าผลไม้ที่ผู้ประกอบการบริษัทนำเข้าผลไม้เลือกใช้มากที่สุดด่านหนึ่ง ด้วยด่านนี้ มีความสะดวกทั้งในด้านระยะเวลาการขนส่ง และต้นทุนการขนส่งได้เปรียบ ประกอบกับความได้เปรียบทำเลที่ตั้ง และด่านโหย่วอี้กวนยังเป็นด่านที่นิยมในการนำเข้าผลไม้จากกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนของจีน ที่ผ่านมา ระหว่างช่วงฤดูกาลผลไม้ จะเกิดเหตุการณ์ความหนาแน่นของการจราจรที่บริเวณด่าน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อคุณภาพของผลไม้ ดังนั้น การก่อสร้างโครงการด่านโหย่วอี้กวนแบบอัจฉริยะ (Smart Port) ระหว่างด่านโหย่วอี้กวน (จีน)–ด่านหูหงิ (เวียดนาม) จะเป็นข่าวดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ใช้การขนส่งสินค้าผ่านด่านนี้มายังตลาดจีน เนื่องจากเป็นการยกระดับประสิทธิภาพการตรวจสอบสินค้าผ่านด่านมากยิ่งขึ้น และลดความเสี่ยงด้านความเสียหายของผลไม้ในระหว่างการขนส่งสินค้าผ่านด่าน” น.ส.สุนันทา ย้ำ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคาดการณ์ว่า ด่านโหย่วอี้กวนแบบอัจฉริยะจะใช้งานอย่างเป็นทางการ ภายในเดือนมิถุนายน 2568 ทำให้ฤดูกาลส่งออกผลไม้ไทยที่กำลังจะมาถึง ผู้ประกอบการไทยยังคงต้องพิจารณาเลือกใช้ช่องทางการส่งออกมายังจีน นอกเหนือจากด่านโหย่วอี้กวนในเขตปกครองมณฑลกว่างซีแล้ว ยังมีด่านที่มีการพร้อมในการนำเข้าผลไม้ไทย ได้แก่ ด่านรถไฟผิงเสียง ด่านตงซิง ด่านท่าเรือชินโจว ด่านสนามบินนานาชาติอู๋ซวีหนานหนิง ด่านหลงปัง และด่านอื่น ๆ ในมณฑลยูนนาน และมณฑลกวางตุ้ง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสินค้าเสียหายระหว่างการรอการขนส่งผ่านด่าน
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169.